หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ชีวิตที่ถูกลิขิต


บรรจง บินกาซัน

เมื่อมุฮัมมัดแต่งงานในวัย 25 ปีกับคอดีญะฮ์เศรษฐินีวัย 40 ปี เขาได้รับของขวัญเป็นทาสเด็กคนหนึ่งชื่อเซด บินฮาริซะฮ์ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับการให้ทาสเป็นของขวัญในคาบสมุทรอาหรับเมื่อประมาณ 1,500 ปีที่แล้ว เพราะถึงแม้ทาสจะเป็นมนุษย์ แต่ทาสคือมนุษย์ที่ถูกถือว่าไม่ต่างอะไรไปจากสินค้าที่สามารถไล่ล่า ลักพา กักขัง ซื้อขายและยกให้แก่ใครเหมือนสัตว์ก็ได้ การปฏิบัติเช่นนี้มีอยู่ก่อนแล้วแม้แต่ในอียิปต์โบราณและอาณาจักรโรมันที่โลกยกย่องว่าเป็นแหล่งอารยธรรมสำคัญของโลก


แต่สิ่งที่แปลกสำหรับชาวอาหรับทั่วไปในเวลานั้นก็คือ เมื่อมุฮัมมัดได้รับทาสวัยเด็กคนนี้เป็นของขวัญได้ไม่นาน เขาได้ปล่อยทาสเด็กคนนี้ให้เป็นอิสระ เซดจึงเป็นทาสคนแรกที่มุฮัมมัดปลดปล่อยก่อนมุฮัมมัดจะเป็นศาสนทูตผู้นำอิสลามมาเผยแผ่แก่ชาวอาหรับ

หลังจากเซดถูกจับตัวมาเป็นทาส พ่อของเขาร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่รู้ว่าเซดเป็นตายร้ายดีอย่างไรและได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเซดจะกลับมาหาเขา  พ่อของเซดได้บรรยายความรู้สึกของตนเองที่ต้องสูญเสียลูกชายเป็นภาษาอาหรับที่ใครได้ยินแล้วต้องขมขื่นไปกับเขาด้วย

ไม่กี่ปีหลังจากนั้น คนในเผ่าของเซดบางคนได้เดินทางมายังมักก๊ะฮฺเพื่อทำพิธีฮัจญ์และมีบางคนจำเซดได้ คนเหล่านั้นจึงเล่าเรื่องความเป็นห่วงของพ่อของเขาให้ฟัง เซดได้บอกคนในเผ่าของเขาให้กลับไปบอกพ่อของเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วง  “ฝากบอกพ่อด้วยว่าฉันอยู่ใกล้ก๊ะอฺบ๊ะฮฺและสถานที่ทำพิธีฮัจญ์ พ่อไม่ต้องโศกเศร้าและห่วงใยใดๆทั้งสิ้น ไม่ต้องรีบมาหาฉัน เพราะฉันอยู่กับครอบครัวที่ปฏิบัติต่อฉันเหมือนกับลูกชายของเขา”

เมื่อได้รับข่าวเช่นนั้น พ่อของเซดและลุงของเขาได้มุ่งหน้ามายังมักก๊ะฮฺทันที พ่อของเซดได้มาพบมุฮัมมัดและให้สัญญาว่าจะขอไถ่ตัวลูกชายไปด้วยเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ที่ต้องการ ดังนั้น มุฮัมมัดจึงเรียกตัวเซดมาและบอกพ่อของเขาว่า “เซดเป็นอิสระชน เขามีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของเขาเอง ถ้าหากเขาต้องการกลับไปหาครอบครัวของเขา มุฮัมมัดก็จะปล่อยให้เขากลับไปโดยไม่รับเงินใดๆทั้งสิ้น”

หลังจากนั้น เซดได้ถูกเรียกตัวออกมาและเขาจำพ่อของเขาได้ แต่เขาบอกพ่อว่าเขาจะไม่กลับไปโดยให้เหตุผลว่าเขาเห็นอะไรบางอย่างในตัวของมุฮัมมัดที่ทำให้เขารักคนผู้นี้มากกว่าคนอื่น

เมื่อได้ยินเช่นนั้น มุฮัมมัดจึงจูงมือเซดไปยังบันไดขึ้นก๊ะอฺบ๊ะฮฺที่ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการทำสัญญาและการเป็นพยาน หลังจากนั้น เขาได้ประกาศต่อผู้คนว่า “พวกท่านทั้งหลาย โปรดเป็นพยานด้วยว่านับแต่นี้ไป เซดคือลูกชายของฉันและเขามีสิทธิ์รับมรดกจากฉัน”

คำประกาศยืนยันดังกล่าวของมุฮัมมัดทำให้พ่อของเซดกลับไปด้วยความสบายใจ

เมื่อมุฮัมมัดได้รับสาส์นจากพระเจ้าให้ทำหน้าที่เผยแผ่อิสลามเมื่ออายุ 40 ปี เซดเป็นหนึ่งในคนแรกๆที่หันมารับอิสลามและติดตามรับใช้นบีมุฮัมมัดอย่างใกล้ชิด ในขณะที่เผยแผ่สั่งสอนอิสลาม  สิ่งหนึ่งที่นบีมุฮัมมัดทำก็คือการปลดปล่อยทาสโดยอาศัยเงินจากภรรยา เพื่อนและบรรดาสาวกผู้ศรัทธาไปซื้อหรือไถ่ตัว ทาสหลายคนได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระและคนเหล่านี้เองที่ติดตามรับใช้การปฏิบัติภารกิจของนบีมุฮัมมัดอย่างยอมพลีชีวิตโดยไม่เสียดาย

ชะตาชีวิตของเซดถูกพระเจ้าลิขิตมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้อิสลามลบล้างประเพณีเดิมหลายอย่างของชาวอาหรับ นบีมุฮัมมัดจัดให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวในตระกูลที่มีเกียรติเพื่อให้ผู้คนในเวลานั้นได้เห็นว่าแม้มนุษย์จะมีสถานะภาพทางครอบครัวที่ต่างกัน แต่ทุกคนมีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน กระนั้นก็ตาม เซดก็มีชีวิตสมรสที่ไม่ราบรื่นนัก

เมื่อพระเจ้าต้องการยกเลิกประเพณีอาหรับโบราณที่ถือว่าบุตรบุญธรรมมีสถานะเหมือนบุตรแท้ๆและพ่อบุญธรรมไม่สามารถแต่งงานกับภรรยาของบุตรบุญธรรมได้ นบีมุฮัมมัดได้สั่งเซดให้หย่าภรรยาที่กำลังระหองระแหงกัน และเมื่อครบกำหนดเวลารอคอยหลังการหย่าแล้ว นบีมุฮัมมัดได้แต่งงานกับภรรยาของเซดให้เป็นตัวอย่างแก่ชาวอาหรับได้รู้ว่านับแต่นี้ต่อไป อิสลามได้ยกเลิกประเพณีดังกล่าวของชาวอาหรับแล้ว

หลังจากนั้น ประเพณีการรับบุตรบุญธรรมแบบดั้งเดิมของชาวอาหรับก็ถูกยกเลิกโดยอิสลามเมื่อมีคำบัญชาจากพระเจ้าลงมาว่า “มุฮัมมัดมิได้เป็นบิดาของผู้ใดในหมู่บุรุษของสูเจ้า แต่เขาเป็นศาสนทูตของพระเจ้าและเป็นนบีคนสุดท้าย”

ด้วยเหตุนี้ ประเพณีเดิมของชาวอาหรับที่ถือว่าบุตรบุญธรรมมีสถานะภาพเหมือนบุตรโดยสายเลือดที่สืบทอดมรดกกันได้จึงถูกยกเลิก และเมื่อมีคำบัญชาจากพระเจ้าลงมาอีกว่า “จงเรียกเขาเหล่านั้นตามชื่อพ่อของเขา....” เซดจึงกลับไปใช้ชื่อเดิมของเขาว่าเซด บินฮาริซะฮ์ มิใช่เซด บินมุฮัมมัดและมิได้ถูกถือว่าเป็นบุตรตามกฎหมายของมุฮัมมัดอีกต่อไป

หลังจากเซดถูกกำหนดบทบาทชีวิตให้มาช่วยนบีมุฮัมมัดในการสถาปนาบทบัญญัติแห่งอิสลามแล้ว พระเจ้าได้รับวิญญาณของเซดกลับไปอย่างมีเกียรติในสภาพของผู้พลีชีพในการประจัญบานกับกองทัพอันเกรียงไกรของอาณาจักรโรมันไบแซนตินในเดือนกันยายน ค.ศ.629



ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]


Destined life


Banjong Binkason


When Muhammad married at the age of 25 years with Cody Shaetini, a 40-year-old, he received a gift as a child slave named Zed Bin Hariz. About 1,500 years ago because even though slaves were human beings But slaves are human beings that are considered different from products that can chase, kidnap, detain, trade and give to anyone like an animal This practice had already existed, even in ancient Egypt and the Roman Empire, which the world regarded as the world's major civilization.

But the strange thing for the typical Arabs at that time was When Muhammad received this childhood slave as a gift, He freed this slave boy free. Zed therefore became the first slave to be released by Muhammad before being a messenger of the Islamic leaders to the Arabs.

After Sedna was captured as a slave His father cried lamenting with concern because he didn't know how Sade was dead and how bad he had hoped someday would return to him. Zed's father described his own feelings of having lost his son in Arabic, who had already heard it bitterly with him.

A few years later Some of the people of Sedna's tribe have traveled to Makkah for the Hajj ceremony and some people remember Sedna. They then told the story of his father's concern. Zed told his tribe to return to tell his father not to worry. "Please tell my father that I am near Kor Aah and the place of Hajj. Father does not have to be sad and caring about anything. Do not rush to me Because I am with my family that treats me like his son. "

When receiving such news Zed's father and his uncle immediately head to Makkah. Zed's father came to meet Muhammad and promised to redeem his son for any amount of money that he needed. So Muhammad called Said and told his father that "Sedna is free. He has the right to choose his own future. If he wants to go back to his family Muhammad will let him go back without receiving any money. "

After that, Sedan was summoned out and he recognized his father. But he told his father that he would not go back by reasoning that he saw something in the body of Muhammad that made him love this person more than anyone else

When hearing that Muhammad then took Sade's hand to the stairs. He was used as a place for contracting and witnessing. Later, he announced to the people that "You Please also testify that from now on Zed is my son and he has the right to inherit from me. "

Muhammad's assertion made Zed's father back with peace of mind.

When Muhammad received a message from God to act as an Islamic prophet at the age of 40, Zed was one of the first to turn to accept Islam and follow closely the Prophet Muhammad. While propagating and teaching Islam One thing that Prophet Muhammad did was to release the slave by relying on money from his wife. Friends and followers who believe to buy or redeem themselves Many slaves were liberated, and these people who followed served the mission of Prophet Muhammad, sacrificing life without regret.

Zed's destiny was destined to be part of helping the Muslims to overthrow many of the original traditions of the Arabs. The Prophet Muhammad arranged for him to marry a woman in a noble family so that people at that time saw that even though humans had different family status But everyone is equally human. Nonetheless, Zed has a marriage that is not smooth.

When God wants to cancel the ancient Arab tradition that is considered adopted by a child like a real child and the adoptive father cannot marry his adopted child. Prophet Muhammad ordered Seid to divorce his wife who was feuding. And when the deadline is waiting for the divorce Prophet Muhammad married his wife Zed as an example for the Arabs to know that from now on Islam has abolished the tradition of the Arabs.

After that, the traditional Arab adoption tradition was abolished by Islam when the commandment from God came down that "Muhammad is not the father of any of your men. But he is the messenger of God and the last prophet. "

For this reason, the old tradition of Arabs that adopted adopted children had a status as a child, with a lineage that inherited the inheritance was therefore canceled. And when there was another commandment from God that "Call them according to the name of their father ...." So Sedan returned to use his original name, Sedin Harizah, not Sedna Muhammad and was no longer considered as a son according to Muhammad's law

After Sedna was assigned a life role to help the Prophet Muhammad in establishing the provisions of Islam. God received the spirit of Zed back to honor the condition of the martyr in the battle against the mighty armies of the Byzantine Roman Empire in September 629.


Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น