หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565

หมายเหตุเดือนเราะมะฎอน

บรรจง บินกาซัน

ตลอดเดือนเมษายนของปีนี้เป็นช่วงเวลาที่มุสลิมที่บรรลุวัยผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิงในประเทศต่างๆทั่วโลกต่างถือศีลอดซึ่งเป็นศาสนบัญญัติสำคัญหนึ่งในห้าประการของอิสลาม  มุสลิมคนใดละเว้นการถือศีลอดโดยไม่มีเหตุผลที่อัลลอฮฺอนุมัติถือว่าทำบาปใหญ่

ประเทศมุสลิมอาจเริ่มต้นเดือนเราะมะฎอนต่างกันเพราะปฏิทินทางจันทรคติอาศัยการดูดวงจันทร์ มุสลิมในประเทศไทยเริ่มต้นวันที่ 3 เมษายน ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลางเริ่มวันที่ 2 เมษายน

คัมภีร์กุรอานกล่าวว่าเดือนเราะมะฎอนเป็นเดือนที่คัมภีร์กุรอานถูกประทานลงมาเพื่อเป็นทางนำแก่มนุษยชาติ  ไม่ใช่เฉพาะชาวอาหรับเท่านั้นแม้จะถูกประทานมาเป็นภาษาอาหรับก็ตาม ความจริงแล้ว นบีมุฮัมมัดกล่าวว่าวจนะของอัลลอฮฺที่ประทานมายังมนุษย์ผ่านทางนบีคนสำคัญอย่างเช่น นบีอิบรอฮีม  นบีมูซา นบีดาวูดและนบีอีซา ล้วนถูกประทานมาในเดือนเราะมะฎอนทั้งสิ้นและวจนะของอัลลอฮฺที่ถูกบันทึกไว้เรียกว่าคัมภีร์

ความจริงแล้ว วจนะของอัลลอฮฺที่ถูกประทานแก่มนุษย์และถูกบันทึกไว้ก็คือกฎหมายในการดำเนินชีวิตทั้งทางด้านส่วนตัวและสังคมนั่นเอง โตราห์(หรือเตารอต)ก็คือกฎหมาย  แต่สังคมที่จะได้รับประโยชน์จากกฎหมายอย่างเต็มที่คือสังคมที่ผู้คนในสังคมนั้นเกรงกลัวอัลลอฮฺและกฎหมายที่มาจากพระองค์

นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมอัลลอฮฺจึงกำหนดให้ผู้ศรัทธาในพระองค์ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน เพราะคัมภีร์กุรอานกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการถือศีลอดไว้ชัดเจนว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธา การถือศีลอดได้ถูกกำหนดแก่สูเจ้าเช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่ผู้คนก่อนหน้าสูเจ้า ทั้งนี้เพื่อที่สูเจ้าจะได้ยำเกรง” (กุรอาน 2:183)

เพราะถ้าสังคมหรือประเทศใดมีกฎหมาย  แต่ผู้คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย สังคมนั้นก็จะเกิดความวุ่นวายไร้ระเบียบและผู้คนในสังคมนั้นเองจะได้รับความเสียหาย

การถือศีลอดคือการงดเว้นจากการกิน การดื่มและการกระทำบางอย่างที่ได้รับอนุมัติในยามปกติตั้งแต่แสงอรุณเบิกฟ้าจนกระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า  การงดเว้นจากการกิน การดื่มและการกระทำบางอย่างให้บทเรียนแก่ผู้ถือศีลอดว่าเมื่อสิ่งจำเป็นต่อชีวิตยังงดเว้นได้ ทำไมสิ่งที่ไม่จำเป็นเช่นอบายมุขจะงดเว้นไม่ได้?  แต่การอดอาหารและน้ำเป็นเพียงวิธีการภายนอกที่ถูกใช้เพื่อฝึกจิตวิญญาณภายในไม่ให้ทำชั่ว นบีมุฮัมมัดจึงเตือนว่าหากใครถือศีลอดและยังนินทาว่าร้ายคนอื่น คนผู้นั้นก็ไม่ได้อะไรนอกจากความหิว

ข้อความจากคัมภีร์กุรอานข้างต้นยังบอกให้รู้อีกว่าก่อนหน้าอิสลาม ชนชาติหรือกลุ่มชนที่อัลลอฮฺส่งนบีให้นำคำสอนของพระองค์มาเผยแผ่ก็เคยถูกกำหนดให้ถือศีลอดเช่นกัน ดังนั้น เราจึงเห็นร่องรอยการถือศีลอดหรือการอดอาหารในบรรดาผู้นับถือศาสนาต่างๆในรูปแบบที่ต่างกัน

พระสงฆ์ในพุทธศาสนาฉันเพลแล้วจะไม่ฉันอาหารอีกจนถึงเวลาฉันเพลในวันรุ่งขึ้น แต่ยังดื่มน้ำได้

โมเสส(หรือนบีมูซา)อดอาหารและน้ำทั้งวันก่อนขึ้นไปรับโตราห์จากพระเจ้าบนภูเขาซีนาย เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า โมเสสจึงกินและดื่ม หลังจากนั้นก็อดอาหารต่อเป็นเวลาสี่สิบวัน ลูกหลานอิสราเอลจึงถือศีลอดอาหารตามโมเสส

แต่เนื่องจากการอดอาหารและน้ำของลูกหลานอิสราเอลมีขึ้นในเดือนที่อากาศร้อนตามปฏิทินทางสุริยะคติซึ่งทำให้ต้องถือศีลอดในเดือนที่ซ้ำกันทุกปี ประกอบกับต้องอดอาหารยาวนานและมีกฎห้ามมีความสัมพันธ์ทางเพศในระหว่างการถือศีลอด พวกลูกหลานอิสราเอลจึงไม่สามารถทนการถือศีลอดอาหารตามแบบโมเสสได้  เมื่อพระเยซู(นบีอีซา)ถูกส่งมาเพื่อยืนยันธรรมบัญญัติของโมเสส ท่านก็ถือศีลอดเหมือนโมเสส  แต่หลังจากอัลลอฮฺรับท่านไปจากโลกนี้ จึงมีพวกลูกหลานอิสราเอลน้อยคนที่ถือศีลอดตามแบบโมเสส

ด้วยเหตุนี้  ในสมัยของนบีมุฮัมมัด  อัลลอฮฺจึงกำหนดให้ผู้ศรัทธาในพระองค์ถือศีลอดเฉพาะในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น หลังจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว การใช้ชีวิตก็เป็นไปตามปกติ และให้ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนตามปฏิทินทางจันทรคติซึ่งมีเวลาน้อยกว่าปฏิทินสุริยคติ 10-11 วัน จึงทำให้ชาวมุสลิมถือศีลอดในทุกฤดูกาลโดยที่วัตถุประสงค์ยังคงเดิม นั่นคือ เพื่อให้ผู้ถือศีลอดเกิดความยำเกรงอัลลอฮฺและปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์



หมายเหตุเราะมะฎอน (2)
ค่ายฝึกอบรมจิตวิญญาณ

เดือนเราะมะฎอนเป็นช่วงเวลาที่มุสลิมทั่วโลกเข้าค่ายทำกิจกรรมทางด้านจิตวิญญาณด้วยการถือศีลอดกันอย่างพร้อมเพรียง  แน่นอน การใช้ชีวิตและการทำกิจกรรมในค่าย  ไม่ว่าจะค่ายทหารหรือค่ายลูกเสือต้องมีระเบียบวินัย ไม่สะดวกเหมือนอยู่ในบ้าน ค่ายเราะมะฎอนก็เช่นกัน แม้ในช่วงเดือนนี้ ชีวิตจะลำบากกว่าทุกเดือน  แต่ทุกคนก็เต็มใจและอิ่มเอิบใจที่จะฝึกฝนตัวตน 

ค่ายเราะมะฎอนสอนให้ผมสู้กับตัวเองตั้งแต่เด็ก   ผมเริ่มถือศีลอดตอนเป็นนักเรียนชั้นประถมปลายซึ่งเป็นวัยกำลังกินกำลังนอน ประมาณตีสามครึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต่างนอนอย่างมีความสุข แต่คุณแม่ผมปลุกให้ผมตื่นขึ้นมากินข้าวก่อนแสงอรุณเบิกฟ้าเพื่อเตรียมตัวถือศีลอด ผมเชื่อว่าในขณะที่ง่วง  หากให้เลือกระหว่างการกินกับการนอน ส่วนใหญ่ต้องเลือกการนอน  แต่ถึงแม้จะง่วง ผมต้องถ่างตาลุกขึ้นมากินข้าวมื้อเช้าตรู่   มันเป็นการต่อสู้กับความต้องการของตัวเองที่อยากนอนตั้งแต่ก่อนตะวันขึ้น

ในตอนเช้า ทุกคนที่ถือศีลอดต่างต้องไปทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ พ่อไปทำงาน  ผมไปโรงเรียน วัยเด็กเป็นวัยที่ร่างกายเผาผลาญอาหารเร็ว  ไม่ถึงเที่ยง สารอาหารที่กินมาตอนเช้ามืดได้ถูกเผาผลาญหมดแล้ว ท้องเริ่มหิว พอถึงตอนเที่ยง เพื่อนๆพากันไปกินอาหาร แต่ผมต้องอด  ถ้าจะแอบไปกินข้าวเที่ยงกับเพื่อนก็ได้เพราะมีสตางค์อยู่ในกระเป๋า  แต่เพราะรู้ว่าตัวเองถือศีลอดด้วยความศรัทธาในพระเจ้า ผมจึงควบคุมตัวเองได้โดยที่แม่ไม่ต้องมาคอยควบคุม

หลังเลิกเรียน ปรกติผมจะกระโดดโลดเต้นกับเพื่อนๆตอนเดินกลับบ้านด้วยกัน แต่ในเดือนเราะมะฎอน ผมเดินกลับบ้านเหมือนลิงป่วย พอถึงบ้าน  ผมทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดสภาพเพราะความหิวและง่วง  เมื่อโตขึ้น ผมจึงเข้าใจว่าการถือศีลอดเป็นมาตรการปราบตัณหาและความพยศของตัวตนที่ได้ผลชะงัด นี่คือเหตุผลที่ว่าหากใครถือศีลอดแล้วยังมีความสัมพันธ์ทางเพศกับภรรยาของตนเองในระหว่างการถือศีลอดจะต้องถูกลงโทษด้วยการถือศีลอดตามกฎศาสนบัญญัติเป็นเวลาสองเดือนต่อเนื่องกันหลังจากเดือนเราะมะฎอน เพราะขนาดอดกินอดนอนแล้วยังมีพละกำลังเหลือเฟือจนกล้าละเมิดข้อห้ามของพระเจ้า

เดือนเราะมะฎอนเป็นช่วงเวลาที่มุสลิมทุกคนมีความเสมอภาคกัน  เศรษฐี ยาจกและกษัตรยิ์ก็ต้องอดอาหารเหมือนกัน  ระหว่างกลางวัน ยิ่งถ้าในฤดูร้อน ผู้ถือศีลอดจะได้รับรู้รสชาติความหิวกระหายของคนยากจนได้เป็นอย่างดี   มันทำให้เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนหิวโหยและจิตใจอยากทำบุญช่วยคนจน

การถือศีลอดเป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างหนึ่งคือ  ในตอนกลางวัน กระเพาะได้มีโอกาสพักจากการย่อยอาหารในมื้อเที่ยง  สารคาร์โบไฮเดรทที่เป็นแหล่งพลังงานจากข้าวหมดไป  ไขมันที่สะสมไว้ในร่างกายจะถูกนำออกมาช่วยให้ร่างกายมีพลังไปต่อ  ขณะเดียวกัน สารพิษบางอย่างที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับออกมา  มิน่าเล่า นบีมุฮัมมัดจึงได้แนะนำว่า “จงถือศีลอด และสุขภาพของท่านจะดี” 

เมื่อใกล้ถึงเวลาละศีลอด  แม่จะเรียกทุกคนมานั่งโต๊ะอาหารพร้อมกัน  นี่เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งของการฝึกวินัยและฝึกการควบคุมใจตัวเอง  แม่นำของหวาน อาหาร น้ำและผลไม้สำหรับละศีลอดมาตั้งไว้ข้างหน้าเหมือนท้าทายความต้องการของกระเพาะ  แต่ไม่มีใครกล้าแตะถ้ายังไม่ถึงเวลา  เมื่อเวลาละศีลอดมาถึง  การได้ดื่มน้ำหวานเย็นๆอึกแรกทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที  นบีมุฮัมมัดกล่าวว่า “ผู้ถือศีลอดจะมีความสุขในสองเวลา เวลาแรกคือเวลาที่ละศีลอด และอีกเวลาหนึ่งคือเวลาที่เขาพบกับพระเจ้า” 

ผู้ถือศีลอดทุกคนรู้สึกถึงความสุขครั้งแรกได้ในตอนละศีลอด  แต่ใครจะได้รับความสุขครั้งที่สองในตอนพบพระเจ้านั้นขึ้นอยู่กับว่าเมื่อพ้นเดือนเราะมะฎอนไปแล้ว เขาสามารถงดเว้นจากการทำบาปเพราะเกรงกลัวพระเจ้าซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของการถือศีลอดหรือไม่



หมายเหตุเดือนเราะมะฎอน(3)
ปีหน้ามาเยือนเราอีกนะ 

ถ้าเดือนธันวาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งการโปรโมชั่นของห้างสรรพสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความสุขให้แก่ลูกค้าในเทศกาลคริสต์มาสและการเฉลิมฉลองปีใหม่ของคนทั่วไป  เดือนเราะมะฎอนก็เป็นเดือนแห่งการโปรโมชั่นลดบาปเพิ่มบุญสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลก

สิบวันแรกของเดือนเราะมะฎอนเป็นช่วงเวลาแห่งความเมตตาจากพระเจ้า สิบวันที่สองเป็นช่วงเวลาของการให้อภัยโทษและสิบวันสุดท้ายเป็นช่วงเวลาของการคุ้มครองให้พ้นจากไฟนรก

ในเดือนเราะมะฎอน การทำดีจะได้รับรางวัลหรือผลบุญตอบแทน 10 – 700 เท่าหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของอัลลอฮฺโดยตรง

จึงไม่ต้องแปลกใจที่ใครๆจะเห็นมุสลิมต่างกระตือรือร้นทำความดีเพื่อกอบโกยผลบุญทุกวันในช่วงเดือนเราะมะฎอนด้วยการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การอ่านคัมภีร์กุรอาน  การบริจาคทาน  การเลี้ยงอาหารผู้ถือศีลอดซึ่งผู้เลี้ยงจะได้รับผลบุญเหมือนคนที่ตัวเองเลี้ยงอาหารด้วย  การละหมาดพิเศษในยามค่ำคืน เป็นต้น

ยิ่งก่อนที่เดือนเราะมะฎอนจะจากไป  คัมภีร์กุรอานกล่าวว่าในช่วงสิบคืนสุดท้ายของเดือนนี้จะมีคืนหนึ่งที่ดีกว่าพันเดือน  แต่คืนนั้นเป็นคืนไหนไม่มีใครรู้ ถ้าใครอยากได้ผลบุญตอบแทนความดีอย่างมากมายมหาศาลก็ต้องทำความดีทุกคืน  ช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอนจึงเป็นเหมือนช่วงนาทีทองที่มุสลิมกระตือรือร้นทำความดีกันเป็นพิเศษเพื่อหวังผลบุญตอบแทนอันมหาศาลจากอัลลอฮฺ  

มีคำสอนของนบีมุฮัมมัดกล่าวว่าในเดือนเราะมะฎอน ประตูสวรรค์จะถูกเปิด ประตูนรกจะถูกปิดและซาตานจะถูกล่ามโซ่

นั่นหมายความว่าซาตานไม่อาจยั่วยุผู้ถือศีลอดให้ทำบาปได้ ประตูนรกจึงถูกปิด และประตูสวรรค์เปิดรอเขาอยู่  

ในสหรัฐอเมริกาเคยมีการทดลองทางสังคมจิตวิทยาเพื่อพิสูจน์ว่ามุสลิมให้ความสำคัญต่อการถือศีลอดมากเพียงใดโดยผู้ทดลองเสนอที่จะให้โทรศัพท์ไอโฟนรุ่นล่าสุดแก่มุสลิมที่เดินบนท้องถนนหากมุสลิมคนนั้นจิบน้ำที่ถูกเสนอให้เป็นการแลกเปลี่ยน

แต่ผลการทดลองทุกครั้งปรากฏว่าข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธและสิ่งที่ผู้ทดลองได้ยินจากผู้ถูกทดลองก็คือ “ผม/ฉันถือศีลอด” คำตอบเช่นนั้นเป็นเพราะมุสลิมรู้ดีแก่ใจว่าการละเว้นจากการถือศีลอดโดยเจตนาถือเป็นบาปใหญ่ 

อีกตัวอย่างหนึ่งของการให้ความสำคัญแก่การถือศีลอดก็คือนักฟุตบอลมุสลิมในทีมสำคัญของพรีเมียร์ลีกก็ยังถือศีลอดแม้ในขณะเล่นฟุตบอล

มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าการอดข้าวอดน้ำไม่ได้เป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหรือทำกิจกรรมต่างๆ

นอกจากการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน  มุสลิมบางคนยังถือเอาเดือนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำอะไรบางอย่างนอกเหนือไปจากการถือศีลอด เช่น บางคนตั้งใจใช้เดือนเราะมะฎอนเป็นจุดเริ่มต้นอดบุหรี่  การเลิกหมกมุ่นกับการดูหนังฟังเพลงและสิ่งไร้สาะ บางคนสัญญากับตัวเองว่าจะท่องจำคัมภีร์กุรอานให้ได้มากขึ้น บางคนตั้งปณิธานว่าจะอ่านคัมภีร์กุรอานให้จบทั้งเล่ม บางคนตั้งปณิธานว่าจะบริจาคทานทุกวันหรือหาทางช่วยเหลือคนทุกข์ยากเดือดร้อน เป็นต้น  

หากมองอีกมุมหนึ่ง  เดือนเราะมะฎอนเป็นเหมือนแขกของพระเจ้าที่มาเยือนมุสลิมผู้ศรัทธาปีละครั้ง  มุสลิมจึงต้อนรับด้วยการให้เกียรติอย่างเต็มที่  เมื่อเดือนเราะมะฎอนจากไปแล้ว  ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะได้พบเดือนเราะมะฎอนอีกหรือไม่ในปีหน้า ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนอยากได้สำหรับชีวิตหลังความตายคือความเมตตา  การให้อภัยโทษและการคุ้มครองจากพระเจ้าให้พ้นจากไฟนรก





ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

Ramadan Notes

Banjong Binkasan

Throughout April of this year is the time when Muslims reach adulthood, both men and women in countries around the world fast, which is one of the five major Islamic religions. Any Muslim who refrains from fasting without Allah's approval is considered a major sin.

Muslim countries may start the month of Ramadan differently because the lunar calendar relies on viewing the moon. Muslims in Thailand start on April 3, and in the Middle East on April 2.

The Quran states that Ramadan is the month in which the Quran was sent down to guide humanity. It is not only Arabs, although it is revealed in Arabic. In fact, the Prophet Muhammad said that the word of Allah was given to humans through such an important Prophet as Prophet Ibrahim. Musa Nabi Dawood and Nabi Isa All are revealed in the month of Ramadan, and the Word of Allah that is recorded is called the Book.

In fact, the Word of Allah which has been revealed to mankind and recorded is the law of personal and social life. The Torah (or Torah) is the law. But a society that will benefit fully from the law is a society in which the people of society fear Allah and the laws that come from Him.

That is the reason why Allah compels all believers to fast in the month of Ramadan. Because the Quran clearly mentions the purpose of fasting. "O you who believe Fasting is ordained for you just as it was for people before you. so that you may fear" (Quran 2:183).

because if any society or country has a law But people are not afraid of the law. The society will be chaotic and disorderly and the people in that society will be damaged.

Fasting is to abstain from eating. Drinking and certain actions that are normally permitted from dawn until the sun goes down. abstinence from eating Drinking and certain actions teach a fasting person that when the necessities of life can be spared, Why can't unnecessary things like vices be spared? But fasting and water is just an external method used to train the inner spirit from doing evil. Prophet Muhammad therefore warned that if anyone fasts and still gossip and slander others That person had nothing but hunger.

The text from the Quran above also tells us that before Islam, The people or peoples whom Allah sent the Prophet to propagate His teachings were also destined to fast, so we see signs of fasting among the followers of the religions in the form. different designs

Buddhist monks will not eat again until the next day. but still able to drink water

Moses (or Musa) fasted all day before ascending to receive the Torah from God on Mount Sinai. when the sun goes down So Moses ate and drank. After that he continued fasting for forty days. So the children of Israel fasted according to Moses.

But because the children of Israel's fasting and watering took place in the hottest month of the solar calendar, fasting in the same month every year. This was coupled with a long fast and a rule forbidding sexual relations during the fast. Therefore, the children of Israel could not endure the Moses fast. When Jesus (Nabi Isa) was sent to confirm the law of Moses. He fasted like Moses. but after Allah took him from this world So few of the children of Israel fasted in the manner of Moses.

Therefore, during the time of the Prophet Muhammad Allah therefore requires that those who believe in Him fast only during the daytime. After the sun has set Life is normal. and fasting in the month of Ramadan according to the lunar calendar, which is 10-11 days less than the solar calendar, thus enabling Muslims to fast in all seasons with the same objective: to bring reverence to the faster. Allah and obey His commands


Ramadan Notes (2)

Spiritual Training Camp

Ramadan is the time when Muslims around the world attend camps for spiritual activities in unison with fasting, of course, living and camp activities. Whether it's an army camp or a Boy Scout camp, there must be discipline. Not as comfortable as being at home Ramadan camp as well even during this month Life will be more difficult every month. But everyone was willing and content to cultivate themselves.

Ramadan has taught me to fight with myself since I was young. I started fasting when I was a late primary school student who was eating and sleeping. Around 3:30 a.m. was the time when everyone slept happily. But my mother woke me up to eat before the dawn to prepare for fasting. I believe that while sleepy If choosing between eating and sleeping Most have to choose to sleep. but even though sleepy I had to open my eyes to get up early for breakfast. It was a struggle against my own desire to sleep before the sun rose.

In the morning everyone who fasts has to go to normal activities. Father goes to work. I go to school. Childhood is the age when the body's metabolism is fast. It's not until noon. All the nutrients that have been eaten in the early morning have been consumed. Getting hungry by noon My friends took us to eat, but I had to starve. If I could secretly go to lunch with my friends because I had money in my pocket. but because I know that I am fasting with faith in God I was able to control myself without my mother having to control me.

after school Usually, I would jump and dance with my friends as I walked home together. But in the month of Ramadan I walked home like a sick monkey. By the time I got home, I threw myself on the couch crippled by hunger and lethargy. Growing up, I realized that fasting was an effective measure of self-determination. This is the reason that if a person fasts and continues to have sexual relations with his wife during the fast, he will be punished by fasting according to the ordinance for two consecutive months after the holy month. madan because even with lack of sleep, he still had so much strength that he dared to break the prohibition of God

Ramadan is a time for all Muslims to be equal. The rich, the poor and the king must fast alike. during the day Especially if in the summer Those who fast are well aware of the hunger and thirst of the poor. It evokes a feeling of compassion for the hungry and a desire to make merit to help the poor.

One of the health benefits of fasting is that during the day the stomach has the opportunity to rest from digestion at lunch. Carbohydrates that are the source of energy from rice have been exhausted. The fat accumulated in the body will be taken out to help the body continue to have strength. At the same time, some toxins in the body will be excreted. good"

When the fasting time is near Mom will call everyone to sit at the dinner table together. This was another time of discipline and self-control, and my mother brought desserts, food, water, and iftar fruit to the front, defying the needs of her stomach. But no one dares to touch it if it is not yet time. when the fasting time comes Drinking the first gulp of cold sweet water immediately made me feel refreshed. Nabi Muhammad said: “One who fasts will be happy in two times. The first time is the breaking of iftar. and the other time is when he meets God.”

Every fasting person can feel their first happiness when they break their fast. But who gets a second happiness when meeting God depends on when the month of Ramadan is over. Can he refrain from sinning for fear of God, which is the purpose of fasting?


Notes of the month of Ramadan (3)

Next year, coame visit us again.

If December of every year is the month of department store promotions to increase sales and make customers happy during the Christmas season and the general public New Year's celebration. Ramadan is also a month of promotion to reduce sins and increase merit for Muslims all over the world.

The first ten days of Ramadan are the times of divine mercy. The second ten days are a time of forgiveness and the last ten days are a time of protection from the fire of Hell.

in the month of ramadan Doing good will be rewarded or rewarded 10 – 700 times or more. It depends directly on the decision of Allah.

It is not surprising that one sees Muslims eager to do good deeds every day during the month of Ramadan through activities such as reading the Quran, alms giving, and fasting meals. The shepherd will receive the same merit as the person who feeds himself. special prayers at night, etc.

Even before the month of Ramadan is gone The Quran states that during the last ten nights of this month there will be one night better than a thousand months. But that night, no one knows If anyone wants to receive merit in return for great merit, they must do good deeds every night. The last ten days of the month of Ramadan are like the golden moments when Muslims are especially eager to do good deeds in the hope of great reward from Allah.

There is a teaching of the Prophet Muhammad said that in the month of Ramadan Heaven's door will be opened The gates of Hell will be closed and Satan will be chained.

This means that Satan cannot incite the fasting person to sin. The gates of hell were closed. and the gates of heaven were waiting for him.

In the United States, a socio-psychological experiment has been conducted to prove how important Muslims are to fasting, with subjects offering to give Muslims walking the streets the latest iPhones if the Muslims sip water on the streets. was offered as an exchange

But every trial results showed that the offer was rejected and what the subjects heard from the subjects was: “I am fasting.” Such an answer is because Muslims are fully aware that deliberate refraining from fasting is a major sin.

Another example of the importance of fasting is that Muslim footballers in key Premier League teams are fasting even while playing football.

It is proof that fasting is not an obstacle in life or activities.

Besides fasting in the month of Ramadan Some Muslims also consider this month to be a starting point for doing something other than fasting. For example, some people intend to use the month of Ramadan as a starting point for fasting. Stop obsessing over watching movies, listening to music and nonsense. Some people promised themselves to memorize more of the Quran. Some people make a determination to read the entire Quran. Some people make a determination to donate food every day or find a way to help people in need, for example.

If you look at another angle Ramadan is like a guest of God who visits a devoted Muslim once a year. Muslims therefore welcome them with full dignity. When the month of Ramadan is gone No one knows if they will meet the month of Ramadan again next year, so what everyone wants for the afterlife is kindness. God's forgiveness and protection from the fire of Hell.


Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkasonc

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น