จาริกสู่เยรูซาเล็ม
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวที่สามารถหวนรำลึกถึงอดีตได้และไม่มีพลังอะไรที่สามารถทำให้มนุษย์หวนนึกถึงอดีตได้เท่ากับศาสนา ความจริงที่ว่านี้สามารถเห็นได้จากการจาริกสู่ศาสนสถานอันเป็นต้นกำเนิดที่มาของศาสนาที่มนุษย์นับถือ
พุทธคยาเป็นแหล่งจาริกของพุทธศาสนิก มักก๊ะฮฺและมะดีนะฮฺเป็นแหล่งจาริกของมุสลิมทั่วโลก แต่เยรูซาเล็มเป็นเมืองแห่งการจาริกของชาวยิว ชาวคริสเตียนและชาวมุสลิมเพราะที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของมัสญิดอัลอักซอ บนภูผาแห่งวิหาร(Temple Mount) ศาสนสถานที่สำคัญอันดับสามของโลกมุสลิมและเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของชาวยิวและชาวคริสเตียน
ชาวยิวเชื่อว่าใต้มัสญิดอัลอักซอเป็นที่ตั้งของวิหารโซโลมอนและชาวยิวจะมาหวนรำลึกถึงการที่วิหารแห่งนี้ถูกทำลายตรงกำแพงร้องไห้ซึ่งอยู่ด้านข้างของมัสญิดอัลอักซอ ชาวยิวเชื่อว่ากำแพงส่วนนี้เป็นกำแพงของวิหารโซโลมอน
ส่วนชาวคริสเตียนเชื่อว่าเมืองเยรูซาเล็มเป็นสถานที่ที่พระเยซูถูกประหารด้วยการถูกตรึงบนไม้กางเขน และต่อมาได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นมาตรงบริเวณนั้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน
เยรูซาเล็มจึงเป็นเมืองแห่งการจาริกของศาสนิกจากสามศาสนาที่มีบรรพบุรุษร่วมกันคืออับราฮัมหรืออิบรอฮีม บิดาของอิสฮากและปู่ของยะกู๊บ
นบีมุฮัมมัดกล่าวว่ามัสยิดอัลอักซอถูกสร้างขึ้นโดยนบีอิบรอฮีมหลังจากสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺสี่สิบปี แต่หลังจากนั้น มัสยิดแห่งนี้ได้พังทลายไป ต่อมา นบีสุไลมานหรือโซโลมอนได้สร้างขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นก็ถูกทำลายอีกถึงสองครั้ง ครั้งสุดท้ายใน ค.ศ.70 โดยพวกโรมันซึ่งทำให้ชาวยิวต้องกระจัดกระจายไร้แผ่นดินนับแต่นั้นมา
ในสมัยที่นบีมุฮัมมัดมีชีวิต ท่านเคยเดินทางด้วยความเร็วอันมหัศจรรย์(ที่เรียกกันว่าอิสรออ์)จากเมืองมักก๊ะฮฺมายังบริเวณที่ตั้งมัสญิดอัลอักซอในปัจจุบันเป็นระยะทางเกือบสองพันกิโลเมตร และจากที่นั่น ท่านได้ถูกทูตสวรรค์นำตัวขึ้นสู่ฟากฟ้า(มิอฺรอจญ์)เพื่อไปรับคำบัญชาเรื่องการนมาซจากพระเจ้าโดยตรง หลังจากนั้นได้เดินทางกลับสู่เมืองมักก๊ะฮฺภายในคืนเดียว
เนื่องจากเยรูซาเล็มเป็นที่ตั้งของมัสญิดที่นบีคนสำคัญๆสร้างขึ้นและเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยรอยเท้าของนบีอีกมากมายหลายคน ชาวยิวและชาวคริสเตียนจึงถือเป็นจุดศูนย์กลางทางด้านจิตวิญญาณของพวกตน เมื่อสวดมนต์หรืออธิษฐานก็จะหันหน้าไปทางเมืองนี้ นบีมุฮัมมัดเองก็เคยละหมาดโดยหันหน้าไปทางทิศนี้เช่นกันเมื่อท่านอพยพไปยังเมืองมะดีนะฮฺ แต่ต่อมา อัลลอฮฺได้ทรงบัญชาท่านให้หันหน้าไปทางก๊ะอฺบ๊ะฮฺในมักก๊ะฮฺแทน
หลังสมัยนบีมุฮัมมัด เมื่อมุสลิมพิชิตเยรูซาเล็มได้ เคาะลีฟะฮฺอุมัรฺได้เดินทางไปรับกุญแจเมืองจากอาร์คบิชอปและได้สร้างมัสญิดไม้หลังเล็กๆขึ้นมาหลังหนึ่งบนภูผาแห่งวิหาร หลังจากนั้นได้ประกาศให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองที่ทุกศาสนิกมีเสรีภาพในการนับถือศาสนาของตน
ใน ค.ศ.691 เคาะลีฟะฮฺ อับดุลมาลิก บินมัรฺวานแห่งราชวงศ์อุมัยยะฮฺได้สร้างอาคารหกเหลี่ยมที่เรียกว่า “โดมศิลา” (Dome of the Rock) ครอบบริเวณโขดหินที่นบีมุฮัมมัดถูกนำตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังจากนั้นได้สร้างอาคารมัสญิดขึ้นมาอีกหลังหนึ่งสำหรับทำการนมาซ แต่เนื่องจากผู้คนมีจำนวนมาก อาคารมัสญิดไม่สามารถบรรจุได้หมด อาณาบริเวณภายนอกจึงถูกใช้เป็นสถานที่นมาซด้วย ดังนั้น อาณาบริเวณทั้งหมดจึงถือเป็นมัสญิดไปด้วย
เยรูซาเล็มตกเป็นของชาติคริสเตียนอีกครั้งหนึ่งในช่วงสงครามครูเสด แต่เศาะลาฮุดดีนหรือซาลาดินสามารถยึดกลับมาได้อีกครั้งหนึ่งและเศาะลาฮุดดีนยังคงใช้นโยบายเดิมในการปกครองเยรูซาเล็ม นั่นคือการปล่อยให้ทุกศาสนิกอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมีเสรีภาพทางศาสนา
ปัจจุบัน เยรูซาเล็มตกอยู่ในการยึดครองของประเทศอิสราเอลที่ต้องการจะทำให้เมืองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของชาวยิวอย่างเดียว ชาวอาหรับและชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินที่บรรพบุรุษของตัวเองเคยอาศัยอยู่และรัฐบาลอิสราเอลได้สร้างนิคมให้ชาวยิวเข้ามาอยู่อาศัยแทน
ประสบการณ์ตรงของผมในการจาริกสู่เยรูซาเล็มเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2557 บอกให้รู้ว่าการไปเยี่ยมเยือนมัสญิดดอัลอักซอของมุสลิมได้ถูกทำให้ยากลำบากด้วยการกักกันผู้ไปเยี่ยมเยียนไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองโดยไม่มีเหตุผล ไกด์เล่าให้ฟังว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อทำให้มุสลิมไม่อยากไป และเมื่อไม่มีมุสลิมไปเยือน รัฐบาลอิสราเอลก็จะได้เข้าไปยึดเป็นของตัวเอง
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับชาวยิวที่จะใช้กำลังยึดเอาของคนอื่นมาเป็นของตน
ในเมืองเฮบรอนมีอาคารแห่งหนึ่งซึ่งถูเรียกว่าฮะรอมอิบรอฮีม อาคารหลังนี้มุสลิมสร้างขึ้นครอบหลุมฝังศพของนบีอิบรอฮีม นบีอิสฮากและนบียะกู๊บไว้เป็นอนุสรณ์สถาน นบีทั้งสามคนนี้เป็นบรรพบุรุษของทั้งชาวยิว ชาวคริสเตียนและมุสลิม แต่เมื่อสถานที่แห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของอิสราเอล ชาวยิวได้กันหลุมฝังศพของนบียะกู๊บไว้สำหรับพวกตนโดยเฉพาะและไม่ยอมให้มุสลิมเข้าไปเยี่ยมเยียนทั้งๆที่สถานที่แห่งนี้มุสลิมเป็นผู้สร้างขึ้น
เท่านั้นยังไม่พอ ชาวอาหรับและชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนเส้นทางไปยังหลุมฝังศพของนบียะกู๊บยังถูกชาวยิวขับไล่จนหมู่บ้านนี้กลายเป็นหมู่บ้านร้างและรัฐบาลได้ส่งทหารมาคอยเฝ้าไม่ให้ชาวบ้านได้กลับมาอาศัยอีก เพราะชาวยิวกลัวว่าตัวเองจะถูกทำร้ายเมื่อมายังสถานที่แห่งนี้
ปัญหาความขัดแย้งเรื่องเมืองเยรูซาเล็มจึงมิใช่ปัญหาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เท่านั้น แต่เป็นปัญหาระหว่างอิสราเอลกับโลกมุสลิมทั้งหมด
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Pilgrimage to Jerusalem
Banjong Binkason
Human beings are the only species that can recaptures the past has no power and nothing can make a man of religion, recalling the past. The fact that this can be seen from a religious pilgrimage to the birthplace of the religion that respects human.
Bodh Gaya is the Buddhist pilgrim. Tend to Islam and Munawara a pilgrimage of Muslims around the world. But Jerusalem is a city of pilgrimage of Jews. Christians and Muslims, because here is the location of the al-Aqsa mosque. On the mountain of the Temple (Temple Mount), the third most important religious places of the Muslim world and the spiritual center of the Jewish and Christian.
Jews believe that the mosque Al-Aqsa is the Temple of Solomon and the Jews will come retrospective of the temple was destroyed at the Wailing Wall on the side of the mosque of Al Aqsa. Jews believe that the wall is the wall of the Temple of Solomon.
Most Christians believe that Jerusalem is the place where Jesus was executed by crucifixion. And later had to build up the church to the monument area.
Jerusalem is a city of pilgrimage b degrees from three religious congregations have a common ancestor, Abraham, or Abraham's. His father Isaac and grandfather of John coupe.
Muhammad Said al-Aqsa mosque built by Prophet Abraham's built like mutual bathe after forty years. But after that, This mosque was demolished later to the Prophet Sulaiman or Solomon rebuilt. After that, it was destroyed again twice. Last in AD 70 by the Romans that the Jews be scattered without the land ever since.
In the days of the Prophet Muhammad with life. Have you ever traveled with miraculous speed (also known as the Children of Israel Marseille) from Islam often shifts to the area where the Al Aqsa Mosque today, a distance of nearly two thousand kilometers. And from there He was the angel brought up into the sky (Allah is waiting for the baby) to receive the prayers of God's direct command. After returning to the city often shifts to Islam within a single night.
Since Jerusalem was the site of the prophet Mosques were built and the area is filled with footsteps of the Prophet many people. Jews and Christians as their spiritual center. When prayer or prayer, it would be facing this city. Muhammad himself had a prayer, facing south as well, when he emigrated to the city Munawara but later Allah, Allah had commanded him to face the shift Allah bathe in often shift. Islam instead
After days of Prophet Muhammad When the Muslims conquered Jerusalem Lee knocked fa Islam Omar has been the key to the city from the archbishop and has built a small wooden Mosques up on the mountain behind the temple. After the proclamation of Jerusalem as a city for all congregations have their freedom of religion.
Lee knocked in 691 AD Islam Khalifa Abdul Malik bin Mal Allah Allah reminded me of the Saudi royal family has built a hexagonal building known as the "Dome of the Rock" (Dome of the Rock) cover the rocks on the beach. Muhammad was taken up into the sky. After that, the building Mosques up one after another for the prayer. But because a lot of people. Building Mosques can not fit them all. Outside area was used as a place of prayer, so all the territory it is to Mosques.
Jerusalem vested in the National Christian again during the Crusades. But Saladin, or Saladin could hold back one more time and Saladin are still using the old policy rule in Jerusalem. That is to let all Muslims live together in peace and religious freedom.
Current occupation of Jerusalem is in Israel to make Jerusalem the capital of the Jewish people alone. Arabs and Palestinians living in Jerusalem were evicted from the land where their ancestors lived and their own government, Israel has built settlements for Jews to live instead.
I have direct experience of the pilgrimage to Jerusalem in April 2557 indicated that the visit to the mosque of Al Aqsa Muslim was made difficult by the detention of a visit to the checkpoint. Immigration without reason The guide told us that this is not going to make Muslims. And when Muslims visit The Israeli government will have to hold its own.
Not unusual for Jews to use force to seize other people's work as your own.
In the city of Hebron is one of the building which is called Haram rub Abraham's. This building, built around the tomb of the Muslim Prophet Abraham's. Isaac B. and B. Michels coupe as a memorial. B. These three were the ancestors of the Jews. Christians and Muslims But this place is under the occupation of Israel. Jews have common grave of the Prophet John coupe for their particular and did not allow Muslims to visit this place in spite of Islam is built.
It is not enough Arabs and Palestinians living in villages on the route to the tomb of the Prophet John coupe was Jewish expulsion until the village became deserted villages and the government sent soldiers to guard the villagers have returned. live again Because Jews fear that they will be abused when to this place.
Jerusalem is not a controversial issue between Israel and Palestine only. But the problem between Israel and the whole Muslim world.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason
Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น