บรรจง บินกาซัน
สงครามคือการเข่นฆ่ากันระหว่างมนุษย์สองฝ่าย ตามคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอาน การเข่นฆ่ากันระหว่างมนุษย์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกระหว่างลูกชายสองคนของอาดัม คนพี่ชื่อเคน(กอบีล)และคนน้องชื่ออาเบล(ฮาบีล)
สาเหตุของการเข่นฆ่าที่ทำให้พี่ฆ่าน้องเกิดจากความอยากได้ของคนอื่น
เคนและอาเบลต่างมีน้องสาวเป็นคู่แฝด ในยุคนั้น ยังไม่มีหญิงอื่นให้จับคู่แต่งงานเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ อาดัมจึงจัดให้เคนแต่งงานกับน้องสาวคู่แฝดของอาเบลและให้อาเบลแต่งงานกับน้องสาวคู่แฝดของเคน แต่เคนไม่พอใจ เพราะเขาต้องการแต่งงานกับน้องสาวคู่แฝดของตัวเอง ดังนั้น เขาจึงฆ่าอาเบลน้องชายของเขา
นับแต่นั้นมา การเข่นฆ่าระหว่างมนุษย์ก็เริ่มขึ้นและกลายเป็นสงครามเมื่อคนจำนวนมากจากสองฝ่ายหรือสองเผ่าหรือสองชาติรบกัน และสาเหตุของสงครามยังคงวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลงจนถึงทุกวันนี้ นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าธาตุแท้ของมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยน แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือเครื่องมือและวิธีการเข่นฆ่ากันเท่านั้นเอง
ในสังคมโบราณที่ยังไม่มีรัฐบาลหรือกระทรวงกลาโหม เมื่อมีสงครามเกิดขึ้น สมาชิกในสังคมต้องจัดหาอาวุธ กำลังคน พาหนะและเสบียงด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรุกรานหรือฝ่ายต่อต้านการรุกราน เมื่อสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการฆ่าฝ่ายตรงข้ามของตนให้เร็วที่สุดและมากที่สุด ไม่เพียงแต่เพื่อชัยชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นการถอนทุนการทำสงครามด้วย เพราะเมื่อฝ่ายตรงข้ามถูกฆ่า ทรัพย์สิน อาวุธยุทธภัณฑ์และเชลยจะตกเป็นของผู้ฆ่า สงครามจึงไม่ต่างไปจากการฆาตกรรม
เมื่อสงครามมีแต่ความสูญเสียเลือดเนื้อ ชีวิตและทรัพย์สิน เผ่าที่อ่อนแอกว่าจะใช้วิธีการทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับเผ่าที่ใหญ่กว่าเพื่อการได้รับความคุ้มครอง
สังคมอาหรับในทะเลทรายก่อนหน้าอิสลามก็อยู่ในลักษณะดังกล่าวมา เพราะในเวลานั้นสังคมอาหรับไม่มีรัฐบาล เผ่าไหนใหญ่กว่าและมีความเข้มแข็งกว่า เผ่านั้นจะมีเผ่าเล็กๆมากมายมาสวามิภักดิ์
เมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มเผยแผ่อิสลาม หัวหน้าเผ่าชาวอาหรับรู้สึกว่าสถานะภาพและเกียรติภูมิของตนเองกำลังถูกคุกคาม จึงร่วมกันต่อต้านภารกิจของนบีมุฮัมมัด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครคิดเข่นฆ่าสังหารนบีมุฮัมมัดเพราะลุงของท่านเป็นหัวหน้าเผ่าใหญ่ที่ให้ความคุ้มครองท่าน
แต่เมื่อลุงของท่านเสียชีวิตและท่านต้องอพยพออกจากเมือง มักก๊ะฮฺไปยังเมืองมะดีนะฮฺ ชาวมักก๊ะฮฺได้ยกกองกำลังติดอาวุธประมาณหนึ่งพันคนมุ่งหน้าไปยังเมืองมะดีนะฮฺโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำจัดนบีมุฮัมมัดและสาวกของท่าน การเดินทัพมาครั้งนั้น ชาวมักก๊ะฮฺมั่นใจในชัยชนะอย่างมากจนถึงกับกินเหล้าเต้นรำฉลองชัยชนะล่วงหน้ากันมาตลอดทาง
เมื่อนบีมุฮัมมัดและมุสลิมที่เพิ่งอพยพมาได้สองปีรู้ข่าวการรุกรานจากชาวเมืองมักก๊ะฮฺ ท่านเพิ่งได้รับคำบัญชาจากพระเจ้าให้จับอาวุธต่อสู้ผู้รุกราน(การญิฮาดด้วยอาวุธ) ดังนั้น ท่านจึงระดมมุสลิมได้ประมาณ 300 คนที่อยู่ในสภาพขัดสน ไม่มีความพร้อมเรื่องอาวุธและเสบียง
แต่ด้วยความศรัทธาและความช่วยเหลือจากพระเจ้าที่ชาวมุสลิมมองไม่เห็น แต่ศัตรูจากมักก๊ะฮฺมองเห็นลงมาจากก้อนเมฆ กองทัพมักก๊ะฮฺจึงแตกพ่ายทิ้งอาวุธ ทรัพย์สินและเชลยจำนวนหนึ่งไว้ในสนามรบ สงครามครั้งนี้ทำให้มุสลิมเริ่มมีแหล่งที่มาของรายได้อีกแห่งหนึ่งจากสนามรบ
แต่เพื่อมิให้ผู้ทำการรบมองว่าสงครามคือแหล่งรายได้ของตัวเองและเป็นแรงจูงใจให้เกิดการฆ่าฝ่ายตรงข้ามเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ พระเจ้าจึงได้มีบัญชาลงมาให้นบีมุฮัมมัดจัดการทรัพย์สินที่รวบรวมได้สนามรบดังนี้
“จงรู้ไว้เถิดว่าทรัพย์สินอะไรก็แล้วที่สูเจ้าริบได้จากสงครามนั้น หนึ่งในห้าของมันสำหรับพระเจ้าและศาสนทูตของพระองค์และสำหรับญาติสนิทและเด็กกำพร้าและผู้ขัดสนและผู้เดินทาง.....” (กุรอาน 8:41)
นั่นหมายความว่าทรัพย์สินอะไรก็ตามที่มุสลิมเก็บได้ในสนามรบมิได้เป็นของคนที่เก็บได้ แต่ผู้เก็บได้ต้องนำมามอบให้นบีมุฮัมมัด และนบีมุฮัมมัดจะจัดการทรัพย์สินไปตามประสงค์ของพระเจ้า นั่นคือทรัพย์สินที่รวบรวมมาได้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของนบีเพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัว ญาติสนิท เด็กกำพร้า ผู้ขัดสนและผู้เดินทาง เพราะนบีไม่มีรายได้สำหรับเลี้ยงครอบครัวและถูกสั่งห้ามรับสิ่งที่ผู้คนบริจาคให้ ทรัพย์สินส่วนที่เหลือจะถูกแบ่งสรรให้แก่ผู้เข้าร่วมสงครามโดยอยู่ในดุลพินิจของท่านนบี
หลังจากสงครามครั้งนั้นแล้ว มีสงครามเกิดขึ้นหลายครั้งและฝ่ายมุสลิมได้รับชัยชนะเป็นส่วนใหญ่ ทรัพย์สินที่ได้จากสนามรบจึงเป็นแหล่งที่มาของรายได้อีกแหล่งหนึ่งของประชาคมมุสลิมซึ่งทำให้เมืองมะดีนะฮฺมีความเข้มแข็งและมั่นคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
The wealth gained from war
Banjong BinkasonWar is a killing between two human beings. According to the Bible and the Quran The first human slaughter occurred between the two sons of Adam. The elder is Ken (Kobel) and the younger is Abel (Habil).
The cause of the killing that caused the brother to kill is caused by the desire of others.
Ken and Abel both had twin sisters. In those days, no other women were to marry to expand their race. Adam then arranged for Ken to marry Abel's twin sister and have Abel to marry Ken's twin sister. But Ken is not happy Because he wants to marry his twin sister, so he killed his younger brother Abel.
Since then, the killing between humans began and became a war when many people from two or two tribes or two nations fought. And the cause of the war is still around the mood, love, greed, anger, wandering until today. This is something that shows that genuine human elements never change. But the only change is tools and means to kill each other.
In ancient societies that do not have a government or the Ministry of Defense When war broke out Social members must provide weapons, manpower, vehicles, and supplies on their own, whether they are aggressors or resistance. When the two sides faced each other Each side has the same objective is to kill their opponents as fast as possible. Not just for victory But also a divorce of war Because when the opposing party is killed, property, arms, and captives will belong to the killer War therefore is no different from murder.
When the war was only a loss of flesh and blood Life and property The weaker tribes would use a contract alliance with the larger tribes to gain protection.
The Arab society in the desert before Islam was in that way. Because at that time the Arab society had no government Which tribe is bigger and stronger? That tribe will have many small tribes to come to profite themselves.
When the Prophet Muhammad began to spread Islam. Arab tribal leaders felt that their status and prestige were threatened. Together to oppose the mission of Prophet Muhammad Still, no one thought of slaughtering the Prophet Muhammad, because his uncle was the leader of a large tribe that protected him.
But when his uncle died and he had to evacuate the city Makkah to Medina The Makkah people raised about a thousand armed forces heading to Medina for the purpose of eliminating Prophet Muhammad and his followers. That marching time The Mukhas were so confident in their victory that they even drank and celebrated their victory all the way.
When two-year-old Prophet Muhammad and Muslims knew the news of the invasion of the people of Makkah. He had just been commanded by God to take up arms against the invaders (jihad with weapons), so he mobilized about 300 Muslims in need. Not ready for weapons and supplies
But with faith and divine help that Muslims cannot see But the enemies from Makkah saw it from the clouds The army often broke down and abandoned their weapons. Some property and captives held on the battlefield This war caused Muslims to have another source of income from the battlefield.
But in order not to let the combatants see war as their own source of income and motivation to kill opponents for property purposes God has commanded the Prophet Muhammad to manage the property that has been collected on the battlefield as follows:
"Know what property you have forfeited from that war. One-fifth of it for God and His messengers and for close relatives and orphans and needy people and travelers ..... "(Quran 8:41)
That means that any property that Muslims can collect on the battlefield does not belong to those who have collected it. But the collector had to deliver it to the Prophet Muhammad And the prophet Muhammad will manage property according to the will of God. That is, the possessions he possessed would be the property of the prophet for his family, close relatives, orphans and needy travelers. Because the prophet had no income to support the family and was banned from accepting what people donated. The rest of the assets will be distributed to war participants at the discretion of the Prophet.
After that war There were wars going on and many Muslims prevailed. Property obtained from the battlefield is therefore another source of income for the Muslim community, which has made the city of Medina stronger and steadier.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น