ละหมาดนั้นสำคัญไฉน

บรรจง บินกาซัน 

ศาสนาเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าและระหว่างมนุษย์กับสิ่งรอบตัวเขาทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต 

เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดที่ผู้ศรัทธายึดเหนี่ยว  ดังนั้น ทุกศาสนาที่ศรัทธาในพระเจ้าจึงมีพิธีกรรมที่เป็นการแสดงออกถึงการยอมรับอำนาจสูงสุดของพระเจ้า สำหรับอิสลาม การละหมาดเป็นพิธีกรรมที่แสดงออกถึงความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว

การละหมาดเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยของอับราฮัม บรรพบุรุษแห่งความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวร่วมกันของชาวยิว ชาวคริสเตียนและชาวมุสลิม 

แต่หลังจากสมัยของอับราฮัม ลูกหลานรุ่นหลังๆของอับราฮัมไม่เพียงแต่ละทิ้งการละหมาดเพื่อแสดงความเคารพสักการะเจ้าองค์เดียวเท่านั้น แต่ยังหันไปกราบไหว้เจว็ดบูชาที่สร้างกันขึ้นมาเองด้วย  ดังนั้น พระเจ้าจึงได้ส่งนบีคนแล้วคนเล่ามารื้อฟื้นและตักเตือนให้ผู้คนในสมัยของตนหันมาละหมาดเพื่อเป็นการแสดงความเคารพสักการะพระเจ้าที่แท้จริง

ร่องรอยของท่าทางการละหมาดเช่นการยืน การก้มกราบ การโค้ง การยกมือ ตลอดจนการชำระล้างร่างกายบางส่วนก่อนทำการละหมาดยังมีให้เห็นในคัมภีร์ทางศาสนาก่อนหน้าคัมภีร์กุรอาน

หลังสมัยพระเยซูประมาณ 600 ปี รูปแบบและคำอ่านในการละหมาดได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นอีกครั้งหนึ่งในสมัยของนบีมุฮัมมัด  และนบีมุฮัมมัดได้นำการละหมาดมาใช้สร้างความแข็งแกร่งให้แก่จิตวิญญาณของสาวกผู้ศรัทธาจนสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมอวิชชาในแผ่นดินอาหรับให้เป็นประชาคมที่ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวในเวลาแค่ 20 ปี

สำหรับนบีมุฮัมมัด การละหมาดไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกถึงความศรัทธาและการขอบคุณต่อพระเจ้าเท่านั้น แต่มันยังเป็นพื้นฐานของศาสนา เป็นสิ่งที่จำแนกว่าใครเป็นมุสลิมผู้ศรัทธาและใครที่ไม่ใช่ และในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ สิ่งแรกที่พระเจ้าจะสอบถามมนุษย์คือเรื่องละหมาด

เพื่อให้ผู้ศรัทธาในพระเจ้าสามารถละหมาดได้ครบในทุกสถานการณ์ การละหมาดจึงถูกออกแบบมาให้ปฏิบัติได้ในลักษณะที่ไม่มีใครสามารถอ้างว่าไม่มีเวลาละหมาดหรือไม่สามารถละหมาดได้ แม้จะป่วยอยู่บนเตียง หากยังมีสติสัมปชัญญะจำใครได้ คนป่วยที่ศรัทธาในพระเจ้าก็ต้องละหมาดในสภาพเท่าที่ตนเองสามารถทำได้ 

ในคัมภีร์กุรอานมีคำสองคำที่น่าสนใจเกี่ยวกับการละหมาด คำหนึ่งมีความหมายบ่งบอกให้มีการจัดตั้งสถาบันละหมาดขึ้นมาและดำรงรักษาสถาบันนี้ไว้ตลอดไป ด้วยเหตุนี้  ถ้ามุสลิมอยู่ร่วมกันเป็นสังคม สมาชิกของสังคมมีหน้าที่ต้องจัดให้มีสถานที่ละหมาด โรงเรียนสอนการละหมาด การประกาศเรียกร้อง(อะซาน)ให้คนมาละหมาดประจำวันห้าเวลา การจัดให้มีอิมามนำละหมาด  การจัดละหมาดรวมในวันสำคัญ เช่น วันศุกร์ และวันเฉลิมฉลองทางศาสนา  สังคมใดไม่จัดเตรียมเรื่องนี้ สมาชิกในสังคมนั้นต้องรับบาปร่วมกันทั้งหมด

ในอีกที่หนึ่ง คัมภีร์กุรอานใช้คำภาษาอาหรับที่สื่อความหมายว่า “ให้ระวังรักษาหรือป้องกัน”การละหมาดมิให้หายไป  เพราะในวันแห่งการฟื้นคืนชีพหลังความตาย พระเจ้าจะสอบสวนมุสลิมผู้ศรัทธาว่าละหมาดครบหรือไม่ หลายคนละหมาดขาดหายไปทั้งๆที่ตัวเองละหมาดครบเพราะละหมาดโดยไม่รู้วัตถุประสงค์ว่า “การละหมาดนั้นจะยับยั้งจากบาปอันชั่วช้าและความลามก” 

นบีมุฮัมมัดได้บอกมุสลิมว่าใครที่ดื่มสุราหรือเสพสิ่งมึนเมา พระเจ้าจะไม่รับการละหมาดของคนผู้นั้นเป็นเวลา 40 วัน และใครทำผิดประเวณี  พระเจ้าจะไม่รับการละหมาดของคนผู้นั้นเป็นเวลา 70 วัน

คนทำความชั่วดังกล่าวจึงเท่ากับคนที่ไม่รักษาหรือป้องกันการละหมาดของตน การละหมาดของคนผู้นั้นจึงหายไป  ถ้าทิ้งละหมาดก็ถือว่าเป็นบาปใหญ่และจะทำให้ผู้นั้นสูญเสียความสัมพันธ์กับพระเจ้า ยิ่งใครออกห่างจากพระเจ้า คนผู้นั้นจะหลงลืมพระองค์และจะทำทุกอย่างได้โดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

Why is prayer so important?

Banjong Binkason

Religion is a matter of the relationship between man and God and between man and his surroundings, both living and inanimate.

In order to maintain a good relationship with God who created all things and is the supreme sacred thing that the believers hold, therefore, every religion that believes in God has a ritual that expresses the acceptance of the sovereignty of God for Islam, prayer is a ritual expressed. Of faith in one God

Prayer began in the days of Abraham. The ancestor of the Jewish faith in one God. Christians and Muslims

But after the time of Abraham Not only did Abraham's later generations abandon prayers to pay homage to the Lord alone. But also turned to worship, which was created by himself, so God sent one prophet one after another to revive and warn the people of their time to pray in order to pay homage to the true God.

Traces of prayer posture, such as standing, bowing, bowing, raising hands, as well as partial cleansing of the body prior to prayer, are also seen in earlier religious scriptures.

About 600 years after the time of Jesus, prayer patterns and readings were restored once again during the time of Prophet Muhammad. And Prophet Muhammad used prayer to strengthen the spirits of the devout followers until they were able to transform the ignorant society in the Arab land into a one-god-believing community in just 20 years.

For Prophet Muhammad Salat is not only an expression of faith and gratitude to God. But it is also the basis of religion. It is the classification of who is a believer and who is not. And on the day of resurrection The first thing God asks about mankind is prayer.

So that believers in the Lord can pray in every situation. Salah is therefore designed to be performed in such a way that no one can claim that there is no time to pray or not to be able to pray. Even when sick in bed If there is still consciousness to remember someone Sick people who have faith in God must pray as they can.

In the Quran there are two very interesting words about salat. One word implies that a prayer institution was established and maintained it forever. Thus, if Muslims coexist as a society, Members of society are obliged to provide places of worship. School of Salat Evangelism calls for (Asan) that people come for five daily prayers. Providing an imam for prayer Total prayers are held on important days such as Fridays and religious celebrations. Which society does not provide this? Members of that society must share all sins.

In another place The Quran uses an Arabic word meaning "Be careful, treat or prevent" the prayer not to disappear. Because on the day of the resurrection after death God will investigate believing Muslims whether they have completed their prayers or not. Many people miss prayers even though they have all prayed because of the unaware of the purpose that "Prayer will deter you from vile sin and obscenity."

Prophet Muhammad told Muslims who had drunk or had drunk alcohol. God will not accept that person's prayer for 40 days and whoever commits fornication. God will not receive that person's prayer for 70 days.

Such evildoers are equal to those who do not heal or prevent his prayer. That person's prayer was gone. Leaving a prayer is a big sin and it will cost that person a loss of relationship with God. The more someone is further away from God. That person will forget Him and will do everything without fear of anything.

Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason