ชีวิตเร้นลับในโลกมนุษย์ (2) คุณเรียกทูตสวรรค์ แต่เพื่อนฉันเรียกเทวดา

 

บรรจง บินกาซัน

ความเชื่อในการมีอยู่ของสิ่งเร้นลับหรือสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นมีอยู่ในทุกศาสนา  หนึ่งในนั้นคือความเชื่อในเรื่องการมีอยู่ของทูตสวรรค์ที่มนุษย์ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และให้ความเคารพนับถือ  

ศาสนาพุทธมีความเชื่อในการมีอยู่ของ “เทวดา”  ซึ่งหมายถึงชาวสวรรค์ที่อาศัยอยู่ต่างภพกับมนุษย์  มีอำนาจเหนือธรรมชาติ  สามารถดลบันดาลให้สิ่งดีและร้ายเกิดขึ้นได้ ถ้าเป็นเพศชายเรียกว่าเทพบุตร  เพศหญิงเรียกว่าเทพธิดา

แต่เพราะมองไม่เห็นและไม่เข้าใจ  มนุษย์จึงทำสิ่งที่มองไม่เห็นออกมาเป็นรูปร่างตามจินตนาการของตนเพื่อบูชาสักการะ  เมื่อสร้างจินตนาการเทวดาได้  มนุษย์ก็เอาเทวดามาทำภาพยนตร์หรือแม้แต่นำมาเป็นตัวประกอบในละครตลก  เทวดาจึงกลายเป็นเรื่องตลกและถูกลดความน่าเชื่อถือลง แต่ในอิสลาม  สิ่งใดที่เร้นลับหรือมองไม่เห็น  มุสลิมไม่ได้รับอนุญาตให้ปั้นหรือวาดขึ้นมาตามจินตนาการ

ศาสนาคริสต์ก็มีความเชื่อในเรื่องทูตสวรรค์เช่นกัน คัมภีร์ไบเบิลยังระบุชื่อทูตสวรรค์ที่สำคัญไว้ด้วย เช่น กาเบรียล  มีคาเอล  ราฟาเอลและยูเรียล  คัมภีร์ไบเบิลยังกล่าวว่าทูตสวรรค์มีปีก  ดังนั้น  ชาวตะวันตกจึงจินตนาการกามเทพเป็นเด็กมีปีกและถือคันธนูกับศรรัก

ชาวอาหรับก่อนสมัยอิสลามก็มีความเชื่อในเรื่องทูตสวรรค์เช่นกันและถือว่าทูตสวรรค์เป็นลูกสาวของพระเจ้า ดังนั้น ชาวอาหรับจึงวาดรูปทูตสวรรค์ไว้บนกำแพงด้านหนึ่งของก๊ะอฺบ๊ะฮฺ

เนื่องจากการมีอยู่ของทูตสวรรค์ซึ่งในภาษาอาหรับเรียกว่า “มลาอิก๊ะฮฺ” เป็นความจริงและเพื่อให้มนุษย์มีความรู้อย่างถูกต้อง  จะได้ไม่ไปเคารพสักการะทูตสวรรค์เป็นพระเจ้า  ความรู้ในเรื่องทูตสวรรค์จึงถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดซึ่งสามารถศึกษาได้จากคัมภีร์กุรอานและจากคำพูดของนบีมุฮัมมัด

ประการแรกเลย  คัมภีร์กุรอานปฏิเสธเด็ดขาดว่าพระเจ้าไม่มีทั้งลูกชายและลูกสาว มิหนำซ้ำยังแดกดันชาวอาหรับว่าตัวเองต้องการลูกชาย  แต่กลับทึกทักว่าพระเจ้ามีลูกสาว  นอกจากนี้แล้ว นบีมุฮัมมัดยังกล่าวว่าในชั้นฟ้าเบื้องบนเหนือก๊ะอฺบ๊ะฮฺขึ้นไปมีสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่า “บัยตุลมะมูรฺ” ที่กลุ่มทูตสวรรค์จำนวนเจ็ดหมื่นองค์จะมาเวียนรอบ  เมื่อครบเจ็ดรอบแล้วก็จะออกไปโดยไม่กลับมาอีกและจะมีทูตสวรรค์จำนวนเท่ากันอีกกลุ่มหนึ่งมาเวียนรอบตลอดเวลาโดยไม่ซ้ำกัน เป็นเช่นนี้มาก่อนที่จะมีการสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺที่มุสลิมไปเวียนรอบในพิธีฮัจญ์     นี่เป็นการบอกถึงจำนวนที่นับไม่ถ้วนของ มลาอิก๊ะฮฺ

คัมภีร์กุรอานยังบอกอีกว่ามลาอิก๊ะฮฺถูกสร้างมาจากแสง  มนุษย์จึงไม่สามารถมองเห็นมลาอิก๊ะฮฺ แต่มลาอิก๊ะฮฺมองเห็นมนุษย์  เนื่องจากแสงเดินทางด้วยความเร็ว 186,000 ไมล์ต่อวินาที  ดังนั้น พระเจ้าจึงใช้มลาอิก๊ะฮฺที่มีนามว่าญิบรีล(กาเบรียล)ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับนบีเพื่อให้นบีนำสารของพระเจ้าไปบอกมนุษย์

ในสมัยที่อับราฮัมอยู่ในวัยชรา  พระเจ้าได้ให้ทูตสวรรค์แปลงร่างเป็นชายหนุ่มรูปงามสามคนเดินทางไปยังเมืองโซดอมเพื่อทำลายเมืองนี้เพราะผู้คนในเมืองทำบาปใหญ่ที่ไม่เคยมีมนุษย์หรือสัตว์เคยทำมาก่อน นั่นคือ การมีความสัมพันธ์ทางเพศในหมู่ผู้ชายด้วยกัน

ระหว่างทาง ทูตสวรรค์ในร่างของชายหนุ่มสามคนได้พบอับราฮัม  อับราฮัมต้อนรับอาคันตุกะทั้งสามโดยการส่งเนื้อย่างให้  แต่ชายหนุ่มทั้งสามปฏิเสธ เพราะทูตสวรรค์ไม่กินและไม่ดื่ม  การปฏิเสธไมตรีนี้ทำให้อับราฮัมตกใจ  ชายหนุ่มทั้งสามจึงเฉลยให้อับราฮัมรู้ว่าพวกเขาคือทูตสวรรค์ที่พระเจ้าส่งไปทำลายเมืองโซดอมที่ลูฏ(โลท)ลูกพี่ลูกน้องของเขาอยู่ที่นั่น  อับราฮัมจึงบอกให้ชายหนุ่มทั้งสามรับรู้เพื่อมิให้ลูฏและผู้ศรัทธาต้องได้รับเคราะห์กรรมด้วย  

ก่อนจะจากไป  ทูตสวรรค์ได้แจ้งข่าวดีแก่อับราฮัมว่าเขาจะมีลูกชาย(อิสฮาก)กับนางซาราห์ที่อยู่ในวัยชราแล้ว  ไม่เพียงแค่นั้น ทูตสวรรค์ยังบอกว่าลูกชายของเขาจะมีลูกชายที่ชื่อยะกู๊บ(ยาโกบ)ด้วย

การมีอยู่ของทูตสวรรค์ในโลกมนุษย์จึงเป็นสิ่งที่แสดงว่าพระเจ้าไม่เพียงแต่ไม่ทอดทิ้งบ่าวผู้ศรัทธาเท่านั้น  แต่ยังให้ความคุ้มครองและความช่วยเหลือด้วย

ในตอนที่นบีมุฮัมมัดถูกชาวเมืองฏออีฟขับไล่และเอาหินขว้างจนท่านต้องหนีออกจากเมืองในสภาพร่างกายชุ่มไปด้วยเลือด  ทูตสวรรค์ที่ทำหน้าที่ดูแลภูเขาได้พูดกับท่านว่าหากท่านประสงค์จะทำลายเมืองนี้ ทูตสวรรค์จะให้ภูเขาบีบทำลายเมืองนี้ให้สิ้นซาก  แต่นบีมุฮัมมัดไม่ประสงค์เช่นนั้นโดยบอกว่าชาวเมืองรุ่นนี้อาจไม่เชื่อ  แต่ในอนาคต ลูกหลานของชาวเมืองนี้อาจจะเชื่อก็ได้

เมื่อนบีมุฮัมมัดต้องทำสงครามป้องกันการรุกรานจากศัตรูและมุสลิมมีกำลังน้อยกว่า พระเจ้าจะส่งมลาอิก๊ะฮฺเป็นกองทัพที่มองไม่เห็นมาช่วยและทำให้มุสลิมได้รับชัยชนะ

นบีมุฮัมมัดบอกเราให้รู้ว่ามนุษย์ทุกคนมีมลาอิก๊ะฮฺเฝ้าติดตามบันทึกการกระทำและคำพูดทุกอย่างไว้ และทุกวันพฤหัส มลาอิก๊ะฮฺเหล่านี้จะนำบันทึกการกระทำของมนุษย์ไปไว้เป็นหลักฐานในวันพิพากษา

ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

Mysterious life in the human world (2)
you call angel but my friends call angels

Banjong Bingasan

The belief in the existence of the unseen or unseen exists in all religions. One of these is the belief in the existence of angels that humans regard as sacred and revered.

Buddhism believes in the existence of "gods," meaning heavenly people who live in different realms from humans. have supernatural powers able to inspire good and bad things to happen If it's male, it's called a deity. female is called a goddess

But because I can't see and I don't understand Therefore, human beings made invisible things into the shape of their imaginations to worship. When the imagination of the gods can be created Humans take angels to make movies or even use them as extras in comedies. Angels therefore become jokes and are reduced to credibility, but in Islam anything is hidden or invisible. Muslims are not allowed to sculpt or draw their imagination.

Christianity also believes in angels. The Bible also names important angels, such as Gabriel, Michael, Raphael, and Uriel. The Bible also mentions that angels have wings, so Westerners imagined Cupid as a winged child holding a bow and arrow.

Pre-Islamic Arabs also believed in angels and regarded angels as daughters of God. Thus, the Arabs painted angels on one of the walls of the Ka'bah.

Because the presence of angels, which in Arabic are called angels, is true and for human beings to have proper knowledge. would not have gone to worship angels as gods The knowledge of angels was therefore given to Prophet Muhammad which can be studied from the Quran and from the words of Prophet Muhammad.

First of all, the Quran categorically denies that God has neither sons nor daughters. In addition, he sarcastically told the Arabs that they wanted a son. But instead assumed that God had a daughter. In addition Muhammad also said that in the heavens above the Ka'bah there is a place called "Baytul Mamur" where seventy thousand angels will come around. At the end of the seven cycles, it leaves without returning, and an equal number of angels round the clock, not repeating each other. This was before the Ka'bah, where Muslims circulated during the Hajj. This indicates the innumerable number of angels.

The Quran also says that angels are made of light. Human beings cannot see angels. But angels see human beings. Since light travels at a speed of 186,000 miles per second, God uses an angel named Gabriel (Gabriel) to act as a medium to communicate with the Prophet in order to carry the message of God. tell man

in the days of Abraham's old age God had three angels transform into beautiful young men and travel to Sodom to destroy it because its people had committed a great sin that no man or animal had ever committed: sexual relations. among men together

Along the way, three angels met Abraham in the form of young men. Abraham welcomed the three visitors by handing them roast meat. But the three young men refused. because angels neither eat nor drink This refusal of friendship shocked Abraham. The three young men then revealed to Abraham that they were angels sent by God to destroy Sodom where his cousin Lut (Lot) lived. Abraham then told the three young men to know that Lot and the believers would not suffer any misfortune.

Before leaving, the angel gave Abraham good news that he would have a son (Isaac) with Sarah in old age. not only that The angel also said that his son would have a son named Jacob (Jacob).

The presence of angels in the human world therefore shows that not only does God not abandon his faithful servants, but also provides protection and assistance.

When Prophet Muhammad was driven away by the people of Taif and stoned until he had to flee the city in a bloody body. The angel in charge of the mountain spoke to him if he wanted to destroy this city. The angel will force the mountain to crush this city completely. But the Prophet Muhammad did not wish so, saying that the inhabitants of this generation might not believe it, but in the future, the descendants of this city might believe.

When Prophet Muhammad had to go to war to prevent aggression from enemies and Muslims were less powerful. God will send an invisible army of angels to help and make Muslims victorious.

Prophet Muhammad tells us that every human being has angels who keep a record of every action and word. and every Thursday These angels will take records of human deeds as evidence on the Day of Judgment.

Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason