หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562

บันทึกกรรม


บรรจง บินกาซัน

ยิ่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้ามากเท่าใด ยิ่งทำให้เราตาสว่างมองเห็นธรรมหรือความจริงได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น

นวัตกรรมทางเทคโนโลยีล่าสุดอย่างหนึ่งของโลกคือคอมพิวเตอร์หรือสมองกลซึ่งมนุษย์ทุกคนหลีกหนีไม่พ้นโดยเฉพาะมนุษย์ในสังคมเมือง

เมื่อเรากดนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ตัวอักษรใด ตัวอักษรนั้นก็จะปรากฏบนจอภาพและถูกบันทึกไว้ในหน่วยเก็บความจำซึ่งอยู่ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ถึงแม้จะเป็นวัตถุบางๆขนาดเล็ก แต่หน่วยเก็บความจำนี้สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้มากมายมหาศาลและเราสามารถดึงข้อมูลที่เก็บไว้มาดูได้เมื่อต้องการ


ยิ่งเมื่อเทคโนโลยีโทรคมนาคมพัฒนาก้าวหน้ามากขึ้นจนมีระบบอินเตอร์เนต มนุษย์ยิ่งสามารถฝากข้อมูลข่าวสารของตัวเองไว้ในเซอร์ฟเวอร์ของระบบอินเตอร์เนตซึ่งทำให้คนอื่นสามารถเปิดข้อมูลข่าวสารของคนผู้นั้นมาดูได้

ความเจริญก้าวหน้าทางด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีนี้เองที่ทำให้มนุษย์สามารถเข้าใจถึงความจริงทางด้านศาสนาที่ว่าการกระทำทุกอย่างของมนุษย์ขณะที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่ได้สูญหายไปไหน แต่มันได้ถูกบันทึกไว้ตลอดเวลาโดยมนุษย์ไม่รู้ตัวและมนุษย์จะได้เห็นสิ่งที่ตัวเองได้ทำไว้ไม่ว่าดีหรือชั่วแม้เพียงเสี้ยวธุลีก็ตาม คำสอนของทุกศาสนายืนยันถึงความจริงในเรื่องนี้

คัมภีร์กุรอานบทที่ 99 กล่าวถึงเหตุการณ์วันอวสานของโลกและสิ่งที่จะติดตามมาหลังจากนั้นไว้อย่างน่าสนใจว่า :

“เมื่อแผ่นดินถูกทำให้สั่นสะเทือนด้วยการสะบัดอย่างสุดแรงของมัน
แผ่นดินจะโยนทุกสิ่งที่มันแบกเอาไว้ในนั้นออกมา
และมนุษย์จะกล่าวว่า “เกิดอะไรขึ้นกับมัน ?” ในวันนั้น แผ่นดินจะบอกเล่าถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้น (บนมัน)
เพราะพระผู้อภิบาลของเจ้าบัญชามัน (ให้ทำเช่นนั้น)
ในวันนั้น มนุษย์จะออกกันมาเป็นหมู่ๆเพื่อที่จะได้เห็นการกระทำของพวกเขา
ดังนั้น ใครก็ตามที่ได้ทำความดีไว้แม้เพียงอณูหนึ่งก็จะได้เห็นมัน
และใครก็ตามที่ได้ทำความชั่วไว้แม้เพียงอณูหนึ่งก็จะได้เห็นมัน”

ข้อความดังกล่าวเป็นคำเตือนของท่านนบีมุฮัมมัดที่มีต่อชาวอาหรับเมื่อประมาณ 1,400 ปีที่แล้วเพื่อให้คนเหล่านั้นระวังตัวว่าเมื่อวันอวสานของโลกมาถึง มนุษย์ทุกคนจะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและมนุษย์จะได้เห็นการกระทำของตัวเองทุกอย่างที่ทำไว้ในโลกนี้ทั้งความดีและความชั่วแม้เพียงอณูหนึ่งก็ตาม และมนุษย์ทุกคนจะถูกตัดสินตอบแทนตามสิ่งที่ตัวเองได้ทำไว้

สมัยที่โลกยังไม่เจริญ มนุษย์อาจไม่เข้าใจว่าการกระทำบนโลกใบนี้จะถูกบันทึกไว้ได้อย่างไรและไม่เชื่อว่าตัวเองจะได้เห็นสิ่งที่ตัวเองทำไว้ เมื่อไม่เชื่อในเรื่องนี้ มนุษย์จึงใช้ชีวิตอย่างเมามันสนุกสนานโดยไม่คำนึงถึงความรับผิดชอบที่จะติดตามมา นี่คือต้นตอของความชั่ว

เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า มนุษย์สามารถประดิษฐ์แผ่นเสียงบันทึกเสียงพูด เสียงเพลงและเสียงดนตรีที่มนุษย์บรรเลงไว้ได้ จากนั้นก็พัฒนามาเป็นการบันทึกเสียงไว้ในแถบแม่เหล็กจนกระทั่งปัจจุบันมนุษย์สามารถเก็บเสียงของมนุษย์ไว้ในหน่วยความจำด้วยเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบ

การบันทึกภาพของมนุษย์ก็ได้รับการพัฒนาจากการบันทึกภาพขาวดำมาเป็นภาพสี หลังจากนั้นก็พัฒนามาเป็นการบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่สามารถบันทึกได้ทั้งภาพและเสียงในเวลาเดียวกัน ถ่ายภาพไว้แล้วก็สามารถเรียกมาดูได้ทันทีว่าภาพที่ถ่ายไปนั้นเป็นอย่างไร นี่ไงครับที่เขาเรียกว่าบันทึกกรรม หรือบันทึกการ กระทำ

มนุษย์มีประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการติดต่อสื่อสารกับสิ่งที่อยู่รอบตัวมนุษย์ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เช่น ตามองเห็นรูปวัตถุ กายสัมผัสรับรู้คุณสมบัติของวัตถุ หูรับรู้เสียง จมูกรับรู้กลิ่น ลิ้นรับรู้รส

เครื่องรับรู้บนกายมนุษย์ดังกล่าวเปรียบเสมือนแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ บนผิวหนังของมนุษย์ทุกตารางเซนติเมตรมีปลายประสาทนับแสนที่เชื่อมโยงกับสมองของมนุษย์ เมื่อสัมผัสกับน้ำแข็ง ประสาทผิวหนังจะรับรู้ความเย็นและส่งข้อมูลไปเก็บไว้ในหน่วยความจำของสมองที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์เสียอีก ตาของมนุษย์ก็เช่นกัน แม้จะมีพื้นที่เพียงประมาณ 2-3 ตร.เซนติเมตร แต่มันก็มีเซลประสาทนับแสนที่เชื่อมโยงกับสมองเพื่อบันทึกไว้ในหน่วยความจำว่าเป็นภาพอะไร หลังจากนั้น เมื่อมนุษย์ทำอะไรไป การกระทำของมนุษย์ทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้และถูกส่งไปยังเซอร์ฟเวอร์ในโลกวิญญาณที่มนุษย์จะได้เห็นกรรมของตัวเอง

บนโลกใบนี้ มนุษย์สามารถสร้างเครื่องอ่านแถบรหัส(บาร์โคด)บนซองสินค้าเพื่อรู้ลักษณะ ราคา วันผลิตและสต็อกสินค้า มนุษย์สามารถสร้างเครื่องเอ๊กซ์เรย์ที่สามารถตรวจสิ่งซุกซ่อนอยู่ในตัวของมนุษย์ได้ ทำไมพระเจ้าผู้สร้างมนุษย์จะไม่สามารถบันทึกและตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในใจมนุษย์และการกระทำของมนุษย์ไม่ได้ ?



ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]



Banjong Binkason


How much has science and technology developed? The more we see, the more we see the truth or the truth.

One of the latest technological innovations in the world is the computer or brain, which inevitably escapes humanity, especially in the human society.

When we press a finger on any keyboard. The text will appear on the screen and be saved in the memory module in the computer. Even small objects. But this memory unit can store a lot of information and we can retrieve the stored information to see when.

When telecommunication technology develops more and more with the Internet. The more people can store their own information in the internet server, allowing people to view their information.

The advances in computers and technology have made it possible for human beings to understand the truth of religion, that all human actions while living in this world are not lost. But it has been recorded all the time by humans, and human beings can see what they have done, no matter how good or evil, even a fraction. The teachings of all religions confirm the truth in this matter.

Quran Chapter 99 discusses the events of the end of the world and what follows after that interestingly:

"When the earth was shaken by its trembling,
The land will throw everything it carried in it out.
And man will say: "What happened to it?" That day the earth would tell what had happened (on it)
Because your Lord commanded it. (To do so)
In that day, men will come out in groups to see their actions.
So whoever has done good, even a molecule, will see it.
And whoever does evil, even a mote will see it.

The message was a warning to Prophet Muhammad about the Arabs about 1,400 years ago, so that they may be aware of the coming of the end of the world. Every human being is raised again, and every human being can see his own actions in the world, both good and evil. And all men will be judged according to what they have done.

The world is not progressing. Human beings may not understand how their actions on the planet are recorded and do not believe that they will see what they do. I do not believe in this. People live frantically, regardless of the responsibility to follow. This is the root of evil.

When science advances Humans can invent phonograph recordings. Music and music played by humans. Then it was developed into a magnetic recording in the magnetic stripe until today human can store human voice in memory with a variety of technologies.

Recording of human images was developed by recording black and white images. Later, it was developed to record motion pictures that can record both audio and video at the same time. Take a picture and then you can see immediately how the picture was taken. This is what he called karmic retrieval. Or save the action.

Human beings have five senses in communication with what is around the human being, both visible and invisible, such as the visible object. Physical contact of the object. Ear recognition The nose recognizes the tongue smell.

The human perception is like a computer keyboard. On every human skin, centimeters have hundreds of hundreds of nerves linked to the human brain. When exposed to ice Nervous system senses cold and sends information to memory in the brain, which is more amazing than a computer. The human eye is as well. Even though the area is only about 2-3 square centimeters, it has hundreds of hundreds of neurons that are linked to the brain to record in memory what it is. All human actions are recorded and sent to the Servant in the spirit world where mankind can see their own karma.

In this world, human beings can create a bar code reader (bar code) on the envelope to know the price, date, production and stock. Human beings can create X-ray machines that can detect hidden things in human beings. Why can not human creators be able to save and examine what is in the human mind and human actions?



Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น