หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

สองศาสนากับสองมหาอาณาจักร



บรรจง บินกาซัน

เมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา (2558) ผมได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศสเปนเป็นเวลา 6 วันก่อนไปทำอุมเราะฮฺที่มักก๊ะฮฺ หลังจากเสร็จพิธีอุมเราะฮฺแล้ว ตอนขากลับ ผมได้แวะท่องเที่ยวในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกีเป็นเวลา 3 วัน


การไปเยือนสองประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาณาจักรอิสลามทำให้ผมได้เห็นปฏิสัมพันธ์ทั้งในเชิงลบและเชิงบวกของสองศาสนาใหญ่ของโลก นั่นคือ ศาสนาคริสต์และอิสลาม

สเปนกับตุรกีเคยเป็นดินแดนที่อารยธรรมอิสลามรุ่งเรืองต่อเนื่องกันมานานนับพันปี อิสลามเข้าไปในสเปนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 และรุ่งเรืองอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานถึงเจ็ดร้อยปี แม้มุสลิมได้ถูกขับไล่ออกไปจากแผ่นดินสเปนใน ค.ศ.1429 และประเทศสเปนได้เป็นประเทศคาทอลิกในปัจจุบัน แต่วัฒนธรรมความเจริญรุ่งเรืองที่มุสลิมได้สร้างไว้ในสมัยอาณาจักรอันดะลุสโดยเฉพาะทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมนั้นยังคงมีให้เห็นได้อย่างชัดเจนจนถึงปัจจุบัน

สาเหตุหนึ่งที่โบราณสถานทางประวัติศาสตร์สมัยอันดะลุสไม่ได้ถูกทำลายและยังถูกเก็บรักษาไว้ก็เพราะความสวยงามอลังการของสิ่งปลูกสร้างที่มาจากฝีมือและการสร้างสรรค์ของมุสลิมเผ่ามัวร์ เช่น มัสญิดหลวงแห่งคอร์โดบา ปราสาทอัลฮัมบราที่เมืองกรานาดา ปราสาทอัลคาซาร์ที่เมืองเซบีญ่าและอื่นๆ สิ่งก่อสร้างเหล่านี้มีความงดงามอลังการจนองค์กรยูเนสโกได้จดทะเบียนไว้เป็นมรดกโลกและเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้สเปนจำนวนมหาศาลในแต่ละปี

มัสญิดหลวงแห่งคอร์โดบาในสมัยอาณาจักรอันดะลุสมีขนาดกว้างใหญ่สามารถจุคนละหมาดได้ประมาณแสนคน ภายในมัสญิดมีเสาหินประเภทต่างๆหลากสีหลายร้อยต้น แต่เมื่อมุสลิมถูกขับไล่ออกจากสเปนแล้ว เสาหินหลายสิบต้นตรงใจกลางมัสญิดได้ถูกตัดออกเพื่อสร้างโบสถ์และแท่นทำพิธีทางศาสนาคริสต์ขึ้นมา ส่วนบริเวณมัสญิดโดยรอบได้ถูกรัฐบาลสเปนเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมทุกวัน

มุสลิมในสเปนพยายามขออนุญาตรัฐบาลสเปนเข้าไปละหมาดในมัสญิดคอร์โดบา แต่ไม่ได้รับอนุญาตเพราะมัสยิดแห่งนี้ได้เป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว

ปัจจุบัน ศูนย์กลางอิสลามในสเปนอยู่ที่เมืองมาดริด แต่ไม่ได้มีลักษณะเป็นมัสญิดขนาดใหญ่และสวยงามอลังการเหมือนมัสญิดหลวงแห่งคอร์โดบา แต่เป็นอาคารปลูกสร้างสมัยใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกษัตริย์แห่งซาอุดิอารเบีย อาคารศูนย์กลางอิสลามเกิดขึ้นได้ในสเปนก็เพราะความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกษัตริย์ของสองประเทศ ในอาคารศูนย์กลางอิสลามที่มาดริดประกอบด้วยห้องจัดแสดงนิทรรศการ สำนักงาน สถานที่สำหรับละหมาดที่จุคนได้หลายร้อยคนและร้านอาหาร ตัวอาคารถูกออกแบบโดยการผสมผสานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กับศิลปะแบบอันดะลุสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ

ศิลปะอิสลามยังสามารถเห็นได้แม้แต่ตามอาคารหลายแห่งในสเปนโดยเฉพาะสนามสู้วัวที่ภายนอกบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นศิลปะอิสลามสมัยอันดะลุสโดยฝีมือของชนเผ่ามัวร์ที่อยู่ในอาฟริกาตอนเหนือ ชาวสเปนเรียกสถาปัตยกรรมอิสลามว่า “มุเดญาร์”

ในสเปนยังมีสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจและหลายคนยังไม่รู้จักเพราะเพิ่งมีการขุดพบ นั่นคือ มะดีนะฮ์ อัซซะฮ์รอ หรือเมืองแห่งดอกไม้ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองคอร์โดบาไปประมาณ 13 กิโลเมตร เมืองนี้เป็นเมืองใหม่ที่ผู้ปกครองมุสลิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาลแทนเมืองคอร์โดบาที่เริ่มแออัดและเพื่อทาบรัศมีกับเมืองแบกแดดที่เป็นคู่แข่ง แต่น่าเสียดายที่สงครามกลางเมืองทำให้เมืองนี้สร้างไม่เสร็จ มะดีนะฮ์ อัซซะฮ์รอมีอาณาเขตกว้างขวางและการขุดค้นเพิ่งจะทำได้เพียงสิบเปอร์เซนต์เท่านั้น

ส่วนอิสตันบูลเดิมทีคือเมืองคอนสแตนติโนเปิลซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันไบแซนตินที่รับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาทางการของอาณาจักรหลังสมัยพระเยซู เมืองนี้มีโบสถ์เซนต์อายาโซเฟียซึ่งเดิมเป็นโบสถ์คริสต์ของสังฆราชกรีกออร์โธดอกซ์ แต่ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนเป็นโบสถ์คริสต์คาทอลิก

เมื่อกรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกพิชิตโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 แห่งอาณาจักรออตโตมานใน ค.ศ.1453 โบสถ์เซนต์อายาโซเฟียได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นมัสญิด ดังนั้น วัสดุอุปกรณ์ที่ถูกใช้ในพิธีกรรมทางศาสนคริสต์ เช่น แท่นบูชา ระฆัง เครื่องใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาจึงถูกย้ายออกมา ส่วนภาพพระเยซูและพระนางมารีย์ที่ถูกปูด้วยกระเบื้องโมเสกหลากสีสันได้ถูกป้ายกลบด้วยปูนปลาสเตอร์ ทั้งนี้เพราะคำสอนของอิสลามไม่อนุญาตให้มีรูปปั้นหรือรูปภาพคนและสัตว์ในมัสญิด

แต่หลังจากที่มีการสร้างมัสญิดสีฟ้า(Blue Mosque) ได้ไม่นาน อายาโซเฟียก็ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ภายในยังมีวัตถุที่เป็นสัญลักษณ์ของอิสลามอยู่ เช่น ป้ายชื่อนบีมุฮัมมัดและเคาะลีฟะฮฺทั้งสี่ แท่นเทศนา สถานที่ยืนนำละหมาดของอิหม่าม และสัญลักษณ์ของคริสต์ศาสนา เช่น รูปพระเยซู นางมารีย์และยอห์น เดอะแบบติสต์ ซึ่งทำด้วยกระเบื้องโมเสก รวมทั้งเหยือกใบใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนชิ้นเดียวเพื่อใส่น้ำทำพิธีทางศาสนา

อิสลามและศาสนาคริสต์มีปฏิสัมพันธ์กันทั้งในเชิงบวกและเชิงลบมาตลอดนับตั้งแต่นบีมุฮัมมัดนำอิสลามมาเผยแผ่ในคาบสมุทรอาหรับ และปฏิสัมพันธ์ทั้งสองรูปแบบนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไป แต่มิใช่ในทางวัตถุ หากแต่เป็นการปฏิสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมซึ่งจะเป็นเชิงบวกได้ก็ต่อเมื่อศาสนิกมีความเข้าใจในประวัติศาสตร์และที่มาของศาสนาที่ตัวเองนับถือและรู้จักศาสนาของเพื่อน


ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


Two religions and two great empires


Banjong Binkason



In April last year (2558) I had the opportunity to travel to Spain for six days to do Umrah frequently shifts Islam. After the Umrah and then on the way back I stopped in the city of Istanbul. Turkey for three days

The visit to the two countries that were once the realm of Islam that I have seen in both the negative and the positive interaction of the two major religions of the world are Christianity and Islam.

Spain and Turkey used to be a land where Islamic civilization flourished continuously for thousands of years. Islamic Spain in the 8th century and flourished there for over seven hundred years. Even Muslims were expelled from Spain in 1429 and Spain is a Catholic country today. But the culture that flourished in the Muslim kingdom had made a Yoshida group dedicated to the art and architecture that still has to be clearly seen to date.

The cause of the archaeological, historical period, the Maeda Group and have not been compromised and has been preserved because of the magnificent building on the skills and creativity of the Muslim tribes Moore as Mosques Royal Court. Cordoba Alhambra castle in Granada. Alcazar Castle in Seville and more. These buildings are magnificent grand organization as UNESCO World Heritage-registered and is attracting an enormous amount of revenue to Spain each year.

Mosques capital of Cordoba, in the realm Maeda Group has a vast capacity prayers were about hundred people. Mosques are the pillars of the hundreds of types and colors. But when the Muslims were expelled from Spain and then. Monolithic dozens of trees in the heart of the mosque have been cut to build a church and altar, made up of the Christian faith. The area surrounding the mosque has been transformed into a museum, the Spanish Government welcomes tourists who visit every day.

Muslims in Spain to ask the Spanish government to pray in the mosque of Cordoba. But was not allowed because the mosque is now a museum.

Current Islamic center in the city of Madrid in Spain. It does not look like a mosque with a large and magnificent as the royal mosque of Cordoba. But as modern buildings received financial support from the king of Saudi Arabia. Building the Islamic center have occurred in Spain because of the good relations between the two sovereign countries. Islamic building in central Madrid exhibits include office facilities for a capacity of several hundred worshipers and restaurants. The building was designed by a combination of modern architecture and art at Maeda Group, which is unique.

Islamic art can still be seen even by many of the buildings in Spain, especially outside the Bullring indicates to me that contemporary Islamic art is a work of WADA by Luke Moore tribes in North Africa. Spanish Islamic architecture known as "de Mugabe's permission."

In Spain, there are more places of interest, and many people still do not know because I have discovered that Medina Azteca my God, wait, or City of Flowers, which is located away from the city of Cordoba to. the city is about 13 kilometers of new Muslim rulers built to the offices of the government of the city of Cordoba from the crowded city of Baghdad and to brace the radius with a rival. Unfortunately, the Civil War, the city is not finished Madinah Azteca my God, wait a vast territory and excavations had only ten per cent only.

The city is Istanbul, formerly Constantinople, Adrianople, the capital of the Roman Empire, Byzantium Latinos that Christianity is the official religion of the empire after the reign of Jesus. The town is St. Sophia Ayala, a former church of the Greek Orthodox Patriarch. It was later converted into a Catholic church.

When the city of Constantinople Adrianople was conquered by Sultan Mehmet the second mate of the Ottoman Empire in 1453, St. Sophia Ayala has been turned into a mosque, so the material was. used in religious rituals such as the Christian altar bells used in a religious ceremony has been moved out. The image of Jesus and Mary was paved with a mosaic of colorful banners were removed by plaster. Because the teachings of Islam prohibits statues or images of people and animals in the Mosques.

But after building a mosque on the blue (Blue Mosque) has recently Ayala Sophia was converted into a museum inside the object as a symbol of Islam, such as labels Prophet Muhammad and knocked Lee fa God either. four podium places preaching of the imam leading prayers standing. And as a symbol of Christianity, Jesus, Mary and John the Baptist, which is made with mosaic tiles. The big jug made from a single piece of marble to a water ritual.

Islam and Christianity interaction both positive and negative all along since the Prophet Mohammed led to spread Islam in the Arabian Peninsula. Both forms of interaction and will continue to exist. But not to objects But the cultural interaction which will be positive when congregations understand the history and origin of the religion itself known and respected religions of friends.


Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น