บรรจง บินกาซัน
เมื่ออับราฮัมกลับมาเยี่ยมครอบครัวของเขาซึ่งเขาทิ้งไว้ในหุบเขาบักก๊ะฮฺ อิสมาอีลลูกชายคนแรกจากภรรยาคนที่สองของเขาได้เติบโตเป็นหนุ่มแล้ว ในการกลับมาครั้งนี้ คัมภีร์กุรอานได้บอกให้เรารู้ว่าพระเจ้าได้บัญชาให้เขาสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺขึ้นมาเป็นสถานที่สำหรับการเคารพสักการะพระเจ้าองค์เดียวที่เขาศรัทธา
ดังนั้น อับราฮัมกับอิสมาอีลจึงช่วยกันสร้างอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นมาด้วยก้อนหินที่หาได้ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อใช้เป็นสถานที่เคารพสักการะพระเจ้า อาคารหลังนี้ถูกเรียกว่า “บัยตุลลอฮฺ”(แปลว่าบ้านของพระเจ้า) และบางครั้งถูกเรียกว่า “ก๊ะอฺบ๊ะฮฺ” (แปลว่าทรงสี่เหลี่ยม)
แม้สร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺเสร็จตามคำบัญชาของพระเจ้าแล้ว แต่ด้วยความถ่อมตน อับราฮัมได้วิงวอนต่อพระเจ้าให้รับงานที่เขาทำตามคำสั่งราวกับกลัวว่าพระองค์จะไม่รับงานของเขา หลังจากนั้น เขาได้กล่าววิงวอนต่อพระเจ้าว่า
“ข้าแต่พระผู้อภิบาล ฉันได้ตั้งรกรากถิ่นฐานให้ลูกหลานของฉันบางคนในหุบเขาอันกันดารใกล้บ้านอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ฉันทำสิ่งนี้ก็ด้วยหวังว่าพวกเขาจะได้ดำรงละหมาดที่นี่ ดังนั้น โปรดหันหัวใจของผู้คนไปยังพวกเขาด้วย และโปรดประทานผลไม้เป็นอาหารแก่พวกเขาด้วยเถิดเพื่อพวกเขาจะได้เป็นผู้กตัญญู ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา พระองค์ทรงรู้ดีถึงสิ่งที่เราซ่อนเร้นและเปิดเผย และไม่มีสิ่งใดทั้งในชั้นฟ้าและแผ่นดินนี้จะซ่อนเร้นไปจากพระองค์ได้” (กุรอาน 14:37-38)
พระเจ้าตอบรับคำวิงวอนของอับราฮัมทุกประการ
คำวิงวอนแรกของอับราฮัมบอกถึงความหวังของเขาว่าเขาต้องการให้ลูกหลานของเขาในอนาคตดำรงรักษาการละหมาดและมาทำฮัจญ์ที่นั่นเพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าต่อไปจนถึงวันสิ้นโลก
แน่นอน เมื่ออับราฮัมต้องการให้ลูกหลานของเขาดำรงละหมาดและให้ผู้คนมาทำฮัจญ์ เขาต้องปฏิบ้ติให้เห็นเป็นแบบอย่างโดยมีอิสมาอีลลูกชายของเขาเป็นผู้สืบทอด แต่หลังอิสมาอีลจากไป ลูกหลานของเขาและคนรุ่นต่อมาได้ละเลยการละหมาดและหลงลืมการปฏิบัติของอับราฮัมจนมีคนเอารูปเคารพสารพัดรูปร่างมากราบไหว้บูชาแทนพระเจ้าองค์เดียวเป็นเวลานานนับหลายพันปี
แม้ลูกหลานของอับราฮัมที่เป็นนบีอย่างเช่น โมเสส ดาวิด โซโลมอนและแม้แต่อีซาหรือพระเยซูจะมารื้อฟื้นการละหมาด แต่เราก็ไม่สามารถพบกฎระเบียบ เช่น ท่าทาง คำอ่านของการละหมาดในคัมภีร์ที่มีอยู่ก่อนหน้าสมัยนบีมุฮัมมัดได้ ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงได้ส่งนบีมุฮัมมัดมาวางแบบอย่างการละหมาดและการทำฮัจญ์ให้แก่ผู้ศรัทธาปฏิบัติเหมือนกันทั่วโลกจนถึงปัจจุบันและต่อไปจนถึงวันสิ้นโลก
ส่วนคำวิงวอนที่สองของอับราฮัมนั้นเกิดขึ้นจากความเป็นห่วงลูกหลานของเขาและบรรดาผู้ศรัทธาที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่นและผู้ที่จะต้องไปทำฮัจญ์ เพราะหุบเขาบักก๊ะฮฺเป็นหุบเขาหินล้วนๆ ไม่มีที่สำหรับปลูกพืชเป็นอาหารได้ แต่เพราะก๊ะอฺบ๊ะฮฺมีน้ำซัมซัมและเป็นจุดศูนย์รวมของความศรัทธา จึงมีกองคาราวานนำสินค้าและอาหารมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันที่นั่น ผู้ตั้งถิ่นฐานในเมืองมักก๊ะฮฺจึงมีอาหารนานาชนิดและผลไม้จากทั่วโลกให้กินโดยไม่ขาดจนกระทั่งปัจจุบัน
นั่นคือเหตุผลที่ว่าในการละหมาดทุกครั้ง ก่อนเสร็จสิ้นการละหมาด มุสลิมได้ถูกกำหนดให้อ่านถ้อยคำที่ยืนยันความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวและวิงวอนต่อพระเจ้าให้ประสาทพรและความจำเริญแก่นบีมุฮัมมัดและอับราฮัม
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Abraham's Supplication at the Ka'bah
Banjong Bingasan
When Abraham returned to visit his family whom he had left in the Bakkah Valley. The first son of his second wife, Ismail, had already grown into a young man. in this comeback The Quran tells us that God commanded him to build the Ka'bah as a place of worship to the only God he believed in.
So Abraham and Ishmael built a rectangular building with nearby stones to serve as a place of worship. This building was called "Baytullah" (meaning House of God) and sometimes called "Ka'bah" (meaning square).
Even though the Ka'bah was completed by God's command but with humility Abraham pleaded with God to accept the work that he had to do as he was afraid that He would not accept his work.
"O Lord, I settled for some of my descendants in the wilderness near your holy house. I do this in the hope that they will pray here, so please turn people's hearts to them. And give them fruit for their food so that they may be grateful. Our Lord He knows what we hide and reveal. And nothing in the heavens and the earth can be hidden from Him.” (Quran 14:37-38)
God answered Abraham's prayers in all respects.
Abraham's first invocation tells of his hope that he would want his descendants in the future to maintain their prayers and come to perform Hajj there in order to maintain the human relationship with God until the end of the world.
Of course, when Abraham wanted his children to maintain prayers and have people come to perform Hajj. He had to act as an example with his son Ismail as his successor. But after Ishmael left His descendants and later generations neglected prayers and forgot Abraham's practices until thousands of years have been worshiped by all sorts of idols in place of the One God.
Even the Prophet Abraham's descendants such as Moses, David, Solomon and even Jesus or Jesus would restore prayer. But we cannot find rules such as posture, recitation of prayer in scriptures that existed before Muhammad's time. It is the same practice throughout the world until the end of the world.
As for Abraham's second supplication, it came out of concern for his descendants and those of the believers who had settled there and who were going to perform Hajj. Because the Bakkah Valley is purely a rocky valley. There is no place for growing crops for food. but because the Ka'bah contains Zamzam water and is the center of faith Therefore, there were caravans that brought goods and food to trade there. The settlers of Makkah have had a wide variety of foods and fruits from all over the world to eat without fail until now.
That is why in every prayer before completing the prayer Muslims are prescribed to read words affirming their faith in one God and invoking God to bless and bless the Prophets Muhammad and Abraham.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น