หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ความเชื่อในเรื่องอุปราคา

บรรจง บินกาซัน 

สุริยุปราคาและจันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมาก่อนที่นักวิทยาศาสตร์จะอธิบายความจริงให้มนุษย์ได้รู้อย่างเป็นเหตุเป็นผลและสามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำว่าปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ไหนและนานเท่าใด  

แต่ในตอนที่วิทยาศาสตร์ยังไม่เจริญก้าวหน้า  มนุษย์ในวัฒนธรรมต่างๆได้อธิบายปรากฏการณ์ทั้งสองอย่างนี้ตามความเชื่อและจินตนาการของตน

ในจีนโบราณเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน ผู้คนถือว่าสุริยุปราคาเกิดขึ้นเมื่อมังกรบนท้องฟ้าได้โจมตีและกลืนดวงอาทิตย์ไว้  ดังนั้น เพื่อที่จะให้มังกรตกใจกลัวและช่วยดวงอาทิตย์  ในระหว่างเกิดสุริยุปราคา  ผู้คนจะตีกลองและส่งเสียงอึกทึกเพื่อให้มังกรคายดวงอาทิตย์ออกมา  เนื่องจากดวงอาทิตย์จะออกมาปรากฏอีกครั้งหลังเกิดสุริยุปราคา  ประเพณีตีกลองให้มังกรฟ้าตกใจจึงตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน  แต่สำหรับปรากฏการณ์จันทรุปราคานั้น  ชาวจีนกลับถือเป็นเรื่องธรรมดา

ส่วนในอินเดีย  ชาวฮินดูโบราณได้สร้างตำนานอธิบายปรากฏการณ์สุริยุปราคาว่าปีศาจตนหนึ่งชื่อราหูหาทางที่จะดื่มน้ำทิพย์ของเทพเจ้าเพื่อตัวเองจะได้มีความเป็นอมตะ  ราหูจึงแปลงร่างเป็นผู้หญิงไปร่วมงานเลี้ยงของบรรดาเทพเจ้า  แต่พระวิษณุรู้ว่าราหูแปลงร่างมา ปีศาจราหูจึงถูกตัดคอทันทีและหัวของราหูลอยข้ามท้องฟ้าไปทำให้ดวงอาทิตย์มืดมิดในระหว่างการเกิดสุริยุปราคา  บางคำบอกเล่ากล่าวว่าความจริงแล้ว ราหูสามารถขโมยน้ำทิพย์มาจิบได้  แต่ถูกตัดหัวก่อนน้ำทิพย์จะมาถึงร่าง  หัวที่ยังไม่ตายจึงลอยตามดวงอาทิตย์ไปกลืนดวงอาทิตย์ได้บางครั้ง  แต่ดวงอาทิตย์ก็หลุดออกมาได้เพราะราหูไม่มีคอแล้ว

ชาวอินคาในอเมริกาใต้กราบไหว้บูชาสุริยะเทพที่เรียกว่า “อินตี”  โดยทั่วไปแล้ว ผู้คนเชื่อว่าอินตีเป็นเทพแห่งความกรุณา  แต่ชาวอินคาเชื่อว่าการเกิดสุริยุปราคาเป็นสัญญาณของความโกรธและความไม่พอใจ  ดังนั้น หลังเกิดสุริยุปราคา  ผู้นำทางจิตวิญญาณจะจัดให้มีการทำพิธีบูชายัญ  ถึงแม้ว่าชาวอินคาจะไม่ใช้มนุษย์บูชายัญแล้ว  แต่จะหันมาใช้วิธีการอดอาหารแทนและผู้นำชาวอินคาจะละเว้นจากการทำหน้าที่ในระหว่างการเกิดสุริยุปราคา

ชนเผ่าบาตัมมาลิบาเป็นชนเผ่าโบราณทางตอนเหนือของโตโกและเบนินในอาฟริกามีตำนานว่าความโกรธและการต่อสู้กันของมนุษย์ได้ขยายไปถึงดวงอาทิตย์และดวงจันทร์  ดาวทั้งสองนี้จึงพลอยต่อสู้กันจนเกิดสุริยุปราคาขึ้นมา  เมื่อเป็นเช่นนี้  หญิงชราอาวุโสที่ได้รับการนับถือจึงขอให้ชาวบ้านแสดงความสงบให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้เห็นเพื่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะได้เลิกต่อสู้กัน

ปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคาจึงมีความเชื่อและตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาในทุกวัฒนธรรม

ในสมัยที่นบีมุฮัมมัดยังมีชีวิต  มีปรากฏการณ์สุริยุปราคาเกิดขึ้นในวันที่อิบรอฮีมลูกชายคนหนึ่งของท่านเสียชีวิต  ชาวอาหรับได้กล่าวว่าสุริยุปราคาเกิดขึ้นเพราะการตายของอิบรอฮีม  ดังนั้น  นบีมุฮัมมัดจึงได้อธิบายว่า “ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นสัญญาณสองอย่างในบรรดาสัญญาณทั้งหลายของพระเจ้า  สุริยุปราคาและจันทรุปราคามิได้เกิดขึ้นเพราะการตายหรือการเกิดของใครบางคน  ดังนั้น  เมื่อพวกท่านเห็นสุริยุปราคาหรือจันทรุปราคา  จงนมาซและวิงวอนขอพรต่อพระเจ้า”

 

ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน

https://www.facebook.com/Banjong.Binkason

 

| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |



[ Translate by Google Translate ]

belief in an eclipse


Banjong Bingasan


Solar and lunar eclipses are phenomena that occur before scientists can explain the truth to humans rationally and can accurately calculate when this phenomenon will occur. where and how long


But when science was not yet advanced Human beings in different cultures have explained these two phenomena according to their own beliefs and imaginations.


In ancient China, about 4,000 years ago, people considered a solar eclipse to occur when a celestial dragon attacked and devoured the sun. during a solar eclipse People would beat drums and make noise to make the dragon spit out the sun. Because the Sun will appear again after a solar eclipse. The tradition of beating drums to frighten the blue dragon has therefore been handed down to the present day. But for the lunar eclipse phenomenon The Chinese are considered normal.


part in india Ancient Hindus created a myth explaining the phenomenon of a solar eclipse that a demon named Rahu seeks to drink the nectar of the gods for himself to gain immortality. Rahu then transformed into a woman to attend the feast of the gods. But Vishnu knew that Rahu had transformed. The demon Rahu was immediately beheaded and Rahu's head floated across the sky, darkening the sun during a solar eclipse. Some stories say it's true. Rahu can steal nectar to sip. But he was beheaded before the nectar reached his body. The undead head therefore sometimes floats after the sun and swallows the sun. But the sun can come out because Rahu no longer has a neck.


The Incas in South America worshiped a sun deity known as Inti. People believe that Inti is the goddess of compassion. But the Incas believed that eclipses were a sign of anger and resentment. A spiritual leader will arrange for a sacrificial ceremony. Although the Incas no longer used human sacrifices Instead, fasting was used, and the Inca leaders refrained from their duties during the eclipse.


The Batam Maliba tribe is an ancient tribe north of Togo and Benin in Africa. Legend has it that human anger and strife extends to the sun and moon. These two stars then fight until a solar eclipse occurs. when this The respected old woman asked the villagers to show peace to the sun and the moon so that the sun and the moon would stop fighting.


The phenomenon of solar eclipse and lunar eclipse therefore have beliefs and legends that have been passed down in every culture.


when the Prophet Muhammad was alive There was a solar eclipse on the day one of his sons, Ibrahim, died. The Arabs said that the eclipse occurred because of Abraham's death, so the Prophet Muhammad explained that “The sun and the moon are two of the signs of God. Solar and lunar eclipses do not occur because of someone's death or birth. Therefore, when you see a solar or lunar eclipse, Pray and pray to God."

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น