หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562

ทำไมฝรั่งถือว่าเลข 13 อัปมงคล


บรรจง บินกาซัน

ความเชื่อในเรื่องโชคลางเป็นสิ่งที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ในชาติตะวันตกที่เจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยังมีคนไม่น้อยที่เชื่อในเรื่องนี้ หนึ่งในนั้นก็คือความเชื่อว่าเลข 13 เป็นเลขอัปมงคลจนถึงขนาดหลายอาคารและหลายโรงแรมไม่มีเลขบอกชั้นที่ 13

มีหลายคนศึกษาหาเหตุผลว่าทำไมเลข 13 เป็นเลขอัปมงคลและได้ข้อสรุปมาดังนี้


ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ของชาวคริสเตียนถือว่าคนที่ 13 ที่จะมานั่งโต๊ะอาหารคือยูดาสหรือไม่ก็พระเยซู

หลายคนเชื่อว่าอาหารมื้อสุดท้ายหรือการถูกตรึงกางเขนของพระเยซูเกิดขึ้นในวันที่ 13

วินเซนต์ โฟสเตอร์ ฮอปเปอร์ นักประวัติศาสตร์คนหนึ่งอ้างว่าคนที่พยายามจะทำให้เลข 13 เป็นเลขอัปมงคลคือนักเล่นตัวเลขชื่อเปรตัส บันกัส ในศตวรรษที่ 16 ฮอปเปอร์ให้เหตุผลข้อหนึ่งว่าบันกัสได้บันทึกไว้ว่าชาวยิวบ่นพึมพัมตำหนิพระเจ้า 13 ครั้งในการอพยพออกจากอียิปต์ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือบทสวดสดุดีบทที่ 13 เป็นเรื่องเกี่ยวกับความชั่วและการทุจริต และการขลิบหนังปลายอวัยวะเพศของชาวอิสราเอลมีขึ้นในปีที่ 13

บางคนกล่าวว่าตะแลงแกงที่ใช้ประหารนักโทษในอดีตมีบันได 13 ขั้น ถึงแม้ตะแลงแกงจะมีขนาดต่างกันก็ตาม

บางคนอ้างว่าอัศวินเทมปลาร์เริ่มถูกจับในวันศุกร์ที่ 13 ชาวยุโรปเชื่อกันว่าอัศวินเทมปลาร์เป็นผู้คุ้มครองถ้วยที่พระเยซูดื่มน้ำในอาหารค่ำมื้อสุดท้ายและข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ นอกจากนี้แล้วยังทำตัวเป็นธนาคารปล่อยเงินกู้ให้กษัตริย์ยุโรปหลายคน แต่หลังจากกษัตริย์ฟิลิปส์ที่ 4 แห่งฝรั่งเศสแพ้สงครามอังกฤษและเป็นหนี้พวกอัศวินเหล่านี้เป็นจำนวนมาก กษัตริย์จึงสมรู้ร่วมคิดกับโป๊ปคลีเมนต์ที่ 5 ให้จับกุมอัศวินเทมปลาร์ทั้งหมดด้วยข้อหานับถือลัทธิซาตานและข้อหาอาชญากรรมอื่นๆและสังหารหมู่อัศวินเหล่านั้น การปิดล้อมจับกุมอัศวินเทมปลาร์เริ่มต้นในวันศุกร์ที่ 13 เดือนตุลาคม ค.ศ.1307

บางคนอ้างว่าเลข 13 เป็นเลขอัปมงคลเพราะผู้หญิงโดยทั่วไปมีรอบเดือนประมาณ 13 ครั้งต่อปี

บางคนกล่าวว่าแม่มดกลุ่มหนึ่งมีสมาชิกจำนวน 13 คน ถึงแม้ว่าตอนนี้แม่มดถูกถือว่าเป็นผู้ทำเวทมนตร์ไสยศาสตร์กลุ่มใดก็ได้ แต่ครั้งหนึ่ง เคยเชื่อกันว่าแม่มดกลุ่มหนึ่งมีจำนวน 13 คน

มีความเชื่อโบราณอย่างหนึ่งว่าถ้าใครมีชื่อที่ประกอบด้วยอักษร 13 ตัวอักษร คนผู้นั้นตกเป็นผู้ถูกสาป แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่มีเหตุทำให้เชื่อเช่นนั้น เพราะชื่อและนามสกุลของฆาตกรที่ฉาวโฉ่ในอดีตล้วนประกอบด้วย 13 ตัวอักษร เช่น Charles Manson, Jadk the Ripper, Jeffery Dahmer เป็นต้น
แม้แต่ชื่อของฮิตเลอร์ตอนทำศีลจุ่มก็คือ Adolfus Hitler

วันศุกร์ที่ 13 เป็นวันที่แพงสำหรับธุรกิจ นักวิเคราะห์คนหนึ่งอ้างว่าในปีหนึ่งมีการขาดทุนนับเป็นพันล้านดอลล่าร์เพราะผู้คนเลือกที่จะไม่ทำธุรกิจใดๆในวันศุกร์ที่ 13

บันทึกคัมภีร์ของชาวโซโรแอสเตอร์ทำนายถึงความปั่นป่วนในทศวรรษที่ 13 ชาวเปอร์เซียโบราณได้แบ่งประวัติศาสตร์ออกเป็นช่วงละ 3,000 ปี ถึงแม้กรอบเวลาอาจแตกต่างกัน แต่นักวิชาการบางคนรู้สึกว่าในตอนเริ่มต้นปีที่ 13,000 จะมีความโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อซาตานทำสงครามต่อต้านความดี

ก่อนหน้าสมัยอิสลาม ชาวอาหรับก็มีความเชื่อในเรื่องโชคลางเหมือนกัน เช่น เมื่อจะออกไปทำธุระสำคัญ ชาวอาหรับจะดูบนท้องฟ้าก่อนว่ามีนกบินด้านไหน ถ้านกบินด้านซ้าย ชาวอาหรับถือว่าเป็นลางร้ายและจะไม่ออกไปทำธุระสำคัญ

แต่เมื่อนบีมุฮัมมัดมาเผยแผ่อิสลามและชาวอาหรับหันมาศรัทธาในพระเจ้าแล้ว ท่านสั่งห้ามมุสลิมเชื่อถือเรื่องโชคลางและให้ถือว่าเรื่องดีและเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนมาจากพระเจ้า ถ้าพระเจ้าจะให้สิ่งใดเกิดก็ไม่มีใครสามารถยับยั้งได้ และถ้าพระเจ้าจะไม่ให้สิ่งใดเกิด ก็ไม่มีใครสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้



ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]



Why do you think the number 13 is unfortunate?


Banjong Binkason

The superstitious beliefs that exist in human society from the past to the present. Even in Western countries, where scientific progress. There are people who believe in this. One of them is the belief that the number 13 is unfortunate number to many buildings and many hotels have no thirteenth floor.

There are many people who find out why the number 13 is unfortunate and concluded as follows.

In the Christian record, the 13th person to sit at the table was Judas or Jesus.

Many believe that the last meal or crucifixion of Jesus took place on the 13th.

One of the historians claiming that one who tried to make the number 13 was an unfortunate number was the pseudonym Pisacus in the 16th century. It is recorded that the Jews murmured 13 times in rebellion against Egypt. Another reason is that Psalm 13 is about evil and corruption. And the circumcision of the Israeli sex was in the 13th year.

Some say that the gallows used to kill prisoners in the past have 13 steps, although the gallows are different in size.

Some claim that the Knights Templar was arrested on Friday. 13 Europeans believed that the Knights Templar was the guardian of the Cup, where Jesus drank water at the Last Supper and other belongings. In addition, it also acts as a lending bank for many European kings. But after King Philip IV of France lost the war to England and owed them a large number of these knights. The king was co-conspiratorial with the 5th Privy Council to arrest the Templars all on charges of Satanism and other crimes, and massacred the knights. The Tempe Knights seized the siege on Friday, 13 October 1307.

Some people claim that number 13 is a blessing because females generally have around a month about 13 times a year.

Some say that a group of witches has 13 members, although witches are now considered to be magicians of any kind. One time It was believed that a group of 13 witches

There is an ancient belief that if one has a name that contains 13 letters, the person is a cursed. But it is surprising that there is such a belief. The name of the murderer is notorious in the past, including 13 characters, such as Charles Manson, Jadk the Ripper, Jeffery Dahmer.
Even Hitler's baptismal name is Adolfus Hitler.

Friday, 13th is an expensive day for business. Analysts claim one billion dollars in losses a year because people choose not to do business on Friday 13.

The Zoroastrian Prophecies predict the turmoil of the 13th century. Ancient Persia divides history by 3,000 years, although the time frame may vary. But some scholars feel that at the beginning of the 13,000 year, there will be chaos when Satan makes war on good.

Pre-Islamic The Arabs also have superstitious beliefs, such as when going out to do important business. Arabs will look in the sky before the birds fly. If the bird flies left The Arabs are considered ominous and will not go out to do important business.

But when Prophet Muhammad came to spread Islam and Arabs turned to faith in God. He ordered the Muslims to be superstitious, and to consider the good and bad things happening in life come from God. If God does give birth, then no one can stop it. And if God does not give birth to anything. No one can make it happen.



Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น