ความป่าเถื่อนในยุคอารยธรรม

ความป่าเถื่อนในยุคอารยธรรม

บรรจง บินกาซัน

นักสังคมวิทยาบางคนถือว่าสงครามเป็นสิ่งที่แยกไม่ได้จากชีวิตมนุษย์ เพราะสงครามเกิดขึ้นมาจากความหยาบคายและความโหดร้ายในตัวมนุษย์ แต่ก็มีนักสังคมวิทยาและนักจิตวิทยาบางคนปฏิเสธความคิดนี้และถือว่าสงครามสามารถที่จะขจัดออกไปจากชีวิตมนุษย์ได้ เพราะการเข่นฆ่าสังหารมีสาเหตุมาจากความเสื่อมทรามทางจริยธรรม ความไร้ระเบียบทางสังคมและปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มิใช่องค์ประกอบในธรรมชาติของมนุษย์ การศึกษาที่ทำให้มนุษย์รู้ความจริงและความยุติธรรมในสังคมสามารถที่จะขจัดสาเหตุของสงครามที่ทำให้มนุษย์นับล้านต้องเสียชีวิตได้



ชัยชนะของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ทำให้ศตวรรษที่ 20 กลายเป็นศตวรรษแห่งการสังหารหมู่ เป็นศตวรรษแห่งความโลภ ความรุนแรง การจลาจลและสงครามที่ไร้มนุษยธรรมที่สุด แค่ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์โลกในช่วง 75 ปีสุดท้ายของศตวรรษที่แล้ว เราก็จะเห็นได้ว่าช่วงเวลาสั้นๆเพียงไม่ถึงร้อยปี ชาติที่อ้างตัวว่าศิวิไลซ์และเจริญก้าวหน้าได้กระทำอาชญากรรมมากกว่ายุคใดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ชาติตะวันตกเป็นผู้ครอบครองเทคนิคอุตสาหกรรมและระเบิดปรมาณู แต่ความรู้ที่ชาติตะวันตกมีอยู่กลับเป็นแรงผลักดันให้มนุษย์หลั่งเลือดกัน ทำให้แผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์กลายเป็นทะเลทราย ทำให้เสียงร้องของผู้ถูกกดขี่ดังก้องกังวานไปถึงขอบฟ้า ทำให้มนุษย์อ่อนแอทางความคิดและเสื่อมทางศีลธรรม

ผลพวงของสงครามโลกสองครั้งอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางด้านวัตถุระหว่างสองอำนาจจักรวรรดินิยมคือความชั่วร้ายสำหรับมนุษยชาติอย่างที่ไม่อาจมีเหตุผลใดๆมาแก้ตัวได้

สงครามโลกครั้งที่ 1 กินเวลา 1,565 วัน เฉพาะในสนามรบจริงๆมีคนตายไป 9 ล้านคน เสียแขนขาพิการและกลายเป็นผู้ตกงานไปตลอดชีวิต 22 ล้านคน ส่วนจำนวนคนตายและบาดเจ็บในเมืองที่มีผู้คนหนาแน่นนั้นไม่อาจนับได้ ค่าใช้จ่ายในการทำสงครามมากกว่า 4 แสนล้านดอลล่าร์ มูลนิธิคาร์เนกีกล่าวไว้ในรายงาน “The Twentieth Century World” (โลกศตวรรษที่ 20) ว่าจำนวนเงินดังกล่าวในเวลานั้นสามารถสร้างบ้านขนาดปานกลางให้แก่ทุกครอบครัวในอังกฤษ ไอร์แลนด์ สกอตแลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมัน รัสเซีย สหรัฐ แคนาดาและออสเตรเลียได้อย่างสบายๆ คนอีกหลายล้านที่รอดชีวิตก็ต้องร้องไห้คร่ำครวญหาคนรักที่จากไปอย่างขมขื่น

ยังไม่ทันที่ซากปรักหักพังจะได้รับการบูรณะและบาดแผลแห่งสงครามโลกครั้งที่ 1 จะคลายความเจ็บปวด สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มขึ้น สถิติบันทึกว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 มีผู้เสียชีวิต 35 ล้านคน พิการเสียแขนขาไป 20 ล้านคน เลือดมนุษย์กระฉูดไป 17 ล้านลิตร เด็ก 12 ล้านคนเกิดมามีรูปร่างผิดปกติ โรงเรียนประถมและมัธยม 13,000 แห่ง มหาวิทยาลัย 6,000 แห่งและห้องทดลองวิทยาศาสตร์ 8,000 แห่งถูกทำลาย กระสุนปืนถูกใช้ไป 319 พันล้านนัด

ในปี ค.ศ.1945 สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูขนาดเล็กสองลูกลงบนเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ทำให้คนในเมืองฮิโรชิมาถูกความร้อนแรงของระเบิดจนร่างละลายหายวับไปถึง 70,000 คน อีก 70,000 คนพิการ ในเมืองนางาซากิมีคนเสียชีวิต 40,000 คนและอีก 40,000 คนพิการ อาคารทุกหลังพังทลายราบเป็นหน้ากลองไม่มีอะไรหลงเหลือแม้แต่สัตว์ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อย ญี่ปุ่นได้เจรจาขอยอมแพ้สงครามแล้ว

สำนักข่าวโลกรายงานว่าหลังสงคราม โรงงานแขนขาเทียมรัสเซียได้สั่งซื้อขาเทียมจากบริษัทอเมริกัน 4 ล้านขาเพื่อใส่ให้แก่ผู้สูญเสียขาในสงคราม ทั้งนี้เพราะรัสเซียไม่สามารถที่จะผลิตขาเทียมได้พอ ถ้าขาเทียมถูกสั่งจำนวนเท่านี้ก็หมายความว่าต้องมีผู้บาดเจ็บอีกมากในรัสเซีย และในประเทศอื่นๆจะมีอีกเป็นจำนวนเท่าใดนั้นก็ไม่มีใครรู้

ระเบิดปรมาณูที่ใช้ใน ค.ศ.1945 บรรจุยูเรเนียม 235 หน่วยและพลูโตเนียม 239 หน่วยซึ่งมีแรงระเบิดเท่ากับระเบิดทีเอ็นที 335,000 หน่วย ปัจจุบัน ระเบิดปรมาณูมีอำนาจทำลายร้ายแรงมากกว่านั้นถึง 5,000 เท่า และระเบิดไฮโดรเจนมีอำนาจทำลายล้างมากกว่าระเบิดปรมาณูถึง 5 ล้านเท่า แค่ระเบิดปรมาณูลูกเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เมืองใหญ่อย่างเช่น นิวยอร์ค ปารีส ลอนดอนหรือมอสโคว์ราบไปทั้งเมืองโดยไม่ต้องใช้เครื่องบินบรรทุกไป เพราะปัจจุบันนี้ระเบิดปรมาณูสามารถติดไปกับจรวดนำวิถีที่ยิงได้ไกลถึง 2,000 ไมล์ ดร.ลินุส พอลลิ่ง นักเคมีชาวสหรัฐที่ได้รับรางวัลโนเบลกล่าวว่าในชั่วโมงแรกของสงครามครั้งใหม่นี้ ระเบิด 10,000 เมกะตันจะทำลายล้างผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ถึง 175 ล้านคน ขณะนี้ สหรัฐมีระเบิดทำลายล้างสูงอยู่ในคลังอาวุธถึง 24,000 ลูก รัสเซีย 80,000 ลูก อังกฤษ 15,000 ลูกในตอนที่เขาพูดถึงเรื่องนี้

นายพลสหรัฐคนหนึ่งกล่าวว่าสงครามครั้งใหม่ในอนาคตนี้จะไม่สิ้นเปลืองชีวิตทหารมากเท่ากับพลเรือน เพราะนักฟิสิกส์ได้โอนการทำสงครามส่วนใหญ่จากมือมนุษย์ไปให้เครื่องจักรทำแทนแล้ว และเครื่องจักรมันก็จะทำลายโดยไม่แยกว่าเป็นเด็ก ผู้หญิงหรือคนชรา ฉากการทำลายล้างจะไม่ได้อยู่ที่ค่ายทหารหรือสมรภูมิอย่างที่เราเห็นในภาพยนตร์ แต่มันจะอยู่ตามเมืองและหมู่บ้านที่มีโรงงานและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สถานที่เหล่านี้แหละที่ขีปนาวุธติดระเบิด แกสพิษและแบกทีเรียนำโรคจะพุ่งเข้าใส่

แม้สงครามโลกทั้งสองครั้งได้ทำลายล้างมนุษย์ไปจำนวนมากก็ตาม แต่ภาพสยดสยองของสงครามก็ไมมีผลต่อจิตสำนึกทางศีลธรรมของชาติตะวันตกแม้แต่น้อยนิด แทนที่จะใช้อำนาจทางความคิด วัตถุและการเงินไปในทางสันติและความเจริญรุ่งเรืองของมวลมนุษย์ ชาติตะวันตกที่ก้าวหน้ากลับใช้มันไปเป็นเครื่องมือในการทำลายล้าง

เบอร์ทรันด์ รัสเซล นักปรัชญาคนสำคัญของโลกเขียนไว้ว่า “รัฐบาลทั้งหลายที่แข่งขันกันส่งนักเดินทางอวกาศไปยังดวงจันทร์จะร่วมกันทำลายโลกนี้ ในอดีต ความต้องการเป็นตัวผลักดันให้เผ่าหนึ่งโจมตีอีกเผ่าหนึ่งเพื่อปัจจัยเพียงเล็กน้อย แต่ปัจจุบัน สังคมที่มั่งคั่งกลับแข่งกันฆ่าตัวตายอย่างไร้สติ”

บันทึกทางเศรษฐกิจระบุว่าในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ได้มีการใช้เงินไปกับการสะสมอาวุธถึง 4 แสนล้านดอลล่าร์ซึ่งพอที่จะเลี้ยงท้องมนุษย์ทุกคนได้ในช่วงเวลาเดียวกันและสามารถสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนได้หนึ่งในสามของพลโลก

ถ้ามีสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้น อาวุธสมัยใหม่ที่ร้ายแรงนี้จะทำให้ไม่มีใครหลงเหลืออยู่เลยทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ เพราะโลกจะกลายเป็นสุสานสำหรับมนุษยชาติทั้งหมด

เพทริม เอ. โซโรคิน นักสังคมวิทยาได้เขียนไว้ว่า “ปัญหาสำคัญสำหรับยุคของเรามิใช่ความเหนือกว่าของลัทธิทุนนิยมหรือคอมมิวนิสต์ ลัทธิชาตินิยมหรือสากลนิยม แต่มันคือการนำเอาปรัชญาแห่งชีวิตอันสูงส่งกว่ามาแทนที่วัฒนธรรมวัตถุนิยม ในสงครามโลกสองครั้งที่ผ่านมา ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นถ้าคู่แข่งของตนถูกทำลาย ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ฝ่ายพันธมิตรตำหนิกษัตริย์ไกเซอร์ วิลเฮล์มแห่งเยอรมัน ขณะที่ไกเซอร์ถือว่าการปราบอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสันติภาพ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความเห็นขัดแย้งกันว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฮิตเลอร์ลาออกหรือตาย หรือโดยการกำจัดเชอร์ชิล หรือถ้ามุสโสลินีไม่มาเกิด หรือถ้าจักพรรดิฮิโรฮิโตไม่ได้เป็นผู้ปกครองญี่ปุ่น หรือถ้าทร็อตสกี้ขึ้นมาแทนสตาลินในรัสเซีย

ตอนนี้ คนเหล่านั้นได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่โลกก็ยังคุกรุ่นไปด้วยไอร้อนของสงครามมากขึ้นทุกวันจนชาวโลกเริ่มรู้สึกหวาดวิตก มิใช่ผู้นำดังกล่าวหรอกที่เป็นสาเหตุแห่งความหายนะในศตวรรษที่ 20 คนเหล่านี้เป็นแต่เพียงผู้นำในการตอบสนองอารมณ์ของประชาชนที่เป็นผู้เลือกพวกเขาขึ้นมาต่างหาก ผู้นำเป็นอย่างไรก็สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของผู้คนในสังคมหรือในประเทศนั้น ถ้าประชาชนฉลาดเลือกผู้นำที่ดี ประชาชนก็จะได้รับแต่สิ่งดี แต่ถ้าเลือกผู้นำชั่วขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ประชาชนก็ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมจากการเลือกของตัวเองไป

ยุคนี้เรามี “สมาคมเพื่อป้องกันการทำทารุณต่อสัตว์” และสามารถทำให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวไปได้อีกเล็กน้อยด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ แต่ผลิตภัณฑ์มฤตยูโหดอย่างระเบิดปรมาณูก็เจริญก้าวหน้าไปพอๆกัน แม้สหประชาชาติจะออกคำประกาศเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ต้องอดตายหรือถูกฆ่าในสงครามระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ

องค์การสหประชาชาติทำอะไรเมื่อสหภาพโซเวียตส่งกองกำลังทหารรุกรานอาฟกานิสถาน ? เมื่อสหรัฐปิดล้อมอิรักทำให้เด็กและประชาชนนับล้านคนต้องอดอยากและเสียชีวิต ? เมื่อสหรัฐโจมตีอาฟกานิสถานและอิรักด้วยข้ออ้างที่ไร้สาระและเหตุผล ?


ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

Vandalism in the Civilization

Banjong Binkason


Some sociologists assume that war is not something separate from life. Wars happen because of the harshness and cruelty of the human body. But sociologists and psychologists, some people reject this idea and considered the war to be eliminated from human life. The deadly carnage caused by moral decadence. Lawlessness, social and economic issues. These are not elements of human nature. Education is a human truth and justice in society are able to eliminate the causes of the war that killed millions of people.

The triumph of science and technology have made the 20th century became the century of the massacre. A century of greed, violence, riots, and most inhumane war. Just look back at the events of the world during the last years of the 75th century. It can be seen that short time, less than a hundred years. Federal claiming civilized and prosperous than at any crimes in human history.

The West was the dominant technique and atomic industry. But the knowledge that the West has become the driving force for human blood together. Making it fertile land into desert. Make the cries of the oppressed as resound to the horizon. Weak human thought and moral degeneration.

In the aftermath of World War II was due to the conflict between the two imperialist powers is evil for mankind who might not have any reason to excuse it.

1st World War lasted 1,565 days in the field that are dead to nine million people lost limbs, deformed and became unemployed for life, 22 million people, the number of deaths and injuries in the city are crowded, it may not be counted. have The cost of the war, more than four hundred million dollars. Foundation, Carnegie said in a report "The Twentieth Century World" (the 20th century) that the amount of time it can build medium to every family in England, Ireland, Scotland, Belgium, Germany, Russia, the US, Canada and Australia. informally Several million people have survived for lovers weep bitterly away.

Yet the ruins will be restored and the wounds of World War 1 to relieve pain. World War 2 began recording statistics that World War 2 has killed 35 million people to 20 million people losing limbs, blood spurting 17 million liters to 12 million children are born deformed. Primary and secondary schools 13 000 6000 University of Science Laboratory 8000 and the destruction of ammunition was used to match 319 billion.

In 1945, the United States dropped atomic bombs on two small cities of Hiroshima and Nagasaki. The people in the city of Hiroshima was the heat of the explosion until the water had evaporated to 70,000 people, 70,000 people in the city of Nagasaki has killed 40,000 people and another 40,000 people every building collapse was leveled. Nothing remains a beast In spite of this a little earlier. Japan surrendered already negotiated.

The Associated Press reported that the post-war world. Factory prosthetic leg from Russia have ordered four million American companies stand to put to the loss of a leg in the war. Because Russia is not able to produce enough prosthetics. If this amount were ordered prosthetics, it means that there must be many more casualties in Russia. And in other countries will have a number that nobody knows.

Atomic bomb in 1945, containing uranium and plutonium 235 units, 239 units of TNT equivalent explosive force of the atomic bomb has the power to break the current 335,000 units to 5,000 times more deadly and destructive than the atomic bomb has the power to 5 million times. Just one bomb is enough to make big city like New York, Paris, London or Moscow flat to the city without using the aircraft. Nowadays, the atomic bomb can be attached to a missile fired from up to 2,000 miles Dr. Linus Paul Stallings chemist US residents who received the Nobel Prize, said that in the first hours of the war, this new bomb 10 000 Megaton. to destroy the people who live in big cities to 175 million people now live in the US have high Armory devastating blow to the Russian 80 000 24 000 15 000 children in the UK when he was talking about.

US general says one new war in the future, this will not waste much as civilian military life. The physicist has transferred the war mostly from man to machine made instead. And it will not be destroyed by isolated as a child. Or elderly women Scenes of destruction is not a barracks or a battlefield, as we see in movies. But it is the towns and villages, factories and economic center. These are places where the missile explode. Gas poisoning bacteria and disease are charged.

Despite two world wars destroyed many men go through. But the terrors of war, it does not affect the moral conscience of the West, even a little bit. Instead of using the power of thought Material and finance to the peace and prosperity of mankind. Western nations advancing to use it as a tool of destruction.

Bertrand Russell, philosopher, man of the world wrote. "Governments are competing send travelers astronauts to the moon together, breaking the world historical demand is pushing for a tribe to attack another tribe to factor a little, but the current social wealth to race suicide. absolutely senseless "

Save the Economy stated that in the first half of the 20th century has been spent on weapons to four hundred million dollars, which is enough to feed the people all at the same time and can build on. home to a third of the world population.

If a third world war caused deadly modern weapons that will leave no one left but both winners and losers. Because the world is becoming a graveyard for all humanity.

Petrie's edge. Sorokin sociologist wrote. "The key issue for our generation, not the superiority of capitalism or communism. Nationalism or internationalism But it was the introduction of the noble philosophy of life than replace materialistic culture. World War Two times in the past. Each partner claimed that peace will happen if their competitors were destroyed. In the first World War, the Allies blamed King Kaiser. William Wilhelm of Germany. While the Kaizer considered quashing English is essential for peace. In World War 2, there are conflicting views that peace will be achieved when Hitler resign or die. Or by eliminating Churchill. If Muskoka overthrew Solomon was not coming. If Emperor Hiro Hito of Japan is not a parent. Or if at Rotterdam Kowalski instead Stalinism in Russia.

Now those people have gone from this world. But the world was still simmering with the heat of battle, every day until the world started to feel anxious. Such leadership is not something that is the cause of destruction in the 20th century, these were the only leaders in the emotional response of the people who picked them up separately. Leadership is how it reflects the nature of the people in society in that country. If intelligent people choose good leaders. People will just keep getting better. But if leaders do more to lead the country. People had to face adversity, from the selection of yourself.

We have the "Society for the Prevention of Cruelty to Animals," and can make people live longer going to be a bit more with the heart. Deadly bomb was brutal, but the products are to progress equally. Even the United Nations to issue a declaration on human rights. But there are many of them who die or are killed in a war between different political groups.

Nations do when Soviet troops invaded Afghanistan? When the US blockade of Iraq, and the millions of people to starvation and death? When the US attacked Afghanistan and Iraq with the excuse ridiculous, and why?

Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason