บรรจง บินกาซัน
วิชาไสยศาสตร์หรือศาสตร์เร้นลับไม่มีสอนในสถาบันการศึกษาสมัยใหม่ฉันใด โรคที่เกิดจากไสยศาสตร์ก็ไม่สามารถรักษาในโรงพยาบาลสมัยใหม่ได้ฉันนั้น
ก่อนที่วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า ไสยศาสตร์เป็นศาสตร์ที่มีคนบางกลุ่มศึกษากันและนำศาสตร์นี้ไปใช้ทั้งในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษ
ในยุคอวิชชา การรักษาคนป่วยมักจะทำโดยใช้สิ่งที่คนเชื่อว่าเป็นยาและวิธีการทางไสยศาสตร์ เช่น อาบน้ำมนต์ การเสกเป่า ซึ่งวิธีการเช่นนี้ต้องพึ่งพาสิ่งที่มนุษย์เชื่อว่ามีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์มองไม่เห็น
คัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานเล่าเรื่องราวของโยบหรือนบีอัยยูบที่ป่วยด้วยโรคผิวหนังเรื้อรังหลายปีในขณะที่โลกในเวลานั้นไม่มียารักษา นบีอัยยูบรักษาโรคของตัวเองด้วยสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะรักษาโรคของเขาได้ แต่เขาไม่ทิ้งการวิงวอนต่อพระเจ้าให้ช่วยรักษาโรคของเขา เพราะเขาเชื่อมั่นว่าพระเจ้าให้ป่วยและพระเจ้าทรงรักษา และด้วยความเป็นนบี เขาจะไปพึ่งพาอำนาจหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆไม่ได้ ในที่สุด พระเจ้าได้บอกวิธีการรักษาให้เขาจนหายจากโรค
นบีมุฮัมมัดเองเคยถูกทำร้ายโดยวิธีการทางไสยศาสตร์ ในตอนช่วงท้ายของชีวิต ผู้ต่อต้านอิสลามได้จ้างนักไสยศาสตร์ให้กำจัดท่าน นักไสยศาสตร์จึงได้ให้เด็กชาวยิวแอบไปเอาเส้นผมของนบีมุฮัมมัดมา เมื่อได้เส้นผมของนบีที่ติดอยู่กับหวีแล้ว นักไสยศาสตร์ได้นำเส้นผมของท่านไปเสกเป่าแล้วเอาไปใส่ไว้ในกาบหุ้มผลอินทผลัมและนำไปซุกซ่อนไว้ในบ่อน้ำ ผลของไสยศาสตร์ทำให้นบีมุฮัมมัดไม่สบายและป่วยเป็นเวลานานโดยท่านไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงให้ทูตสวรรค์มาบอกท่านให้อ่านคัมภีร์กุรอาน บทสั้นๆสองบท (บทที่ 113 และ 114) เพื่อขอความคุ้มครองจากพระเจ้า
นบีมุฮัมมัดได้ยกฝ่ามือทั้งสองของท่านบรรจบกันระดับคางและเป่าลงไปบนฝ่ามือทั้งสอง หลังจากนั้น ท่านก็อ่านคัมภีร์กุรอานสองบทที่พระเจ้าประทานมา หลังจากอ่านแล้ว ท่านได้ใช้ฝ่ามือทั้งสองของท่านลูบศีรษะและทุกส่วนของร่างกายที่ฝ่ามือทั้งสองของท่านสามารถไปถึง ไม่นาน อาการของท่านก็ดีขึ้น
ด้วยเหตุนี้ มุสลิมจะปฏิบัติตามแบบอย่างของนบีมุฮัมมัดในการปกป้องตนเองจากวิชามารและการถูกทำร้ายโดยซาตานหรือไสยศาสตร์
เรื่องราวของนบีสองคนดังกล่าวต้องการจะบอกให้มนุษย์ได้รู้ว่าไม่ผู้ใดหรือสิ่งใดมีอำนาจเหนือกว่าพระเจ้า เพราะคนป่วยจากโรคลึกลับทุกคนต้องการจะหายจนอาจยอมไปขอการรักษาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆนอกเหนือไปจากพระเจ้า การทำเช่นนั้นเป็นการเดินเข้าทางซาตานและเป็นบาปใหญ่ในอิสลาม
ในสมัยนบีมุฮัมมัด ชาวอาหรับที่เป็นสาวกของท่านถูกแมลงป่องกัดจนเกิดอาการปวดบวม เขาจึงอ่านข้อความบทหนึ่งของคัมภีร์กุรอาน (บทที่ 1)และเป่าลงไปตรงบริเวณที่ปวด บางคนบอกว่าชาวอาหรับคนนั้นเอาน้ำเกลือทางลงไปด้วย สักพักอาการปวดก็หายไป
การรักษาโรคที่เกิดจากไสยศาสตร์ไม่อาจรักษาด้วยวิธีการแพทย์สมัยใหม่ได้ แต่การรักษาด้วยการใช้ไสยศาสตร์มีความเสี่ยงต่อความศรัทธาในพระเจ้า เพราะผู้ป่วยจากไสยศาสตร์ไม่รู้ว่าผู้ทำการรักษาอ่านเวทมนต์คาถาอะไรหรือวิงวอนขอการรักษาต่อเทพเจ้าองค์ใด ด้วยเหตุนี้ นบีมุฮัมมัดจึงแนะนำว่า “จงนำเอาสองสิ่งนี้ไปใช้ในการเยียวยารักษา นั่นคือ น้ำผึ้งและคัมภีร์กุรอาน” นอกจากนี้แล้ว พระเจ้ายังบอกด้วยว่าคัมภีร์กุรอานเป็นสิ่งหนึ่งที่ใช้เยียวยารักษาโรคได้เพราะคัมภีร์กุรอานได้ฉายาว่า “สิ่งเยียวยารักษา”
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Mysterious life in the human world (6)
A mysterious disease that cannot be treated with medicine.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น