เมื่อธรรมนูญศาสนาหมดอำนาจ

บรรจง บินกาซัน

หลังสมัยนบีมุฮัมมัดเสียชีวิตใน ค.ศ.632 อาณาจักรอิสลามแผ่ขยายออกไปทั้งในเอเชีย ยุโรปและอาฟริกา ชนชาติอาหรับที่เคยถูกเหยียดหยามว่าเป็นชนชาติป่าเถื่อนไม่รู้หนังสือได้กลายเป็นผู้ปกครองโลกส่วนใหญ่ และกฎหมายที่ชาวอาหรับนำไปใช้ปกครองดินแดนที่ยึดได้นั้นมาจากคัมภีร์กุรอานและแบบอย่างคำสอนของนบีมุฮัมมัด

บางชาติในอาฟริกาเช่น อียิปต์ โซมาเลีย ซูดานถูกชาวอาหรับปกครองอยู่นานจนผู้คนหันมาพูดภาษาอาหรับแทนภาษาเดิมของตน 

แม้จะเป็นชนชาติที่ไม่มีอารยธรรมมาก่อน แต่คัมภีร์กุรอานมีส่วนสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวอาหรับศึกษาหาความรู้ เพราะคัมภีร์กุรอานถือว่าความรู้เป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานแก่มนุษย์และเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความสูงส่ง ด้วยเหตุนี้ ชาวอาหรับจึงสานต่อความรู้ที่ชาวกรีกและชาวโรมันสร้างสมไว้โดยการแปลตำราสำคัญๆจากภาษากรีกและโรมันเป็นภาษาอาหรับ 

ในช่วงที่อาณาจักรอิสลามมีความเจริญรุ่งเรืองสุดขีดนั้น โลกมีสองอาณาจักรอิสลามที่เป็นคู่แข่งกัน นั่นคืออาณาจักรอับบาซีย์ซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ที่แบกแดด(ในอิรักปัจจุบัน) และอาณาจักรอันดะลุสในคาบสมุทรไอบีเรีย(โปรตุเกสและสเปนปัจจุบัน)โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่คอร์โดบา

สองราชวงศ์ที่ปกครองอาณาจักรอิสลามนี้แข่งกันสร้างความเจริญด้วยการเชื้อเชิญผู้มีความรู้จากทุกชนชาติและศาสนามาร่วมกันแปลและเขียนตำราวิชาการต่างๆโดยผู้ปกครองให้การอุปถัมภ์และค่าตอบแทนทางวิชาการแก่ผู้มีความรู้ในเวลานั้นอย่างมีความสุข ในช่วงเวลานี้เองที่สองอาณาจักรมีนักวิชาการที่เขียนตำรับตำราวิชาการไว้มากมาย

คำร่ำลือเรื่องความเจริญของเมืองแบกแดดและเมืองคอร์โดบาทำให้หลายคนในโลกใฝ่ฝันว่าอยากไปเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต ในเวลานั้น ใครที่ต้องการจะศึกษาหาความรู้ขั้นสูงต้องมาที่เมืองคอร์โดบาหรือไม่ก็แบกแดด และก่อนที่จะเรียนวิชาต่างๆก็ต้องเรียนภาษาอาหรับก่อน เพราะตำราส่วนใหญ่เขียนเป็นภาษาอาหรับ

ในช่วงเวลาที่อิสลามเจริญรุ่งเรืองอยู่ในสเปน ยุโรปอยู่ในยุคมืด ปัญญาชนชาวยุโรปจึงเดินทางมาศึกษาหาความรู้ในเมืองคอร์โดบาเพราะอยู่ใกล้กว่าแบกแดด หลังจากศึกษาหาความรู้แล้ว ชาวยุโรปได้แปลตำราจากภาษาอาหรับที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยคอร์โดบาเป็นภาษาละติน และนำกลับไปต่อยอดในประเทศของตนจนทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ” (Renaissance) ขึ้นมา

ในเวลานั้น สองอาณาจักรอิสลามแม้จะเป็นคู่แข่งกัน แต่ทั้งสองอาณาจักรยังคงใช้คัมภีร์กุรอานเป็นธรรมนูญในการปกครองและใช้แบบอย่างคำสอนของนบีมุฮัมมัดเป็นกฎหมาย ในขณะที่อาณาจักรคริสเตียนซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงโรมยังใช้คัมภีร์ไบเบิลเป็นธรรมนูญในการปกครอง

ในช่วงยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ในยุโรปหลายคน เช่น กาลิเลโอ, เคปเลอร์ และโคเปอร์นิคัส เกิดความขัดแย้งอย่างแรงกับบาทหลวงแห่งคริสตจักร  เพราะการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้หลายอย่างขัดกับสิ่งที่บาทหลวงเคยเชื่อและสั่งสอนกันมา นักวิทยาศาสตร์หลายคนจึงถูกจับไปลงโทษทรมานหรือประหารโดยศาลศาสนา

สภาพการณ์ที่นักวิทยาศาสตร์และคนที่ฝักใฝ่วิทยาศาสตร์หลายคนถูกจับกุมตัวไปตัดสินลงโทษในศาลของบาทหลวงคริสตจักรเวลานั้นทำให้หลายคนไม่พอใจ ในที่สุด มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้เป็นทั้งนักวิชาการศาสนา นักเขียนและนักปฏิรูปในเวลานั้นอดรนทนไม่ได้กับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมของผู้มีอำนาจในคริสตจักร จึงทำหนังสือประท้วงและไม่ยอมรับอำนาจของคริสตจักรโรมันแคทอลิกอีกต่อไป 

ตรงจุดนี้เองที่ทำให้คริสตจักรโรมันซึ่งเคยเป็นหนึ่งเดียวได้มีคริสตจักรโปรเตสแตนท์(หรือคริสตจักรของผู้คัดค้าน)ขึ้นมา นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ไม่ได้ปฏิเสธคำสอนจากคัมภีร์ไบเบิล แต่จำกัดบทบาทของศาสนาและบุคลากรทางศาสนาไว้เพียงในโบสถ์แค่เพื่อทำพิธีกรรมเท่านั้น ส่วนในเรื่องของสังคมและอื่นๆ เป็นเรื่องของคนมีความรู้ในด้านต่างๆจะทำกันเองโดยศาสนาไม่ต้องมายุ่งเกี่ยว

นี่คือที่มาของระบบโลกานิยม (Secularism) และเป็นการสิ้นสุดบทบาทของคัมภีร์ไบเบิลที่เคยเป็นธรรมนูญในการปกครองมาเป็นเวลาหลายร้อยปี เพราะหลังจากนั้น เนื่องจากความเจริญทางวัตถุที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศที่นับถือนิกายโปรเตสแตนท์  รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่ปกครองมนุษย์ได้ถูกร่างขึ้นมาโดยมนุษย์ที่ไม่พิจารณาคำสอนของศาสนาอีกต่อไปแล้ว

ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

When the religious constitution loses power

Banchong Bin Gasan

After the Prophet Muhammad died in 632 AD, the Islamic empire spread throughout Asia. Europe and Africa The Arab nation, once abused as an illiterate barbaric nation, ruled most of the world. And the laws that the Arabs apply to rule the confiscated land come from the Quran and the teachings of the Prophet Muhammad.

Some African nations, such as Egypt, Somalia and Sudan, were ruled by Arabs for so long that people turned to Arabic instead of their native language.

Despite being a people without civilization before But the Quran plays an important role in inspiring the Arabs to study. Because the Quran considers knowledge to be a gift that God has given to mankind and is the thing of man's exaltation, so the Arabs build on the knowledge that the Greeks and Romans have built up by translating important texts from Greek and Roman languages ​​are Arabic.

During the time when the Islamic empire was extremely prosperous. There are two Islamic kingdoms in the world as rivals. That was the Kingdom of Abbasi, whose capital was Baghdad (in present-day Iraq) and the Andalus Empire in the Iberian Peninsula (present-day Portugal and Spain), with its capital in Cordoba.

The two dynasties that rule the Islamic empire compete for prosperity by inviting knowledgeable persons of all nations and religions to translate and write academic texts, with the rulers providing academic support and compensation to those who have knowledge in Happily It was during this time that the second kingdom had many scholars who wrote many academic texts.

The rumors of the prosperity of Baghdad and Cordoba have made many people in the world dream of visiting at least one time in their lives.At that time, anyone who wanted to gain advanced education had to come to Córdoba. Or Baghdad And before studying any subject, you must first learn Arabic. Because most of the texts are written in Arabic

During the time when Islam prospered in Spain. Europe is in a dark age Therefore European intellectuals came to Córdoba to study because it is closer to Baghdad. After learning Europeans have translated textbooks from the Arabic language available at the University of Córdoba into Latin. And brought back to the top of their country until the cause of the so-called "Renaissance art science" (Renaissance) came up.

At that time, the two Islamic kingdoms, although rivals But both kingdoms continued to use the Quran as a rule of law and exemplify Prophet Muhammad's teachings. While the Christian empire, which had its capital in Rome, used the Bible as a rule of law.

During the Renaissance Many young scientists in Europe such as Galileo, Kepler and Copernicus. There was a strong conflict with the pastor of the church. Because many of these scientists' discoveries are contrary to what the pastors believed and taught. Many scientists were arrested, tortured or executed by religious courts.

The circumstances of many scientists and pro-science people being arrested and convicted in the court of a church pastor at the time displeased many, eventually religious scholar Martin Luther. Writers and reformers at that time were incompatible with the unfair practice of church authority. Therefore made a book of protest and rejecting the power of the Roman Catholic Church

It was at this point that the Roman Church, which used to be unified, had a Protestant church (or the church of the dissenters). These scientists did not reject Bible teachings. But the role of religion and religious personnel is limited to the church solely for the ritual. As for society and others It is a matter of knowledgeable people in various fields that will do themselves by religion without interference.

This is the origin of secularism and the end of the Bible's role as a constitution of government for hundreds of years. Because after that Due to the rapid material boom in Protestant countries The constitution and the laws governing man have been drawn up by humans who no longer consider religious teachings.

Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason