หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2566

ทำไมจึงต้องท่องบทสวดมนต์ซ้ำๆซากๆ?

บรรจง  บินกาซัน

ชื่อเรื่องของบทความนี้เป็นหนึ่งในคำถามจากเด็กรุ่นใหม่ที่หลงใหลวิทยาการตะวันตก  เด็กรุ่นใหม่เหล่านี้เข้าใจศาสนาอย่างผิวเผินจากสิ่งที่ตัวเองมองเห็น  บางคนจึงมองศาสนาว่าเป็นเรื่องงมงาย  เป็นเครื่องมือทำมาหากินของคนบางกลุ่ม  หรือเป็นเรื่องของความเชื่อที่ใครจะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้  ก่อนหน้านี้ ลัทธิคอมมิวนิสต์ก็ถือว่าศาสนาเป็นยาเสพติด  

เนื่องจากทุกศาสนามีภาษาของตัวเองและใช้ภาษาทางศาสนาในการปฏิบัติพิธีกรรม  เด็กรุ่นใหม่จึงไม่อยากท่องบทสวดมนต์เพราะไม่รู้ความหมาย  ยิ่งมองเห็นบุคลากรทางศาสนาทำผิดศีลธรรมที่สามัญสำนึกของแต่ละคนรับรู้ได้  ปกหนังสือที่น่าเกลียดจึงทำให้เด็กรุ่นใหม่ไม่อยากอ่านเนื้อหาที่อยู่ข้างใน

ศาสนาพิธีกรรมให้ศาสนิกปฏิบัติ  มีบทสวดมนต์ให้ศาสนิกท่อง ถ้าใครเข้าใจจะมองเห็นคุณค่าและความดีงามของศาสนา  ในอิสลามมีคำสอนของนบีมุฮัมมัดว่า “ใครที่พระเจ้าประสงค์จะให้ความดีแก่เขา พระองค์จะให้เขาเข้าใจศาสนา” 

ผมตอบคนถามคำถามที่เป็นชื่อเรื่องของบทความนี้โดยการถามกลับไปว่า 12 คูณ 12 ได้เท่าไหร่ เขาตอบผมทันทีว่า 144  ผมถามต่อไปว่าเขารู้ได้อย่างไร  เขาตอบว่าเขาท่องมาตั้งแต่เป็นนักเรียนประถม ได้ทีตรงนี้ ผมก็บอกเขาไปว่าแม้แต่วิชาคณิตศาสตร์  เราก็ต้องอาศัยการท่องจำและกว่าจะจำได้ก็ต้องท่องซ้ำแล้วซ้ำอีก  การท่องจำจึงเป็นวิธีการเก็บผลลัพธ์ไว้ในสมองหรือในใจ  ใครถามขึ้นมาเมื่อใดก็ตอบได้ทันที

อิสลามเป็นเรื่องความสัมพันธ์สองแนว คือ แนวดิ่ง เป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า แนวระนาบเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งรอบตัวเขาทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต  อิสลามเชื่อว่าถ้ามนุษย์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า มนุษย์ก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสิ่งที่อยู่รอบตัวของเขา  

แม้อิสลามจะมีตัวบทกฎหมายที่ควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ในทุกด้านและมีบทลงโทษผู้ทำผิด  แต่อิสลามต้องการให้มนุษย์ปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้าด้วยความสมัครใจหรือด้วยความศรัทธา  

แต่การจะปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้าได้นั้นจำเป็นต้องมีวิธีการเตือนให้มุสลิมทุกคนระลึกถึงพระเจ้าอยู่เสมอ  นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมในอิสลามจึงกำหนดให้มุสลิมทุกคนต้องละหมาดวันละ 5 เวลา  เพราะการละหมาดเป็นการระลึกถึงพระเจ้าและการระลึกถึงพระเจ้าทำให้จิตใจสงบ  เป็นการสร้างความตระหนักว่าพระเจ้าเฝ้าดูมนุษย์อยู่เสมอ จึงไม่กล้าทำความชั่วเพราะกลัวว่าพระเจ้าจะเห็น  นี่คือมาตรการควบคุมทางด้านวิญญาณที่เป็นผู้บงการการกระทำของมนุษย์ซึ่งระบบกฎหมายสมัยใหม่ไม่มี

การละหมาดเป็นศาสนกิจภาคบังคับที่มีรูปแบบ  เวลา คำอ่านเป็นการเฉพาะ  เป็นหน้าที่สำหรับมุสลิมทุกคน  การละทิ้งหน้าที่นี้เป็นบาปไม่ต่างไปจากการหนีเวรของทหารที่มีความผิดทางวินัย  แม้ไม่ได้ฆ่าใครก็จริง  แต่ถ้าทหารส่วนใหญ่ไร้วินัยในกองทัพ ความวิบัติก็อาจเกิดขึ้นกับประเทศชาติได้

เมื่อละหมาดเสร็จ  มุสลิมได้รับคำแนะนำให้กล่าวคำระลึกถึงพระเจ้า(ซิกรุลลอฮฺ)เหมือนท่องสูตรคูณด้วยการกล่าวว่า “ซุบฮานัลลอฮฺ” (มหาบริสุทธิ์ยิ่งคือพระเจ้า) 33 ครั้งเพื่อเตือนว่าตัวเองอาจมีความบกพร่องและทำผิดบ้างเช่นเดียวกับคนอื่น  กล่าว “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” (บรรดาการสรรเสริญเป็นของพระเจ้า) 33 ครั้ง เพื่อเตือนตัวเองให้เอาคำยกย่องเยินยอทั้งหลายที่ตัวเองได้รับให้แก่พระเจ้า  จะได้ไม่หลงอยู่ในคำเยินยอ  กล่าว “อัลลอฮุอักบัรฺ” (อัลลอฮฺยิ่งใหญ่ที่สุด) 33 ครั้ง เพื่อเตือนตัวเองว่าอย่าได้อวดใหญ่อหังการต่อพระเจ้า  

ถ้อยคำแห่งการระลึกถึงพระเจ้าดังกล่าวนี้ถูกท่องจนฝังอยู่ในใจ  เมื่อเกิดความตกใจ  คำระลึกถึงพระเจ้าจะกระเด้งจากใจออกมาเป็นคำอุทานแทนคำสบถหรือคำหยาบคาย  

นอกจากการละหมาดที่เป็นการสร้างความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับพระเจ้าแล้ว การระลึกถึงพระเจ้ายังสามารถทำได้ในทุกอิริยาบถของการดำเนินชีวิตนอกเวลาละหมาด เช่น  ก่อนกินข้าว มุสลิมจะล้างมือตามคำสอนของนบีมุฮัมมัด การทำตามคำสอนของนบีมุฮัมมัดเท่ากับทำตามพระเจ้าซึ่งได้รับผลบุญตอบแทน  สุขอนามัยจากการล้างมือเป็นผลพลอยได้ที่ตามมา  ก่อนเอาข้าวใส่ปากหรือดื่มน้ำ  มุสลิมจะระลึกถึงพระเจ้าที่ให้อาหารด้วยการกล่าว “บิสมิลลาฮฺ” (ด้วยพระนามของพระเจ้า)  เมื่อกินอาหารเสร็จ มุสลิมจะกล่าวคำว่า “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” เป็นการขอบคุณพระเจ้า  

การกล่าวคำระลึกถึงพระเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกจึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าและทุกถ้อยคำที่กล่าวออกไป ความเชื่อในพระเจ้าจะยิ่งฝังใจและได้รับผลบุญเป็นรางวัลตอบแทน





ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน

https://www.facebook.com/Banjong.Binkason




| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |



[ Translate by Google Translate ]



Why do you have to recite mantras over and over again?

Banjong Bingasan

The title of this article is one of the questions from young generations who are fascinated with western science. These new generations understand religion superficially from what they see. Some people view religion as being superstitious. It is a means of livelihood for certain groups of people. Or is it a matter of belief that anyone can believe? Believe it or not, communism used to consider religion to be a drug.

Because every religion has its own language and uses religious language to perform rituals. The new generation therefore does not want to recite the mantras because they do not know the meaning. The more I see religious personnel committing immorality that is perceived by each person's common sense. The ugly cover of the book makes the younger generation not want to read the contents inside.

Religious rituals for religious practice There is a prayer for the believers to recite. If anyone understands, they will see the value and goodness of religion. In Islam, there is a teaching of Prophet Muhammad that “Whom God wills to do good for him? He will make them understand the religion.”

I answered the question of the title of this article by asking me what is 12 times 12. He immediately replied 144. I then asked how he knew. He replied that he had been reciting it since he was an elementary school student. Here, I told him that even mathematics. We have to rely on memorization and to remember, we have to recite over and over again. Memorization is therefore a way of keeping results in the brain or in the mind. Anyone who asks at any time can answer immediately.

Islam is about two relations. Vertical is the relationship between man and God. The plane is the relationship between man and his surroundings, both animate and inanimate. Islam believes that if human beings have a good relationship with God Human beings have a good relationship with their surroundings.

Although Islam has laws that regulate all aspects of human behavior and penalizes those who do wrong. But Islam requires humans to obey God's instructions voluntarily or by faith.

But to obey God's commands, a way of reminding all Muslims to always remember God is necessary. That is why in Islam it is mandatory for every Muslim to pray 5 times a day because prayer is the remembrance of God and the remembrance of God gives peace of mind. It raises the awareness that God is always watching over mankind. so they dare not do evil for fear that God will see This is a spiritual control that dictates human action that modern legal systems do not have.

Prayer is a compulsory religious act with a specific form, time, recitation. It is a duty for every Muslim. This neglect of duty is a sin no different from the escapism of a disciplinary soldier. Even though he didn't actually kill anyone. But if most soldiers are undisciplined in the army catastrophe could happen to the nation

when finished praying Muslims are advised to commemorate God (Zikrullah) like reciting a multiplication table by saying: “Subhanallah” (Glory be to God) 33 times to remind yourself that you may have some shortcomings and mistakes like others, saying “Alhamdulillah” (All the prayers Praise be to God) 33 times to remind yourself to give all the praise you have received to God. So as not to get lost in flattery, say “Allahu Akbar” (Allah is the greatest) 33 times to remind yourself not to show off your arrogance to God.

These words of remembrance of God were recited into his heart. when shocked Remembering God will bounce from your heart as an interjection instead of swearing or profanity.

In addition to the prayer that establishes a formal relationship with God. Remembering God can also be done in all gestures of life outside of prayer times, for example, before eating, Muslims wash their hands following the teachings of Prophet Muhammad Following the teachings of the Prophet Muhammad is tantamount to following God in return for reward. Hygiene from hand washing is a by-product that follows. before putting rice in the mouth or drinking water Muslims remember God who gave food by saying "Bismillah" (in the name of God) when they finish eating. Muslims will say "Alhamdulillah" means thanking God.

Repeating the remembrance of God thus building a relationship with God and every word spoken. Belief in God will be more ingrained and merit will be rewarded.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น