หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561

ศาสนาจะกลับมามีบทบาทอีก



บรรจง บินกาซัน

คัมภีร์กุรอานบอกกล่าวเรื่องราวการสร้างมนุษย์ไว้อย่างน่าสนใจว่าเมื่อพระเจ้าจะสร้างมนุษย์ขึ้นมา พระองค์ได้เอ่ยบอกบรรดาทูตสวรรค์ที่ทำหน้าที่รับใช้พระองค์ว่าพระองค์จะสร้างตัวแทนขึ้นมาบนโลกใบนี้เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เรื่องราวดังกล่าวบอกให้เรารู้ว่าสถานภาพของมนุษย์คือตัวแทนของพระเจ้าบนหน้าแผ่นดิน


เป็นเรื่องธรรมดาที่หากใครจะแต่งตั้งตัวแทนให้ทำหน้าที่อะไรบางอย่างแทนตน ตัวแทนผู้นั้นต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถพอที่จะทำหน้าที่แทนตนให้สำเร็จลุล่วงไปได้ คัมภีร์กุรอานเล่าเรื่องราวต่อไปว่าเมื่อพระเจ้าทรงสร้างอาดัมให้เป็นตัวแทนเพื่อทำหน้าที่บางอย่างบนโลกใบนี้ พระองค์จึงได้สอนนามต่างๆหรือความรู้ให้แก่อาดัม ไม่เพียงเท่านั้น พระองค์ยังได้สร้างสถานการณ์จำลองเพื่อสอนบทเรียนสำคัญให้อาดัมรู้ว่าบนโลกใบนี้มีซาตานมารร้ายอาศัยอยู่ด้วย จงอย่าหลงเชื่อมัน เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ความรู้ที่มนุษย์ผู้เป็นลูกหลานอาดัมได้รับจากพระเจ้าจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดและเป็นผลร้ายกับมนุษย์เอง

ดังนั้น เราจึงเห็นได้ว่าเมื่อมนุษย์มาจุติบนโลกใบนี้และแพร่ขยายเผ่าพันธุ์จนมีจำนวนนับหลายพันล้านคน มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเพียงเผ่าพันธุ์เดียวที่ได้รับความรู้ในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง ความรู้เหล่านี้เองที่ทำให้มนุษย์มีวิวัฒนาการมาโดยตลอดในขณะที่สัตว์สายพันธุ์อื่นๆไม่มีวิวัฒนาการในการดำรงชีพเหมือนมนุษย์ แต่ขณะที่มนุษย์ได้รับความรู้ในทางโลกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์ก็ได้รับความรู้ที่สำคัญอย่างหนึ่งไปพร้อมๆกันไปโดยไม่ขาด นั่นคือ คือความรู้ทางศาสนาที่มีศาสดาหรือนบีเป็นบรมครูมาพร่ำสอน

ยุคใดก็ตามที่มนุษย์มีความรู้ทางวิชาการและใช้ชีวิตตามคำสอนของศาสนา ยุคนั้นเป็นยุคที่มนุษย์ได้รับความสุขและความเจริญทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจ

เนื่องจากความรู้ทางโลกและทางธรรมมาจากแหล่งที่มาเดียวกัน นั่นคือพระเจ้า ดังนั้น ความรู้ทางโลกหรือทางวิทยาศาสตร์จึงสอดคล้องกันและไม่ขัดแย้งกับคำสอนของศาสนา แต่เมื่อใดที่บุคคลทางศาสนาสอนความรู้ทางธรรมที่ไม่ได้เป็นคำสอนที่แท้จริงหรือบิดเบือนคำสอนของศาสนา ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นและความเสียหายจะติดตามมา

ในยุคที่คริสตจักรเรืองอำนาจ บาทหลวงส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาลและสอนความเชื่อในเรื่องนี้จนดูเหมือนเป็นความเชื่อทางศาสนาทั้งๆที่ความเชื่อในเรื่องนี้ไม่มีอยู่ในคัมภีร์ เพราะพระเจ้าทรงรู้ดีว่าความรู้ทุกอย่างทางด้านกายภาพเป็นสิ่งที่พลังสติปัญญาของมนุษย์สามารถค้นหาได้

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆเมื่อนักวิทยาศาสตร์ยุคกลางอย่างเช่น เคปเลอร์ โคเปอร์นิคัส กาลิเลโอและคนอื่นๆได้พบความจริงและยืนยันด้วยความเชื่อมั่นจากการศึกษาค้นคว้าทดลองว่าดวงอาทิตย์ต่างหากที่เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล มิใช่โลก

ความรู้ใหม่ที่ได้รับการยืนยันจนกลายเป็นความเชื่อมั่นของนักวิทยาศาสตร์นี้เองทำให้บาทหลวงในยุคกลางถือว่าเป็นการท้าทายสถานภาพและอำนาจความน่าเชื่อถือของตน ดังนั้น ศาลศาสนาจึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อไต่สวนนักวิทยาศาสตร์ที่ท้าทายบาทหลวงแห่งคริสตจักร นักวิทยาศาสตร์หลายคนถูกทรมานอย่างทารุณเพื่อให้เปลี่ยนแปลงความรู้ของตนให้สอดคล้องกับความเชื่อของบาทหลวง หลายคนต้องพิการและหลายคนต้องถูกทรมานจนเสียชีวิต แต่นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นเชื่อมั่นในความรู้ที่ถูกต้องของตนจนเหมือนกับเป็นความเชื่อในสัจธรรม จึงไม่ยอมราข้อให้บาทหลวงแห่งคริสตจักรแม้ต้องเสียชีวิตก็ตาม

เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกกดขี่ข่มเหงรุนแรงมากขึ้น มาร์ติน ลูเธอร์ นักวิทยาศาสตร์และบาทหลวงชาวเยอรมันจึงประท้วงและปฏิเสธการตัดสินของบาทหลวงแห่งคริสตจักร นับแต่นั้นมา คริสตจักรซึ่งเคยเป็นหนึ่งเดียวภายใต้พระสันตะปาปาจึงได้แตกออกเป็นสองซีกใหญ่คือคริสตจักรโรมัน คาธอลิกและโปรเตสแตนท์(ที่แปลว่าผู้คัดค้าน)

หลังจากนั้นเป็นต้นมา โลกของโปรเตสแตนท์ได้รับความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมากเพราะการหลุดพ้นจากกรอบความคิดความเชื่อของบาทหลวงแห่งคริสตจักรยุคกลาง แต่ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้คนยุคใหม่เชื่อมั่นในความรู้ทางวิทยาศาสตร์จนเหมือนกับความศรัทธาทางศาสนาและมองว่าศาสนาเป็นสิ่งล้าหลัง คนรุ่นใหม่หลายคนคลั่งไคล้วิทยาศาสตร์และถือว่านักวิทยาศาสตร์คือศาสดายุคใหม่จนถึงขนาดที่ว่าเมื่อนักวิทยาศาสตร์บอกว่ามนุษย์มีวิวัฒนการมาจากลิง คนเหล่านี้ก็เชื่ออย่างสนิทใจ

การปฏิเสธบทบาทของศาสนาในชีวิตและการจำกัดบทบาทของบุคคลทางศาสนาไว้ในบริเวณศาสนสถานนี้เองที่ทำให้เกิดแนวความคิดที่เรียกว่า“เซคิวล่าริสต์” (secularism) ซึ่งต่อมาได้แตกลูกออกหลานเป็นลัทธิความเชื่อต่างๆที่มาจากความคิดของมนุษย์ล้วนๆโดยไม่มีศาสนาเกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น ลัทธิทุนนิยมที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านเป็นลัทธิคอมมิวนิสต์ขึ้นมา แต่ทั้งสองลัทธินี้คือด้านหัวและด้านก้อยของเหรียญกษาปณ์อันเดียวกัน กล่าวคือ ทั้งสองลัทธินี้ปฏิเสธบทบาทของศาสนาในการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจและสังคมเหมือนกัน

วันนี้ โลกได้เห็นการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ไปแล้ว ขณะเดียวกัน ลัทธิทุนนิยมก็กำลังอยู่ในอาการโคม่า ในไม่ช้า เมื่อเศรษฐกิจและสังคมของมนุษย์พังทลาย มนุษย์ก็จะเรียกร้องต้องการให้นำคำสอนของศาสนาที่ถูกต้องมาประยุกต์ใช้ในชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมอีกครั้งหนึ่ง


ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชนhttps://www.facebook.com/Banjong.Binkason

| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]



Religion will return to play another role

Banjong Bin Gan Sun

The Quran tells the story of human creation so interestingly that when God creates mankind. He talked to the angels who served Him that He would make a representative on this earth for some purpose. The story tells us that the human condition is God's representation on the earth.

It is common for anyone to appoint an agent to act on their behalf. The agent must be competent enough to act on his behalf. The Quran tells the next story that when God created Adam to act as something in the world. He taught the names or knowledge to Adam. not only He also created a scenario to teach important lessons to Adam, knowing that on this planet satan the devil lives. Do not believe it Because otherwise. The knowledge that human descendants of Adam received from God is misused and misused by humans.

So we can see that when humans come to this world and spread the races to billions of people. Human beings are the only species that have been continuously educated in various fields. These knowledge has given rise to human evolution, while other species have not evolved to live as humans. But as humans gain more and more knowledge of the world. Human beings receive one important knowledge at the same time, without fail, that is, the religious knowledge with the Prophet or the Prophet's teacher.

At any age, human beings have academic knowledge and live the doctrine of religion. The era was a time when people were happy and prosperous, both physical and mental.

Since worldly and fair knowledge comes from the same source. That is God, so worldly or scientific knowledge is consistent and does not conflict with the doctrines of religion. But when a religious person teaches a dharma that is not a true teaching or distorts the doctrine of religion Conflicts will arise and damage will follow.

In that age, the church was in power. Most bishops believe that the world is at the center of the solar system and teaches this belief so much that it seems to be a religious belief, even though the belief in it is not in the scriptures. Because God knows that all physical knowledge is what human intelligence can find.

And so it was when medieval scientists such as Kepler, Copernicus, Galileo, and others found the truth and confirmed with conviction the study of the sun that is. The center of the solar system is not the world.

The new knowledge that has been so confirmed by the scientist's beliefs has made the medieval bishops a challenge to their status and authority. So the religious court was set up to investigate the challenging scientist, the pastor. Of the church Many scientists were brutally tortured to change their knowledge in accordance with the bishop's beliefs. Many people are disabled and many have been tortured to death. But those scientists believe in their correct knowledge, so much so as to be faithful to the truth. Therefore, the Church bishops are not even allowed to die.

When it was not justified and oppressed, Martin Luther, a scientist and German pastor, protested and rejected the church bishops' decisions. The only one under the Pope was split into two major parts: the Roman Church. Catholics and Protestants (that is, the objections)

After that, The Protestant world has enjoyed tremendous scientific advancement because of its breakthrough from the conceptual framework of the bishops of the Middle Ages. But scientific advances make modern people believe in scientific knowledge, like religious faith, and see religion as a lag. Many new generations are crazy about science, and scientists consider it a modern-day prophet to the extent that when scientists say that humans have evolved from monkeys These people are convinced.

The denial of the role of religion in the life and the restriction of the role of religious persons in this religious area led to a concept called secularism, which later broke off. It is a cult of beliefs that come from purely human ideas without any religion involved. For example, capitalism that is a reaction to communism. But these two creeds are the head and shoulders of the same coin, both of which reject the role of religion in economic and social order.


Today, the world has seen the collapse of communism, while capitalism is in a coma. Soon, when the economy and society of human beings collapse. Humans will demand that correct religious teachings be applied to economic and social life again.

Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น