บรรจง บินกาซัน
ในวันอีดุลอัฎฮาซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองแสดงความยินดีให้แก่พี่น้องมุสลิมส่วนหนึ่งจากทั่วโลกที่ได้มีโอกาสไปทำพิธีฮัจญ์ที่เมืองมักก๊ะฮฺ มุสลิมจะมีพิธีกรรมที่แตกต่างไปจากวันอีดุลฟิฏร์หรือวันเฉลิมฉลองการสิ้นสุดเดือนถือศีลอดอย่างหนึ่ง นั่นคือ การเชือดปศุสัตว์ เช่น แพะ แกะ วัวหรืออูฐ คนส่วนใหญ่จึงมักเข้าใจผิดว่าการเชือดสัตว์ดังกล่าวเป็นการบูชายัญ
ความจริงแล้ว การบูชายัญคือการบูชาเทพเจ้าในลัทธิพราหมณ์ ศาสนาพราหมณ์สอนว่ามีเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่คอยดลบันดาลให้มนุษย์มีอันเป็นไปต่างๆนานา หากผู้ใดปรารถนาจะได้พรหรือให้งดการลงโทษ จะต้องทำการบูชายัญ คือ การฆ่าสัตว์หรือคน ตามจำนวนที่พราหมณ์บอก
ลัทธิพราหมณ์เกิดขึ้นมานานก่อนสมัยพุทธกาล นั่นหมายความว่าการบูชายัญมีมานานนับหลายพันปีและยังคงเป็นที่เชื่อถือและปฏิบัติสืบต่อกันมา เช่น การบูชายัญเจ้าแม่กาธิมัยที่ประเทศเนปาล ซึ่งจะทำกันทุกห้าปีโดยการเชือดสัตว์ เช่น ควาย แพะ หมู ไก่ จำนวน 250,000 ตัวด้วยความเชื่อว่าจะเป็นการปัดเป่าความชั่วร้ายและนำโชคมาให้ผู้คน เมื่อสัตว์ถูกเชือดเพื่อเซ่นสรวงเจ้าแม่แล้ว เนื้อของสัตว์บูชายัญจะไม่มีใครนำมากิน
ในอินเดียมีการเชือดแพะเพื่อเอาเลือดสดๆไปบูชาเจ้าแม่กาลี ชาวยิวและชาวคริสเตียนในอดีตก็มีความเชื่อและการปฏิบัติในเรื่องการบูชายัญเช่นกัน
ชาวอาหรับก่อนหน้าอิสลามมีการเชือดสัตว์บูชายัญเทวรูปที่ตนเคารพสักการะเพื่อหวังการคุ้มครองและการได้รับผลประโยชน์ทางวัตถุ เมื่อเชือดสัตว์แล้ว เลือดของสัตว์จะถูกสาดไปบนกำแพงก๊ะอฺบ๊ะฮฺหรือบนเทวรูป ส่วนเนื้อของสัตว์จะถูกปล่อยทิ้งไว้ให้คนมาเก็บเอาไปกิน
แต่การเชือดสัตว์พลีในอิสลามมีที่มาจากอับราฮัมหรือนบีอิบ
รอฮีมบรรพบุรุษทางสายเลือดและความศรัทธาของชาวยิว ชาวคริสเตียนและมุสลิม
คัมภีร์กุรอานเล่าว่าเมื่ออัลลอฮฺต้องการจะทดสอบว่านบีอิบรอฮีมมีความศรัทธาและเสียสละเพื่อพระองค์มากน้อยเพียงใด คืนหนึ่ง พระองค์ได้บัญชานบีอิบรอฮีมในความฝันว่าให้เขาเชือดอิสมาอีลบุตรคนแรกพลีถวายต่อพระองค์ แต่นบีอิบรอฮีมยังคงลังเลไม่บอกเรื่องนี้แก่ลูกของตัวเอง เมื่อฝันต่อเนื่องกันสามคืน นบีอิบรอฮีมจึงได้เล่าความฝันของเขาให้อิสมาอีลฟัง
เมื่ออิสมาอีลได้ยินพ่อบอกเช่นนั้น แทนที่เขาจะตกใจหรือหวาดกลัว เขากลับบอกนบีอิบรอฮีมผู้เป็นพ่อว่า “หากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าแล้ว พ่อจงปฏิบัติตามเถิดและพ่อจะพบว่าฉันเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้อดทน”
เมื่ออิสมาอีลเข้าใจและยอมถูกเชือดพลี นบีอิบรอฮีมจึงทำตามคำบัญชาของพระเจ้าด้วยการพาอิสมาอีลไปยังแท่นเชือด แต่ระหว่างทาง นบีอิบรอฮีมถูกซาตานมารร้ายคอยดักล่อลวงมิให้เขาทำตามประสงค์ของพระเจ้า เขาจึงเอาหินขว้างมัน แต่ซาตานไม่ละความพยายาม มันกลับมาอีกสองครั้งด้วยคำล่อลวงเดิมๆ แต่มันก็ถูกนบีอิบรอฮีมเอาหินขว้างจนมันไม่กลับมาอีก
ต่อมาในสมัยของนบีมุฮัมมัด การขว้างหินสามแห่งได้ถูกนบีมุฮัมมัดจัดให้เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งสำหรับผู้ทำพิธีฮัจญ์ต้องปฏิบัติเพื่อระลึกถึงการต่อสู้กับมารร้ายของนบีอิบรอฮีม
เมื่อมาถึงแท่นเชือด อิสมาอีลได้บอกนบีอิบรอฮีมว่า “พ่อจงมัดฉันให้แน่นและให้ฉันก้มหน้าและเชือดฉัน” ทั้งนี้เพื่อที่พ่อจะได้ไม่ลังเลเมื่อสบตาลูกผู้เป็นที่รัก เมื่อนบีอิบรอฮีมเงื้อมีดจะเชือดลูกรัก อัลลอฮฺทรงเห็นถึงความศรัทธาและความเสียสละของนบีอิบรอฮีม ดังนั้น พระองค์จึงมีบัญชาให้นบีอิบรอฮีมนำแพะหรือแกะมาเชือดแทนอิสมาอีล
แต่หลังจากสมัยของนบีอิบรอฮีม ชาวอาหรับผู้เป็นลูกหลานของท่านได้หลงลืมการปฏิบัติของนบีอิบรอฮีมผู้เป็นบรรพบุรุษของตน ในเทศกาลฮัจญ์ ชาวอาหรับจะเชือดสัตว์พลีถวายเทวรูป รอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺและเอาเลือดของสัตว์สาดไปบนกำแพงก๊ะอฺบ๊ะฮฺ
ในสมัยของนบีมุฮัมมัด การเชือดสัตว์ เช่น แพะ แกะ วัวหรืออูฐ ยังคงเป็นที่ปฏิบัติสำหรับมุสลิมที่มีความสามารถพอเพื่อเป็นการระลึกถึงวีรกรรมแห่งความศรัทธาและความเสียสละของนบีอิบ รอฮีมกับบุตรชาย แต่มีข้อกำหนดว่าสัตว์ที่จะนำมาเชือดต้องเป็นสัตว์ที่สมบูรณ์ไม่มีตำหนิหรือพิการ อายุต้องครบ การเชือดต้องมีเจตนาว่าเป็นการพลีถวายให้พระเจ้า และเนื้อของสัตว์จะถูกนำมาแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งของผู้เชือด อีกส่วนหนึ่งแจกจ่ายแก่ญาติสนิทมิตรสหายและอีกส่วนหนึ่งสำหรับคนยากจน
พิธีกรรมเชือดสัตว์นี้ถูกเรียกว่า “กุระบาน” ซึ่งในภาษาอาหรับหมายถึงการทำให้ใกล้ชิดกับพระเจ้าด้วยการเสียสละสิ่งดีๆเพื่อพระองค์
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
KURABAN is not a sacrifice.
Banjong BinKasunOn the eighth day of the eighth day of the year, the Muslims celebrate the celebration of the Hajj in Makkah. Muslims will have different rituals from the eighth day of the fast, or the celebration of the end of the fasting month, such as slaughter of livestock such as goats, sheep, cattle or camels. Sacrifice
In fact, sacrifice is the worship of gods in Brahmanism. Brahmanism teaches that there is a great god who constantly strives for human beings. If anyone wishes to be blessed or to abstain from punishment. The sacrifice is to kill animals or people. According to the number of Brahmins.
Brahmanism was born long before the modern era. This means that sacrifice has been around for thousands of years and continues to be trusted and followed, such as the sacrifice of the goddess Kathyi in Nepal. This will be done every five years by slaughtering animals such as buffalo goats, 250,000 chickens, with the belief that it will dispel the evil and bring luck to people. When animals are sacrificed for the goddess. The meat of the sacrificial animals will not be eaten.
In India there is a goat's slaughter to bring fresh blood to the goddess Kali. Jews and Christians in the past also have faith and practice in the sacrifice as well.
Arabs before Islam have sacrificed sacrifices of idolatry for their protection and material gain. When slaughtering animals. The blood of animals will be splashed on the walls of the mosque or on the idol. The meat of animals will be left to eat.
But the slaughter of animals in Islam comes from Abraham or the Prophet.
The Hebrew ancestors of the blood and the faith of the Jews Christian and Muslim
The Quran says that when Allah waits to testify to the fact that Prophet Ibrahim is devoted to his faith and sacrifices for one night, He commanded the Prophet Ibrahim in the dream. Let him sacrifice his first son, Ishmael. But Ibrahim is still hesitant to tell this to his own children. When dreaming for three consecutive nights. Ibrahim hath told his dreams to Isma'il.
When Ishmael heard his father said so. Instead, he will be frightened or terrified. He told the Prophet Ibrahim, "If it is God's will then Follow me, and you will find me one of those who are patient. "
When Ishmael understood and was sacrificed Prophet Ibrahim complied with the commandment of God by bringing Ishmael to the altar. But on the way Prophet Ibrahim was deceived by Satan, so he was not tempted by the will of God. So he threw stones at him. But Satan does not try. It came back two times with the same temptation. But it was the Prophet Ibrahim who stoned it until it came back.
Later in the prophet Muhammad Three stone throws have been proclaimed by the Prophet Muhammad as a ritual for Hajj pilgrims to remember the battle with the Prophet Ibrahim.
When it comes to the razor. Isma'il told the Prophet Ibrahim. "Dad, tie me up tight, and put me on my knees and slice me up," so that he will not hesitate when his beloved baby catches. When Ibrahim bin Abdullah, the knife will slay my son. Allah has seen the faith and sacrifice of the Prophet Ibrahim, so He commanded the Prophet Ibrahim, to take the goat or sheep to slaughter for Ismail.
But after the time of the Prophet Ibrahim The descendants of the Arabs have forgotten the practice of their own prophet Ibrahim. Hajj Festival Arabs to slaughter animals sacrifice idol And then the blood of the beast splashed on the walls of the mosque.
In the time of Prophet Muhammad The slaughter of animals, such as goats, sheep, cattle or camels, is still practiced for Muslims who are capable enough to commemorate the heroic devotion and sacrifice of the Prophet. Wae Hee and his son It is required that animals be slaughtered to be complete, no blame or disability, the age must be slaughtered, it is intended to be dedicated to God. The meat of animals is divided into three parts. Part of the slaughterhouse The other part is distributed to relatives, friends and another for the poor.
The ritual of slaughtering this animal is called "blooming", which in Arabic means to be close to God by sacrificing good things to Him.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น