บรรจง บินกาซัน
ถ้ามนุษย์คนใดคลอดออกมามีชีวิต ทุกคนล้วนต้องผ่านกฎของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
บางคนเกิดมาแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ผ่านด่านความแก่และความเจ็บไข้ได้ป่วยก็ตายเสียก่อน
บางคนผ่านด่านแก่ก่อนเจ็บ แต่บางคนผ่านด่านเจ็บก่อนแก่ จึงถึงด่านแห่งความตาย บางคนอยากตายและพยายามฆ่าตัวตาย แต่ไม่ได้ตายสมใจ บางคนไม่อยากตายและบางคนสุขภาพแข็งแรง แต่ความตายก็มาเยี่ยมโดยไม่บอกล่วงหน้า
หลายคนคิดว่าความตายเป็นจุดสุดท้ายของชีวิต ตายแล้วเป็นอันจบกัน ไม่มีโลกหลังความตายอย่างที่ทุกศาสนาสอน ความเชื่อเช่นนี้มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ใครที่เชื่อเช่นนี้ก็จะใช้ชีวิตอย่างเมามันและทำความชั่วได้สารพัดรูปแบบ เพราะถ้าเชื่อผิดก็คิดผิดและทำผิดโดยปริยาย
ความจริงแล้ว การเกิดและการตายมีอะไรที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง การเกิดคือการที่มนุษย์ผ่านโลกแห่งครรภ์มารดามายังโลกใบนี้ซึ่งเป็นโลกชั่วคราว ส่วนความตายก็คือการคลอดจากโลกนี้ไปยังโลกหลังความตายที่ตาเนื้อของมนุษย์มองไม่เห็นเหมือนทารกในครรภ์ที่มองไม่เห็นโลกหลังคลอด
การเกิดและการตายแตกต่างกันตรงที่มนุษย์เกิดมาบนโลกใบนี้โดยมีทั้งร่างกายและวิญญาณ รกที่ติดตัวมนุษย์มาจะถูกผู้ทำคลอดนำไปทิ้งหรือฝัง แต่การตายคือการคลอดทางวิญญาณจากครรภ์แห่งโลกนี้ไปยังโลกหน้า ร่างกายของมนุษย์ก็ไม่ต่างไปจากรกที่ถูกนำไปเผาหรือฝัง
ร่างกายจึงไม่ใช่ชีวิตที่แท้จริง แต่ชีวิตที่แท้จริงคือวิญญาณที่คอยบงการอวัยวะภายนอกของมนุษย์ให้ทำตามที่มันต้องการ ด้วยเหตุนี้ วิญญาณจึงต้องรับผิดชอบ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสองโลก โลกใบนี้ มนุษย์มาอยู่เพื่อไป แต่โลกหน้ามนุษย์ไปเพื่ออยู่ โลกใบนี้เป็นโลกชั่วคราว แต่โลกหน้าเป็นโลกนิรันดร์ ชะตากรรมของแต่ละชีวิตจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการกระทำหรือกรรมของมนุษย์ขณะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
ขณะอยู่ในครรภ์ ทารกมนุษย์ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเพราะยังไม่ได้ทำอะไรหรือยังไม่มีกรรม เมื่อคลอดออกมาเป็นทารกและเป็นเด็ก สมองยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ สติปัญญายังไม่มี พระเจ้าไม่เอาโทษ ถ้าตายในช่วงก่อนมีความรู้สึกทางเพศก็ไม่ต้องรับผิดชอบต่อกรรมที่ทำไป ทารกจึงไม่ต้องถูกลงโทษในนรก
ความตายจึงไม่ใช่จุดสุดท้ายของชีวิต ความตายเป็นเหมือนประตูที่เปิดให้วิญญาณซึ่งเป็นชีวิตที่แท้จริงก้าวผ่านออกไปสู่อีกโลกหนึ่ง ถ้าไม่ผ่านประตูนี้ วิญญาณก็ไม่สามารถเข้าไปสู่โลกหน้าได้เลย ในคัมภีร์กุรอานมีคำสอนที่กล่าวว่า “ทุกชีวิตจะได้ลิ้มรสความตาย” แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะได้ลิ้มรสชาติความตายเมื่อใด อย่างไรและที่ไหน เพราะเรื่องเกิดและตายเป็นสิทธิของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว นี่คือเหตุผลที่ศาสนาพร่ำสอนมนุษย์ให้เตรียมตัวพร้อมเสมอก่อนความตายจะมาถึง
ความตายไม่เลือกอายุ เพศ ฐานะและไม่เลือกแม้กระทั่งคนดี เด็กและผู้ใหญ่ คนดีและคนชั่วอาจตายในเหตุการณ์เดียวกันอย่างเช่นในกรณีภัยพิบัติแผ่นดินไหวหรือในสงคราม นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ อิสลามถือว่าชีวิตมนุษย์เป็นของพระเจ้า พระองค์จะเอาชีวิตของมนุษย์กลับไปเมื่อใดด้วยวิธีการอย่างไรเป็นเรื่องพระประสงค์ของพระองค์ ถ้าพระองค์ไม่เอาชีวิตของใคร คนผู้นั้นก็ยังมีชีวิต
ใครเล่าจะเชื่อว่าชายชราอายุ 77 ปีและทารกเพิ่งคลอดใหม่ยังคงมีชีวิตในซากตึกที่พังถล่มในตุรกี
แต่ที่แน่นอนคือ ในฐานะที่พระเจ้าเป็นผู้ทรงยุติธรรม หลังความตาย อนาคตของคนดีและคนชั่วจะแตกต่างกัน เพราะในโลกหน้า มนุษย์จะเก็บเกี่ยวสิ่งที่ตัวเองได้หว่านไว้ในโลกนี้
บางที ภัยพิบัติทางธรรมชาติในรูปต่างๆอาจเป็นสัญญาณเตือนให้มนุษย์รู้ถึงความอ่อนแอของตัวเองเพื่อที่มนุษย์จะได้ไม่โอหังและบางทีอาจเป็นสัญญาณเตือนให้มนุษย์เห็นถึงพลังอำนาจของพระเจ้าก็เป็นได้
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Death is the gateway to the next world.
Banjong Bingasan
If any man is born alive Everyone has to go through the rules of birth, old age, sickness and death.
Some people are born But before he had passed the aging and sickness level, he died first.
Some people go through the old checkpoint before they get hurt. But some people go through the pain checkpoint before getting old. thus reaching the threshold of death Some want to die and attempt suicide. but did not die happily Some people don't want to die and some people are healthy. But death came to visit without warning.
Many people think that death is the final point of life. death is the end There is no afterlife as all religions teach. This kind of belief has been around since ancient times. Anyone who believes in this will live a frenzied life and commit all sorts of evil. Because if you believe wrongly, you will think wrongly and act wrong by default.
In fact, birth and death have one thing in common. Birth is the passage of man through the world of his mother's womb to this world which is temporary. Death, on the other hand, is the birth from this world to the afterlife where the eyes of human beings cannot see like a fetus cannot see the world after birth.
Birth and death differ in that humans are born into this world with both bodies and souls. The placenta that was attached to the human being is then either removed or buried by the birth attendant. But death is a spiritual birth from the womb of this world to the next. The human body is no different from a placenta that has been cremated or buried.
So the body is not real life. But real life is the spirit that directs the external organs of man to do as they please. For this reason, the spirit is responsible. Humans are creatures of two worlds. This world, human beings come to go. But the next world goes to live. This world is temporary. But the next world is an eternal world. The fate of each life will depend on the actions or karma of human beings while living in this world.
while in the womb Human infants are not responsible for anything because they have not done anything or have no karma. when born as a baby and as a child The brain is not fully developed. intelligence is not yet God does not punish If he dies before he becomes sexually active, he is not responsible for his karma. Babies do not have to be punished in Hell.
Death is not the last point of life. Death is like a door through which the soul, which is true life, passes through another world. If not through this door The soul was unable to enter the next world at all. In the Quran there is a teaching that says “Every soul shall taste death.” But no one knows when they will taste death. how and where because birth and death belong to God alone This is why religion teaches man to always be prepared before death comes.
Death doesn't choose age, gender, position, and even good people. young and old The good and the bad may die in the same event, such as in a disaster, earthquake, or in a war. That's not important. Islam regards human life as belonging to God. When and how he will take human life back is a matter of his will. If he doesn't take anyone's life That person is still alive.
Who would have believed that a 77-year-old man and a newborn baby were still alive in the ruins of a collapsed building in Turkey?
But that's for sure. As God is just and fair, after death, the futures of good and evil are different. because in the next world Man will reap what he sowed in the world.
Perhaps natural disasters in their form were a warning to man of his own weakness so that man would not be arrogant, and perhaps a warning to man of the power of God.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น