บรรจง บินกาซัน
ในยุคที่วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าสุดขีดในปัจจุบัน ศาสนาอาจดูเป็นเรื่องล้าสมัยเพราะศาสนาไม่มีศัพท์เกี่ยวกับเรื่องเครื่องยนต์กลไกและวิทยาศาสตร์ คนรุ่นใหม่จึงไม่สนใจศาสนา
แต่โชคดีที่ศาสนาเป็นเรื่องของวิญญาณอันเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิต ถ้าไม่มีวิญญาณก็ไม่มีชีวิต ดังนั้น ตราบใดที่มนุษย์บนโลกใบนี้ยังมีชีวิตก็ย่อมมีมนุษย์ที่ให้ความสนใจในศาสนาอยู่ไม่ขาดสาย
ส่วนใหญ่แล้ว มนุษย์ได้รับศาสนาจากการถ่ายทอดสืบต่อกันมาของบรรพบุรุษ บางคนอาจได้รับจากการแสวงหาด้วยตัวเอง บางคนมีความประทับใจอะไรบางอย่างที่นำไปสู่การรู้จักศาสนาหนึ่งและเริ่มเรียนรู้ทำความเข้าใจจนเกิดความเชื่อมั่นและหันไปนับถือศาสนานั้นก็มี
สเตซี่ หญิงสาวชาวออสเตรเลียคนหนึ่งยอมรับอย่างเปิดเผยว่า “คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่ทำให้ฉันหันมาเป็นมุสลิมก็เพราะยิ้มอันอบอุ่นของผู้หญิงคนหนึ่ง”
เธอเล่าว่าเหตุผลที่ทำให้เธอหันมาสนใจอิสลามก็คือซาราห์เพื่อนร่วมงานของเธอซึ่งมีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลาและเป็นคนมองโลกในแง่ดี เธอจึงไม่มีความกังวลในจิตใจ ซาราห์ให้ความร่วมมือแก่ผู้ร่วมงานทุกคนด้วยความเต็มใจเสมอ
ด้วยความสนใจในบุคลิกของซาราห์ วันหนึ่ง สเตซีตัดสินใจถามสาวน้อยซาราห์อย่างตรงไปตรงมาถึงเคล็ดลับที่ทำให้เธอเป็นคนยิ้มร่าเริง มองโลกในแง่ดีและไม่มีความกังวล
ซาราห์ตอบเธอว่า “ฉันเป็นมุสลิม อิสลามสอนให้ฉันปฏิบัติต่อตัวเองและต่อคนอื่นเช่นนี้”
คำตอบสั้นๆดังกล่าวทำให้สเตซี่ตัดสินใจเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับอิสลามซึ่งไม่ได้มีแต่เฉพาะเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจเพื่อรักษาความสัมพันธ์ส่วนบุคคลกับพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังมีคำสอนอีกมากมายที่สอนเรื่องทักษะในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่อยู่รอบข้างด้วย
คนส่วนใหญ่เชื่อกันอย่างผิดๆว่าการวางตัวเคร่งขรึม การแต่งกายให้ดูคล้ายนักบวชหรือการทำใบหน้าเคร่งเครียดจะทำให้คนที่เห็นเกิดความเคารพ แต่คำสอนเช่นนี้ไม่มีในอิสลาม เพราะอิสลามส่งเสริมให้มุสลิมเป็นผู้ยิ้มแย้มแจ่มใสและมองโลกในแง่ดี ทั้งนี้เพราะมุสลิมเชื่อและยอมรับในกฎแห่งชะตากรรม
มุสลิมเชื่อว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตของตนนั้นล้วนเป็นผลดีต่อตัวเองเสมอและพระเจ้าทรงเฝ้ามองเขาอยู่ทุกขณะไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเคราะห์กรรมแสนสาหัส แต่มุสลิมก็เชื่อว่าเบื้องหลังของเคราะห์กรรมหรือความเลวร้ายนั้นมีวัตถุประสงค์อะไรบางอย่างแฝงเร้นอยู่ และไม่นานนัก ด้วยความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับมาดีเอง
ด้วยคำสอนของอิสลาม มุสลิมจึงไม่คิดกังวลเกี่ยวกับอนาคตหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้ามากนัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามุสลิมจะไม่คิดถึงอนาคตเลย ทุกคนต้องคิดถึงอนาคตและกำหนดเป้าหมายของตัวเองไว้พร้อมกับวางแผนเพื่อที่จะบรรลุถึงเป้าหมาย หลังจากนั้นก็ทำตามแผนอย่างดีที่สุดและวิงวอนขอความสำเร็จต่อพระเจ้าโดยมอบหมายทุกสิ่งให้ขึ้นอยู่กับความเมตตาของพระองค์ เมื่อผลของความพยายามเป็นอย่างไร มุสลิมก็ถือว่านั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาและยอมรับในสิ่งนั้นด้วยความยินดี
นบีมุฮัมมัดเองก็เป็นคนที่เบิกบานและมองโลกในแง่ดี ใบหน้าของท่านจะแสดงออกถึงความกตัญญูต่อพระผู้เป็นเจ้าเสมอแม้ในยามที่ท่านต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วๆไปจะอดทนได้ เพราะภายในใจลึกๆของท่านมีความเชื่อมั่นอยู่เสมอว่าพระเจ้าทรงเฝ้าดูท่านอยู่และพระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านให้ดีขึ้น
นบีมุฮัมมัดสอนคนของท่านให้ทำอย่างที่ท่านทำ ท่านกล่าวว่าการที่มุสลิมยิ้มให้ใครสักคนก็เหมือนกับว่าคนผู้นั้นกำลังให้ทาน แม้แต่การให้คำแนะนำที่ดีหรือการให้ความช่วยเหลือแก่คนอื่นก็ถือว่าเป็นการทำทานเช่นกัน
เป้าหมายของคำสอนศาสนาคือจิตวิญญาณของมนุษย์ ดังนั้น การนำคำสอนของศาสนามาปฏิบัติในชีวิตประจำวันจึงเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่มนุษย์ การกระทำจึงมีเสียงดังกว่าคำพูด เพราะภาษากายนั้นมีอิทธิพลอย่างมากในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น
ยิ้มเป็นภาษาสากลที่ทุกคนเข้าใจได้ มันมีพลังที่จะทำให้คนอื่นทุกเพศทุกวัยพลอยยิ้มไปกับคุณด้วยไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นชนชาติ เผ่าพันธุ์หรือสีผิวอะไรก็ตาม นอกจากนี้แล้ว ยิ้มยังสร้างมิตรภาพ กำลังใจและความหวังให้เกิดขึ้นแทนความหดหู่อีกด้วย
ในทางจิตวิทยา การยิ้มเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความมีสุขภาพดี ความจริงแล้ว ยิ้มเป็นธรรมชาติทางจิตใจของมนุษย์ เพราะบางครั้ง เรายิ้มให้คนที่ยิ้มให้เราทั้งๆที่เราไม่รู้จักคนผู้นั้นและเรายิ้มให้คนผู้นั้นโดยที่เราไม่ได้คิดเสียด้วยซ้ำไป
ถ้าใครมีพระเจ้า ยิ้มไว้ครับ เพราะพระองค์เป็นผู้ทรงเมตตาเสมอ เมื่อเราเชื่อเช่นนี้แล้ว เราจะต้องมากังวลอะไรเมื่อเรารู้อยู่แก่ใจว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแก่เราล้วนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา ?
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
The power of smiles
Banjong Bin Gan SunIn an era when science is progressing in extreme current. Religion may seem outdated because religion has no vocabulary on mechanics, mechanics, and science. The new generation is not interested in religion.
But fortunately, religion is about the soul as a vital element of life. If there is no soul, then there is no life, so as long as there are living beings in the world, there will always be human beings who pay attention to religion.
Mostly, human beings have been cultured by inheritance. Some people may get from seeking on their own. Someone is impressed by something that leads to one religion and begins to learn, to understand, to believe, and to turn to religion.
Stacy, an Australian woman, admitted openly. "Do you believe it or not? What makes me turn to a Muslim is because of the warm smile of a woman. "
She says that the reason why she turned her attention to Islam is that her colleague Sarah, whose face was always smiling and optimistic. She is not worried in mind. Sarah always cooperates with all colleagues willingly.
With an interest in Sarah's character, one day, Stephanie decides to ask Sarah's girlfriend honestly for her secret trick to cheer her up. Optimistic and no worries
Sarah answered her. "I am a muslim Islam teaches me to treat myself and others like this. "
The short answer makes Stacy decide to start learning about Islam, which is not only about religious practice, but also about personal relationships with God. But there are also many teachings that teach skills in interacting with those around them.
Most people mistakenly believe that being so grim. Dressing up like a priest or doing a serious face will make people see respect. But such teachings do not exist in Islam. Because Islam encourages Muslims to be cheerful and optimistic. Because Muslims believe in and accept the rules of fate.
Muslims believe that whatever is happening in their lives is always good for themselves, and God is watching over them wherever they are. Although what happens is a terrible fate. But Muslims believe that the background of fate or evil has some purpose latent and not long with the mercy of God. Everything will come back to itself.
With the teachings of Islam Muslims are not worried about the future or what will happen in the days ahead. But that does not mean that the Muslims will not think of the future. Everybody has to think about the future and set their own goals, along with planning to achieve their goals. After that, follow the best plan and invoke God's success by entrusting everything to His mercy. When is the result of the effort? Muslims consider that to be what God has revealed and accepted with pleasure.
Prophet Muhammad is a cheerful and optimistic person. Your face will always express your gratitude to God even when you face more severe suffering than ordinary human beings will tolerate. Because within your deep heart, there is always the belief that God is watching you and that He will change your life.
Prophet Muhammad teaches your people to do what you do. He said that the smile of a Muslim is like that person is feeding. Even giving good advice or giving support to others is considered as a diet.
The goal of the doctrine is the human spirit, so the application of the doctrines of religion to everyday life is what impresses people. Action is noisy than words. Because body language has a great influence on communicating with others.
Smile is a universal language that everyone can understand. It has the power to make people of all ages smile with you, regardless of whether that person is a racist. What species or skin color In addition Smile also creates friendship. Morale and hope come instead of depression.
In psychology Smiling is a manifestation of good health. Because sometimes We smile to those who smile to us, even though we do not know the person, and we smile to that person without even thinking about it.
If anyone has God, smile, because He is always merciful. When we believe this, then. What do we have to worry about when we know that everything that happens to us is the best for us?
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น