บรรจง บินกาซัน
ชื่อเป็นคำที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกมนุษย์ สัตว์และสิ่งของ แต่เนื่องจากมนุษย์มีมากหน้าหลายตาและมีจำนวนมาก การตั้งชื่อจึงซ้ำกัน ถ้าในตำบลใดมีคนชื่อ“มัด” สักสิบคน ก็ยากที่จะรู้ว่านายมัดที่เอ่ยมานั้นเป็นใคร ดังนั้น เพื่อจำแนกคนที่มีชื่อซ้ำกันว่าเป็นคนใด จึงได้มีการระบุลักษณะของคนผู้นั้นออกมาประกอบชื่อ เช่น มัดโม้ มัดแมว มัดตาหวาน มัดเป๋ เป็นต้น บางคนชื่อมัด แต่นิสัยอันธพาล ชาวบ้านจึงให้ฉายาว่า "มัดหวา" (ผวนคำเองจะรู้ความหมาย)
ชื่อจึงเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวบุคคลและบ่งบอกว่าคนผู้นั้นเป็นชนชาติใดจากภาษาของชื่อนั้น
แม้จะมีชื่อแล้ว แต่เพื่อให้รู้ว่าคนผู้นั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร สืบเชื้อสายมาจากไหน มนุษย์จึงมีระบบการตั้งชื่อและนามสกุลขึ้นมาตามวัฒนธรรมของตน
หลายพันปีก่อน ชนชาติในตะวันออกกลางโดยเฉพาะคนที่สืบเชื้อสายมาจากอับราฮัมซึ่งเป็นชาวอาหรับและชาวอิสราเอลมีระบบการตั้งนามสกุลของตนด้วยการใช้คำว่า “บิน” “เบน” หรือ “อิบนุ” ซึ่งทั้งหมดนี้แปลว่าลูกชาย ถ้าเป็นลูกสาวก็ใช้คำว่า “บินต์” และตามด้วยชื่อพ่อเพื่อระบุว่าคนที่มีชื่อนั้นเป็นลูกเป็นหลานใคร
ในคัมภีร์ไบเบิลเราจะพบระบบการตั้งชื่อและสกุลที่ระบุว่าคนผู้นั้นเป็นบุตรของใครและสืบเชื้อสายมาจากใครซึ่งสามารถสืบย้อนไปได้หลายชั่วคนจนถึงอับราฮัม
ชาวอาหรับก็เช่นกัน นบีมุฮัมมัด มีนามสกุลจริงๆว่า บินอับดุลลอฮฺ บินอับดุลมุฏฏอลิบ บินฮาชิม บินอับดุมะนาฟ บินกุซ็อย บิน.....เรื่อยไปจนถึงอับราฮัม
ในสังคมอาหรับ คนที่สามารถไล่เรียงบรรพบุรุษของตนเองและคนอื่นๆได้ถือว่าเป็นคนมีความรู้และได้รับการยกย่อง ด้วยระบบนามสกุลที่ใช้ชื่อพ่อนี้เองที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ เพราะทำให้เราได้รู้ว่าศาสดาคนสำคัญๆในอดีตมีบิดาคนเดียวกัน แต่ต่างมารดากันเท่านั้น
นอกจากนี้แล้ว ชาวอาหรับในอดีตยังมีระบบการตั้งฉายาโดยการใช้คำว่า “อบู”ซึ่งแปลว่า “พ่อ” หรือ “อุมมุ” ซึ่งแปลว่าแม่และตามด้วยชื่อลูกชายคนแรก เช่น นบีมุฮัมมัดถูกเรียกด้วยฉายาว่า “อบุลกอซิม” (พ่อของกอซิม) หรือ “อุมมุสะละมะฮฺ” (แม่ของสะละมะฮฺ) เป็นต้น
หลังสมัยนบีมุฮัมมัด ชนชาติต่างๆที่เข้ารับอิสลามจะใช้ชื่อมุสลิมเพื่อระบุว่าตัวเองเป็นมุสลิมซึ่งเป็นการช่วยละลายความรู้สึกทางชาติพันธุ์ ชาวจีน ชาวอินโดนีเซีย ชาวอินเดีย ชาวปากีสถาน ชาวตะวันตกผิวขาว ชาวนิโกรผิวดำนับล้านคนที่นับถืออิสลามใช้ชื่อว่ามุฮัมมัดบ้าง บางคนใช้ชื่ออับดุลลอฮฺ หรือไม่ก็อุษมาน ฯลฯซึ่งทำให้มุสลิมทั่วโลกมีความรู้สึกเป็นชาติเดียวกัน
การตั้งชื่อของมุสลิมไม่ต้องอาศัยวันเดือนปีเกิด ไม่ต้องดูเลขผานาที นบีมุฮัมมัดสั่งมุสลิมให้ตั้งชื่อลูกของตัวเองด้วยชื่อที่ไพเราะ ดังนั้น มุสลิมจึงมีวิธีการตั้งชื่อดังนี้
1. นำคุณสมบัติหรือพระนามของพระเจ้ามาใช้โดยใส่คำว่า “อับดุ”(บ่าว)นำหน้าพระนามนั้น เช่น อับดุลลอฮฺ(บ่าวของอัลลอฮฺ) อับดุลฮาดี (บ่าวของผู้ทรงนำทาง) อับดุลเราะฮีม(บ่าวของผู้ทรงเมตตา) เป็นต้น
2. ตั้งชื่อตามชื่อของนบีหรือศาสดาที่ตัวเองชื่นชม เช่น มูซา ฮารูน อีซา
3. ใช้ชื่อของบรรดาสาวกหรือบุคคลสำคัญทางศาสนา เช่น บิลาล อุษมาน
4. ถ้าเป็นผู้หญิงจะใช้ชื่อภรรยา ลูกสาวของนบีมุฮัมมัด เช่น อาอิชะฮฺ เคาะดีญะฮฺ ฟาฏิมะฮฺ หรือชื่อของผู้หญิงที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น มัรฺยัม
5. ตั้งชื่อโดยใช้คำที่มีความไพเราะและมีความหมายดีๆจากคัมภีร์กุรอาน เช่น ฮุดา(ทางนำ) นาดียะฮฺหรือนาเดีย(ผู้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่ความดี)
6. ไม่เอาชื่อเทพเจ้าที่ผู้คนกราบไหว้บูชาหรือชื่อของบุคคลที่คัมภีร์กุรอานกล่าวว่าเป็นผู้ต่อต้านพระเจ้ามาใช้ในการตั้งชื่อ เช่น ฟิรฺอูน(ฟาโรห์) เป็นต้น
คนมุสลิมจะไม่เปลี่ยนชื่อของตนเหมือนคนไทยที่เชื่อตามคำบอกของหมอดูหรือเกจิอาจารย์ว่าชื่อของตนไม่เป็นมงคลเพราะมีสระหรือการันต์พะรุงพะรัง เพราะคนมุสลิมเชื่อว่าเคราะห์กรรมต่างๆเกิดขึ้นจากพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อทดสอบความศรัทธาและไม่โทษชื่อของตัวเองว่าเป็นสาเหตุ
เมื่ออิสลามแผ่ขยายกว้างออกไปและมีคนหลากหลายชนชาติในประเทศต่างๆมาเข้ารับอิสลามมากขึ้น บางประเทศได้ใช้ระบบนามสกุลแบบอาหรับซึ่งเราจะเห็นได้ในบางประเทศ เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นต้น
แต่เมื่อชาติตะวันตกเริ่มมีอำนาจและเข้ามาครอบครองชาติมุสลิม ชาติตะวันตกได้พยายามลบร่องรอยที่เป็นสัญลักษณ์ของอิสลามเพื่อตัดความสำนึกทางประวัติศาสตร์ให้หมดไปจากมุสลิม ระบบนามสกุลเป็นสิ่งหนึ่งที่ชาติตะวันตกหรือผู้ปกครองที่นิยมตะวันตกพยายามลบล้าง ชื่อมุสลิมได้ถูกดัดแปลงให้เข้ากับเชื้อชาติ เช่น สุลัยมาน เป็นสุลัยมานอฟ ชื่ออิบรอฮีมถูกแต่งแต้มเป็นอิบราฮีโมวิช เป็นต้น
อิบนุสินา มุสลิมชาวเปอร์เซียที่ชาวตะวันตกยกย่องว่าเป็นบิดาทางการแพทย์และใช้ตำราของเขาเป็นแหล่งอ้างอิงนานนับหลายร้อยปีได้ถูกเปลี่ยนเป็นภาษาละตินว่า “Avicenna” อิบนุรุชด์นักปรัชญา นักดาราศาสตร์และนักนิติศาสตร์มุสลิมถูกเปลี่ยน “Averroes” เพียงเพื่อให้ดูว่าบุคคลสำคัญเหล่านี้เป็นชาวตะวันตกและชาวตะวันตกเท่านั้นที่เป็นผู้สร้างความเจริญให้แก่โลก
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
How important of the name?
Banjong BinkasonThe name is a word set up to call a human. Animals and things But since there are a lot of people and a lot of people. Naming is so duplicate. If in any district there is a "tie" of ten people, it is difficult to know who the bundle is mentioned to be, so to identify who is named as a person. It has been identified by the name of the person, such as a bunch of bundles of cats, bundles, bundles, etc. Some people, but the name of the gang. The villagers gave the nickname "tie" (the word will know the meaning of the word).
The name is a person's identity and indicates that the person is a nation from the language of the name.
Even with the name But to know who that person is. Descend from Humans have a system of naming and surname up to their own culture.
Thousands of years ago People in the Middle East, especially Abrahams, who are Arabs and Israeli, have their own surname system, using the word "flying". "Ben" or "Ibn", all of which means Son If a daughter is using the word "Bert" and followed by her father's name to indicate that the person whose name it is a nephew.
In the Bible, we find a naming and naming system that identifies who the child is and descends from whom it can be traced back to Abraham.
The Arabs, too, have Prophet Muhammad. Fly Abdullah Abdullah bin Abdullah bin Abdullah bin Abdullah bin Abdullah bin Abdullah
In the Arabian society People who can chase their ancestors and others are considered knowledgeable and respected. With a system of surname that uses this father's name, it is useful to study history. Because we know that the important prophet in the past have the same father. But the mother only.
In addition Arabs in the past also have a nickname system. "Abu", which means "father" or "umm", which means mother, followed by the first son, such as Prophet Muhammad, was called "Abul Hakim" ) Or "ummah" (mother of the deva).
After the Prophet Muhammad Islamic peoples will use the Muslim name to identify themselves as Muslims, which will help to dissolve the ethnic feelings of Chinese, Indians, Indians, Pakistani peoples, westerners, and whites. The millions of black people who worship Islam are called Muhammad. Some people use the name Abdullah. Or not Etc., which makes Muslims around the world feel the same.
The naming of Muslims does not require birth dates. Do not see the number of minutes. Prophet Muhammad instructed his Muslims to name their own children with a sweet name, so Muslims have a way of naming them.
1. Bring the qualification or the name of God to use the word. Abdullah (Servant of Allah) Abdullah (Servant of the Most Merciful) Abdullah (Servant of the Most Merciful)
2. Named after the prophets or prophets themselves, such as Moses,
3. Use the names of religious followers or persons such as Bailan, Ezman
4. If a woman takes the wife's name The daughter of Prophet Muhammad, such as Ahaeah, falsified the Qur'an, or the names of important women in history, such as the Mujahideen.
5. Name the words with sweetness and good meaning from the Quran, such as Huda (the way), Nadias or Nadia (the call to good).
6. Do not take the name of gods worshiped by people or the name of a person who the Quran says is anti-god, such as Pharaoh (Pharaoh).
Muslims will not change their name like Thai people who believe in the statement of the prophet or the teacher that his name is not sacred because of the pool or orthography. Muslims believe that misfortunes come from the will of God to test their faith and not blame their own cause.
As far as Islam is concerned, there are many people in different countries in Islam. Some countries use the Arabic extension system, which we can see in some countries such as Indonesia and Malaysia.
But when the West began to dominate and occupy Muslims. The West has tried to remove the traces of Islamic symbols to break the historical consciousness of Muslims. An extension system is one that western nations or Western elites try to negate. Muslims have been adapted to the race, such as Suleiman, Suleimanov. Ibrahimov was dressed as Ibrahimovic.
Persian Muslim Persian, who is regarded by Westerners as a medical father and used his texts as a reference for hundreds of years, has been transformed into Latin as "Avicenna." Ibnudruud, a philosopher Astronomers and Muslim law converters were "Averroes" only to see that these people were Westerners and Westerners were the only creators of the world.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น