หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อิบน์ อัล-ไฮตัม " บิดาเรื่องแสงตัวจริงรู้ก่อน "นิวตัน" 700 ปี

อิบน์ อัล-ไฮตัม " บิดาเรื่องแสงตัวจริงรู้ก่อน "นิวตัน" 700 ปี


ก่อนหน้า "ไอน์สไตน์" นักฟิสิกส์ที่ทุกคนยกย่องให้เป็นสุดยอดอัจฉริยะ ก็มี "นิวตัน" ที่ได้รับยอมรับให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน แต่ก่อนหน้าผู้ค้นพบแรงโน้มถ่วงจะสร้างผลงานที่สุดยอดทางด้านแสงแล้ว ย้อนไป 700 ปี นักฟิสิกส์แห่งโลกมุสลิม "อิบน์ อัล-ไฮตัม" คือบิดาแห่ง "ทัศนศาสตร์" ตัวจริง

     
ศ.จิม อัล-คาลีลี (Prof.Jim Al-Khalili) จากมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ (University of Surrey) สหราชอาณาจักร ได้เขียนบทความในบีบีซีนิวส์ ซึ่งเผยให้เราได้รู้จัก "อัล-ฮัสซัน อิบน์ อัล-ไฮตัม" (al-Hassan Ibn al-Haytham) นักฟิสิกส์อาหรับ ที่เขาถือว่าเป็น "ยักษ์ใหญ่" ที่วางบ่าให้ "เซอร์ไอแซค นิวตัน" (Sir Isaac Newton) ได้ขึ้นยืน เพื่อต่อยอดความรู้เรื่องแสงหรือทัศนศาสตร์ (optics) ซึ่งในตำราเรียนของเรา ก็บอกเล่าเรื่องราวมากมายเกี่ยกับการทดลองอันโด่งดังของเขาเรื่องเลนส์และปริซึม การศึกษาธรรมชาติของแสง การสะท้อน การหักเหและแยกสเปกตรัมของแสงเป็นสีรุ้ง

"กระนั้นผมก็รู้สึกว่า เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในสาขาทัศนศาสตร์ ซึ่งนิวตันเองได้ยืนอยู่บนไหล่ยักษ์ผู้มีชีวิตอยู่เมื่อ 700 ปีก่อนหน้าโดยไร้ข้อกังขา ยังมีนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่อื่นอีก ที่มีค่าควรแก่การจัดอันดับเคียงคู่นิวตัน ผู้เกิดในปี ค.ศ.965 ณ ดินแดนที่ปัจจุบันคือ ประเทศอิรัก นามว่า อัล-ฮัสซัน อิบน์ อัล-ไฮตัม ชาวตะวันตกจำนวนมากอาจจะไม่เคยได้ยินชื่เขามาก่อน" ศ.อัล-คาลีลี ระบุ และกล่าวว่า ในฐานะนักฟิสิกส์เขามีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากผลงานของอิบน์ อัล-ไฮตัม และเขายังมีโอกาสได้ค้นประวัติชีวิตและผลงานของนักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ เพื่อผลิตสารคดีเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์มุสลิมในยุคกลางให้กับสถานีบีบีซี
     
จากบันทึกประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันทั่วไป บ่งชี้ว่าไม่มีความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญๆ เกิดขึ้นระหว่างยุคกรีกโบราณและยุคเรเนสซองส์ของยุโรป ทว่าเพียงเพราะยุโรปเข้าสู่ยุคมืด ก็ไม่ได้หมายความว่าที่อื่นจะต้องซบเซาตามไปด้วย ศ.อัล-คาลีลีระบุว่า ตรงกันข้าม ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 9-13 กลับเป็นยุคทองของวิทยาศาสตร์ในชนชาติอาหรับ โดยความก้าวหน้าที่สำคัญๆ ได้แก่ศาสตร์ทางด้านคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ การแพทย์ ฟิสิกส์ เคมีและปรัชญา ท่ามกลางอัจฉริยะทั้งหลายในยุคดังกล่าว อิบน์ อัล-ไฮตัมโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ
     
ทั้งนี้ อิบน์ อัล-ไฮตัมได่รับการยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งระเบียบวิธีวิทยาศาสตร์สมัยใหม่" (father of the modern scientific method) ซึ่งระเบียบวิธีวิทยาศาสตร์สมัยใหม่โดยทั่วไปหมายถึงความพยายามสืบเสาะหาความจริงในปรากฏกการณ์ธรรมชาติ การใฝ่หาความรู้ใหม่ การปรับแก้ความรู้เก่าหรือบูรณาการความรู้เดิมเข้าด้วยกัน โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเก็บข้อมูลผ่านการสังเกตและวัดผล ตามด้วยการออกกฎและทดสอบสมมติฐานเพื่ออธิบายถึงข้อมูลที่ได้
     
"นี่คือสิ่งที่เราทำในวิทยาศาสตร์ยุคนี้และเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงเชื่อมั่นในความก้าวหน้าที่สร้างขึ้นจากวิทยาศาสตร์ แต่ก็บ่อยครั้งที่ยังมีการอ้างว่า ไม่มีการกำหนดระเบียบวิธีวิทยาศาสตร์ยุคใหม่จนกระทั่งฟรานซิส เบคอน (Francis Bacon) และ เรเน ดีสคาร์เตส (Rene Descartes) กำหนดขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 17 อย่างไรก็ตามผมไม่แคลงใจเลยว่า อิบน์ อัล-ไฮตัมคือคนแรกที่สร้างระเบียบวิธีวิทยาศาสตร์ขึ้น ในความเป็นจริงด้วยการให้ความสำคัญ ต่อข้อมูลการทดลองและการทดลองซ้ำของเขา เขาจึงได้รับการอ้างถึงบ่อยๆ ว่าเป็น "นักวิทยาศาสตร์ตัวจริงคนแรกของโลก" ศ.อัล-คาลีลีระบุ
     
ศาสตราจารย์แห่งเซอร์เรย์กล่าวด้วยว่า อิบน์ อัล-ไฮตัมเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรก ที่ให้การคำนวณที่ถูกต้องว่า เรามองเห็นวัตถุได้อย่างไร เขาพิสูจน์ด้วยการทดลองจริง ตัวอย่างเช่นทฤษฎีที่เรียกว่า "ทฤษฎีการเปล่ง" (emission theory) ซึ่งอธิบายว่า แสงจากตาเราส่องไปบนวัตถุที่เราเห็น และนักคิดผู้ยิ่งใหญ่อย่างพลาโต (Plato) ยูคลิด (Euclid) และปโตเลมี (Ptolemy) ต่างเชื่อในทฤษฎีดังกล่าว แต่อิบน์ อัล-ไฮตัมได้พิสูจน์ว่าไม่จริงและเสนอแนวคิดใหม่ว่าเราเห็นได้เพราะแสงเดินทางเข้าสู่ตาเรา
     
นอกจากนี้ เขายังทำในสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่นไม่เคยลองมาก่อน นั่นคือใช้คณิตศาสตร์อธิบายและพิสูจน์เรื่องนี้ อีกทั้งเขายังได้รับการยอมรับว่า เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีคนแรกๆ ด้วย
     
แต่ทั้งนี้เขาอาจเป็นที่รู้จักดี ในฐานะผู้ประดิษฐ์กล้องรูเข็ม ซึ่งเขาควรได้รับการสรรเสริญควบคู่ไปกับการค้นพบกฎการหักเหของแสงด้วย และเขายังทดลองกระเจิงแสงออกเป็นสีต่างๆ สำเร็จเป็นคนแรก รวมถึงศึกษาเรื่องเงา รุ้งและอุปราคา ซึ่งจากการสังเกตการกระจายของแสงอาทิตย์ในชั้นบรรยากาศ เรายังคำนวณความสูงของชั้นบรรยากาศได้ค่อนข้างใกล้เคียงด้วย โดยคำนวณว่ามีความสูงประมาณ 100 กิโลเมตร
     
เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในบรรดานักปราชญ์สมัยนี้ อิบน์ อัล-ไฮตัมใช้เวลาและแยกตัวเองออกจากสังคมเพื่อเขียนบทความมากมายของเขา ซึ่งรวมถึงผลงานที่ยิ่งใหญ่ทางด้านทัศนศาสตร์ของเขาด้วย
     
อย่างไรก็ดีเขาได้เผชิญกับโชคร้ายที่ไม่ได้รับเชิญเมื่อ ค.ศ.1011-1021 เขาถูกขังคุกในอียิปต์ หลังภารกิจที่ได้รับมอบจากกาหลิบ (ผู้นำทางศาสนาของโลกมุสลิม) ให้แก้ปัญหาน้ำท่วมในแม่น้ำไนล์
     
ทั้งนี้ขณะอยู่ที่บาสราในอิรักอิบน์ อัล-ไฮตัมระบุว่าน้ำท่วมแม่น้ำไนล์ในฤดูใบไม้ร่วงว่า สามารถรับมือได้ด้วยการสร้างเขื่อนกั้นทำนบ และทำคลองส่งน้ำ ซึ่งจะช่วยเก็บน้ำไว้ได้จนถึงหน้าแล้งในฤดูร้อน แต่เมื่อไปถึงเมืองไคโรของอียิปต์เขาก็นึกขึ้นได้ว่าแผนการของเขานั้นใช้ไม่ได้ผลอย่างเต็มที่ในเชิงวิศวกรรม
     
แต่แทนที่จะยอมรับความผิดพลาดต่อกาหลิบผู้ร้ายกาจและอำมหิต เขาจึงแสร้งเป็นคนวิกลจริตเพื่อหนีการได้รับโทษ แต่เขาก็ถูกนำไปขังคุกในชั้นใต้ดินซึ่งทำให้เขามีเวลาเก็บตัว ในการทำงานเงียบๆ อยู่ 10 ปี หลังการเสียชีวิตของกาหลิบ เขาก็ได้รับการปล่อยตัวและกลับไปยังอิรักซึ่งเขาได้เขียนผลงานนับ 100 ชิ้น ในสาขาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์
     
ระหว่างการเดินทางไปในตะวันออกกลาง เพื่อถ่ายทำสารคดี ศ.อัล-คาลีลีระบุว่า เขาได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในอเล็กซานเดรีย ซึ่งให้เขาได้ดูผลงานทางด้านดาราศาสตร์ของอิบน์ อัล-ไฮตัม ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นผลงานที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า "กลไกของดวงดาว" ซึ่งอธิบายการโคจรของดาวเคราะห์ และนำไปสู่ผลงานของชาวยุโรปหลายๆ คนอย่าง โคเปอร์นิคัส (Copernicus) กาลิเลโอ (Galileo) เคปเลอร์ (Kepler) และนิวตัน (Newton)
     
"มันยากที่จะเชื่อว่า นักฟิสิกส์ทุกวันนี้ เป็นหนี้ชาวอาหรับที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 1,000 กว่าปีที่ผ่านมา" ศ.อัล-คาลีลีกล่าว

วัลลอฮฺอะลัม

อ้างอิงจาก :  Manager Online



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | 


[ Translate by Google Translate ]

Ibn Al's - Tam Hai "Glow father actually knew before," Newton "700 years.

Previous "Ein Stein" Every physicist who is regarded as the most intelligent "Newton" has been recognized as a great scientist as well. But before the discovery of gravity to create the best possible light, then go back 700 years, physicists of the Muslim world, "Ibn Al's - Tam Hai" is the father of "optics" real.
       
Prof. Jim Al - Khalili (Prof.Jim Al-Khalili) from the University of Surrey (University of Surrey), United Kingdom. Has written an article on the BBC's Newsnight. Which reveals us as "al - Hassan ibn Al's - Tam Hai" (al-Hassan Ibn al-Haytham) Arab physicist. Which he considered "giants" who put their shoulders to "Sir Isaac Newton" (Sir Isaac Newton) is up to this body of knowledge about lighting or optics (optics), which in our textbooks. He tells many stories concerning his famous experiments with lenses and prisms. The nature of light refraction and reflection spectra of light into a rainbow.

"Nonetheless, I felt It is particularly important Especially in the field of optics Which Newton himself was standing on the shoulders of giants who lived 700 years earlier without a doubt. There are also other great physicists. The worthy to rank alongside Newton, who was born in the year 965 AD The land that is now called Iraq al - Hassan ibn Al's - Tam High Westerners number. many may not have heard the name before him, "Prof. Al - Khalili stated and said that as a physicist, he has the opportunity to leverage the work of the IB's Al - Hai Tam and he has. the opportunity to discover the history of life and work of this scientist. To produce a documentary about Muslim scientists in the Middle Ages to the BBC station.
       
Commonly known from historical records. There is no indication that advances science major. Occurred between ancient Greece and the Renaissance of Europe's. But just because Europe into the Dark Ages. It does not mean that others will be sluggish as well. Prof. Al - Khalili noted that in contrast to 9-13 century was the golden age of science in the Arab nation. The major breakthrough Including science, mathematics, astronomy, medicine, physics, chemistry and philosophy. Among intelligent people in the Ibn Al's - Tam Hai prominent than others.
       
The Ibn Al's - Tam Hai was honored as. "Father of Modern Science Methodology" (father of the modern scientific method), which basically means how modern science efforts in the quest for truth a natural situation. Pursuing new knowledge Modifying the old knowledge or integrating existing knowledge together. Situated on the basis of data collected through observation and measurement. According to the rules and test hypotheses to explain the data.
       
"This is what we do in science today and is the reason why I believe the progress made by science. It has often been claimed. Not determined how the new science was Francis Bacon (Francis Bacon) and Rene Paredes Carlos Prestes (Rene Descartes) set up at the beginning of the 17th century, however, I do not doubt that IB's al -. Tam Hai is the first to build up scientific methodology. In fact, with a focus. The experimental data and reproduce his experiments. He has often been referred to as the "world's first true scientist" Prof. Al - Khalili stated.
       
Professor of Surrey said that Ibn Al's - Tam Hai was the first scientist. Provided that the correct calculation. We see an object? He proved a real trial For example, the so-called theory "Emission theory" (emission theory), which explained. We shine the light from the eye to the object we see. And Thinker great Plato (Plato) Euclid (Euclid) and Ptolemy (Ptolemy) believe in such theories, but the IB's AL - High Tam has proven not to be true and ideas. new that we see because light enters our eyes.
       
He also did what other scientists have never tried before. That is, using mathematics to explain and prove it. He also accepted that. A theoretical physicist with the first.
       
However, he may be better known. As the inventor of a pinhole camera. He should be applauded, along with the discovery of the law of refraction of light. He also tried out scattered light in different colors. Be the first success The study of the Shadows Rainbow and Eclipse The observed distribution of the solar atmosphere. We also calculate the height of the atmosphere was quite close by. By calculating a height of about 100 kilometers.
       
The same happened in the wise men these days Ibn Al's - Tam Hai and take themselves off from society for his many written articles. This includes the great works of the optics of him.
       
However, he was faced with a crisis that was not invited on. 1011-1021 AD He was jailed in Egypt After the mission that has been given by the Caliph. (Muslim religious leader) to the flooding in the River Nile.
       
However, while he was in Basra, Iraq's County. Al - Hai Tam stated that the flooding of the Nile in the autumn. Can cope with the dam embankment. And canal This will help to store water for the dry season until the summer. But when the city of Cairo, Egypt, he recalled that his plan is not working fully in Engineering.
       
But rather than admit a mistake on the vicious and savage Caliph. He pretended to be insane to escape punishment. But he was taken to jail in the basement, which gave him time left. In the silence, 10 years after the death of the caliph. He was released and returned to Iraq where he wrote a portfolio of 100 pieces in physics and mathematics.
       
During a trip to the Middle East Filmed for documentary Prof. Al - Khalili said. He was an expert in Alexandria, Alexandria. Which allowed him to see the work of the astronomer Ibn Al's - Tam High, which he saw as a contribution similar to what is known. "The mechanism of the Stars," which explains the orbits of the planets. And contribute to the work of Europeans, many people like Copernicus's (Copernicus), Galileo (Galileo), Kepler (Kepler) and Newton (Newton).
       
"It's hard to believe. Physicists today Owe Arabs who lived 1,000 years ago, "Prof. Al - Khalili said.

Valle Allah Aalam





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น