บรรจง บินกาซัน
ทุกสิ่งที่ถูกสร้างล้วนมีความเสื่อมและความสิ้นสลายในที่สุด จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับผู้สร้างกำหนดไว้ ก่อนตาย สัญญาณบอกเหตุของมนุษย์ก็คือความเจ็บไข้ได้ป่วยหรือการทำกิจกรรมด้วยความประมาท
โลกที่เราอาศัยอยู่ก็เช่นกัน เมื่อเป็นสิ่งถูกสร้าง โลกก็มีวันสิ้นสลายไม่ต่างไปจากสิ่งอื่นๆ
แต่วันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นเมื่อใดไม่มีใครรู้เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครรู้วันตายของตัวเอง แม้นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่มีความรู้ว่าโลกจะอวสานเมื่อใด อย่าว่าแต่เรื่องวันโลกาอวสานเลย แม้แต่เรื่องโลกเกิดขึ้นได้อย่างไรและเมื่อใด นักวิทยาศาสตร์ยังมะงุมมะงาหราหาคำตอบกันอยู่
ทุกศาสนามีคำสอนในเรื่องวันสิ้นโลกและโลกหลังความตาย โลกเกิดขึ้นเมื่อใดและจะอวสานเมื่อใดไม่ใช่สิ่งสำคัญที่มนุษย์ต้องไปค้นหา แต่คำสอนของศาสนาเน้นย้ำให้มนุษย์ใช้ชีวิตด้วยความสังวรตนเพื่อเตรียมตัวไว้สำหรับโลกหน้าและคำสอนของศาสนาจะบอกให้รู้ถึงอาการหรือสัญญาณแห่งกาลอวสานของโลกไว้
ในคัมภีร์กุรอานมีเรื่องราวความรุ่งเรืองและการถูกทำลายของชุมชนต่างๆในอดีตที่เคยมั่งคั่งเกรียงไกร เรื่องราวเหล่านี้มิได้ถูกเล่าเพื่อความสนุกสนาน แต่เพื่อเป็นบทเรียนให้มนุษย์ได้รู้ว่าพระเจ้ามีแบบแผนและวิธีการของพระองค์ในการสร้างและการทำลายมนุษย์
แบบแผนของพระองค์ก็คือ พระองค์จะให้มนุษย์ในบางชุมชนมีความเจริญมั่งคั่งและมีอำนาจขึ้นมา หลังจากนั้น เมื่อความไม่เป็นธรรมและการทำบาปเกิดขึ้นจากการที่ผู้มีอำนาจในสังคมละเมิดศีลธรรมกดขี่ข่มเหงคนอ่อนแอ พระองค์จะทดสอบคนในชุมชนนี้ว่าจะศรัทธาในพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์หรือไม่ วิธีการของพระองค์ก็คือ พระองค์จะคัดเลือกคนในชุมชนนั้นเป็นนบีคอยตักเตือนให้สำนึกผิดและหันไปขออภัยโทษต่อพระเจ้า แต่เมื่อนบีถูกต่อต้าน พระองค์จะประทานปาฏิหาริย์หรืออำนาจเหนือธรรมชาติให้คนในชุมชนนั้นได้เห็นและตรึกตรอง หากยังไม่เชื่อฟังอีก พระเจ้าก็จะทำลายชุมชนนั้น
คนของพระเจ้าที่มีตำแหน่งนบีถูกส่งมายังชนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเป็นการเฉพาะ การทำลายกลุ่มชนที่ฝ่าฝืนจึงจำกัดเฉพาะกลุ่มชนนั้น แต่นบีมุฮัมมัดถูกส่งมาเพื่อเป็นความเมตตายังโลกทั้งหลายที่หมายรวมถึงโลกของมนุษย์และโลกของสัตว์ด้วย ดังนั้น หลังสมัยนบีมุฮัมมัดที่ความชั่วสามารถแพร่ไปทั่วโลก โลกทั้งใบและมนุษย์ทั้งหมดจึงต้องถูกทำลาย
แม้นบีมุฮัมมัดเองไม่รู้ว่าวันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ก่อนเสียชีวิต ท่านได้บอกล่วงหน้าว่าก่อนวันสิ้นโลก จะมีปรากฏการณ์ที่เป็นสัญญาณบอกเหตุมากมายหลายอย่าง ทั้งสัญญาณเล็กและสัญญาณใหญ่
สัญญาณเล็กที่ท่านบอกไว้บางสัญญาณได้เกิดขึ้นแล้วและบางสัญญาณกำลังเกิดขึ้นอยู่ เช่น “ตัณหาจะถูกชักชวน คนชั่วจะกลายเป็นผู้นำ ผู้คนไม่สามารถแยกความถูกต้องออกจากความผิดได้ การโกหกหลอกลวงจะกลายเป็นสิ่งจำเป็น ผู้ศรัทธาจะถูกทำให้อับอายและเขาจะเจ็บปวดเมื่อเห็นความชั่วร้ายต่างๆรอบตัวเขา หัวใจของเขาจะสลายคล้ายกับเกลือที่อยู่ในน้ำ แต่ไม่สามาถพูดอะไรได้ ฝนจะไม่ทำประโยชน์และไม่ตกตามฤดูกาล ชายจะทำชู้กับชาย หญิงจะทำชู้กับหญิงด้วยกัน ลูกหลานจะไม่เชื่อฟังพ่อแม่”
ยังมีปรากฏการณ์อื่นๆอีกมากมายที่เป็นสัญญาณเตือนถึงการมาของวันโลกาอวสาน หนึ่งในนั้นก็คือ “เลือดมนุษย์จะไม่มีค่า การฆ่าจะเกิดขึ้นอย่างดาษดื่นโดยที่ผู้ฆ่าก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องฆ่าและผู้ถูกฆ่าก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงถูกฆ่า”
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Say the world is in a coma
Banjong Bingasan
Everything that is created has an eventual decay and decay. Whether it's slow or fast, it's up to the creator. Before death, the signs of human beings are sickness or careless activity.
So is the world we live in. when it is created The world has an end day just like anything else.
But no one knows when the end of the world will happen, just as no one knows the day of his own death. Even scientists have no idea when the world will end. Don't just talk about the end of the world. Even how and when did the world come about? Scientists are still searching for answers.
All religions have teachings about the end of the world and the afterlife. When the world was formed and when it will end is not important for humans to find out. But religious teachings emphasize that human beings live with self-consciousness in order to prepare for the next world, and religious teachings foretell signs or symptoms of the end of the world.
In the Quran there are stories of the rise and fall of communities that were once prosperous. These stories are not told for fun. but to teach mankind that God has a pattern and His way of creating and destroying mankind.
His plan is He would give people in some communities prosperity and power. He will test the people of this community to see if they believe in God and obey him. His way is He would select people in the community as prophets to admonish them to repent and turn to God to ask for forgiveness. But when Nabi was opposed He will give miracles or supernatural powers for people in that community to see and contemplate. If you still don't believe God will destroy that community.
God's people with the title of Prophets were sent to a particular people. The destruction of the disobedient group is therefore limited to that group. But Prophet Muhammad was sent to be a mercy to all worlds including the world of humans and the world of animals as well. The whole world and all human beings had to be destroyed.
Although the Prophet Muhammad himself did not know when the end of the world would occur. but before death You have foretold that before the end of the world There will be many signaling phenomena. both small and large signals
Some of the little signs he gave had already occurred and some were still happening, such as “The lust will be persuaded. The wicked will become the leader. People cannot distinguish right from wrong. Deception will become a necessity. The believer will be humiliated and he will be hurt when he sees the evil around him. His heart would crumble like salt in water. but could not say anything The rain does not benefit and does not fall in season. The man will commit an affair with the man. Women will commit adultery with women together. Children will not obey their parents.”
There are many other phenomena that signal the coming of the end of the world. One of them is “Human blood is priceless. Killings will happen so profusely that the murderer doesn't know why and the murderer doesn't know why himself is being killed.”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น