หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568

มุฮัมมัด ผู้ได้รับการสรรเสริญ


บรรจง บินกาซัน

ครั้งหนึ่ง นบีมุฮัมมัดเคยกล่าวว่า “ฉันคือคำวิงวอนของอิบรอฮีม(อับราฮัม) และคนสุดท้ายที่มาแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับฉันคืออีซา(เยซัส)” 

เมื่อพระเจ้าบัญชาให้อับราฮัมสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺเพื่อเป็นสถานที่เคารพสักการะพระองค์  อับราฮัมได้สนองคำบัญชาของพระเจ้า  เมื่อสร้างเสร็จแล้ว  เขาได้วิงวอนต่อพระเจ้าให้บอกถึงวิธีการเคารพสักการะพระองค์และพระเจ้าได้ตอบรับคำวิงวอนของเขา   เรารู้จากคัมภีร์ไบเบิลฉบับปฐมกาล 17:3 ว่าอับราฮัมแสดงความเคารพสักการะพระเจ้าด้วยการก้มกราบ

อับราฮัมเป็นบิดาแห่งความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว  ดังนั้น เราจึงได้พบในคัมภีร์ไบเบิลอีกว่าลูกหลานของอับราฮัมทางฝั่งอิชอัค เช่น โมเสส  อาโรน  โยชัว  เยซัส ได้สืบทอดวิธีการแสดงความเคารพสักการะพระเจ้าโดยการก้มกราบตามแบบอับราฮัม

ด้วยความกังวลล่วงหน้าว่าลูกหลานของเขาในอนาคตจะหลงลืมและไม่เคารพสักการะพระเจ้าตามที่พระองค์ได้สอนไว้ อับราฮัมจึงได้วิงวอนต่อพระเจ้าให้ในหมู่ลูกหลานของเขามี “ศาสนทูตคนหนึ่ง” มาอธิบายคำสอนของพระองค์และขัดเกลาชีวิตลูกหลานของเขาที่หลงทาง” (ดูกุรอาน 2:129)

ศาสนทูตในคำวิงวอนของอับราฮัมก็คือนบีมุฮัมมัดนั่นเอง คัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาเก่าได้บอกถึงลักษณะของศาสนทูตที่พระเจ้าตอบรับคำวิงวอนของอับราฮัมไว้ดังนี้  

 “เราจะโปรดให้บังเกิดผู้พยากรณ์อย่างเจ้าในหมู่พวกพี่น้องของเขา และเราจะใส่ถ้อยคำของเราในปากของเขา และเขาจะกล่าวบรรดาสิ่งที่เราบัญชาเขาไว้นั้นแก่ประชาชนทั้งหลาย  ต่อมาผู้ใดไม่เชื่อฟังถ้อยคำของเรา ซึ่งผู้พยากรณ์กล่าวในนามของเรา เราจะกำหนดโทษผู้นั้น” (พระราชบัญญัติ 18:18-19)

คำว่า “ในหมู่พี่น้องของเขา” หมายถึงลูกหลานของอิชอัคลูกชายคนที่สองของอับราฮัมซึ่งเกิดจากนางซาราห์ภรรยาคนแรกและลูกหลานของอิชมาเอลลูกชายคนแรกที่เกิดจากนางฮาการ์ภรรยาคนที่สอง  อิชมาเอลเป็นบรรพบุรุษของนบีมุฮัมมัดผู้ที่จะกล่าวคำบัญชาของพระเจ้าให้ผู้คนได้รับรู้

หลังสมัยของอับราฮัม  ผู้คนได้หลงลืมการกราบสักการะพระเจ้าตามแบบที่อับราฮัมได้แสดงไว้    แม้อาณาจักรไบแซนตินจะรับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาทางการแล้วก็ตาม แต่ผู้คนก็หลงลืมการกราบสักการะพระเจ้าตามแบบของอับราฮัมแม้เยซัสจะแสดงแบบอย่างให้เห็นแล้วก็ตาม  ในส่วนชาวอาหรับผู้เป็นลูกหลานของอิชมาเอลถึงกับนำรูปเจว็ดมาเคารพกราบไหว้แทนพระเจ้าองค์เดียว   

ส่วนคำพูดของนบีมุฮัมมัดที่กล่าวว่า “คนสุดท้ายที่มาแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับฉันคืออีซา(เยซัส)” นั้น  เราพบบันทึกของบาร์นาบัสที่ไม่ได้ถูกรวมไว้ในคัมภีร์ไบเบิลฉบับพันธสัญญาใหม่ดังนี้ :

 ครั้นปุโรหิตถามว่า “มาซีฮานั้นจะถูกเรียกอย่างไร และอะไรเป็นสัญญาณแสดงให้เราเห็นถึงการมาของเขา ?”  พระเยซูตอบว่า “นามของมาซีฮานั้นคือการสรรเสริญ พระเจ้าทรงให้นามแก่เขา ขณะที่พระองค์ทรงให้บังเกิดวิญญาณของเขาและสถิตอยู่ในสวนสวรรค์  พระเจ้าตรัสว่าจงคอยมุฮัมมัด เพื่อประโยชน์ของเจ้า จึงได้บังเกิดสวรรค์โลกและสิ่งที่ถูกบังเกิดอีกมากมาย  เราให้เจ้ากำเนิดเป็นของขวัญ ผู้ใดให้พรแก่เจ้า ผู้นั้นจะได้รับพร ผู้ใดสาปแช่งเจ้า ผู้นั้นก็จะถูกสาปแช่งด้วย เมื่อเราจะส่งเจ้าไปยังโลก เราจะส่งเจ้าไปในฐานะศาสนทูตเพื่อความรอดพ้น และโลกของเจ้าจะถูกนำไปสู่ทางอันเที่ยงตรง แม้นฟ้าและแผ่นดินจะสิ้นสลายแต่ความศรัทธาของเจ้าจะไม่สลาย”

      “มุฮัมมัดเป็นนามที่พระองค์ทรงให้พร”

      บรรดาพวกเขาต่างก็แซ่ซ้องร้องว่า “โอ้พระเจ้า โปรดประทานศาสนทูตของพระองค์ลงมาเถิด โอ้ มุฮัมมัด จงมาเร็วๆเถิดเพื่อนำโลกไปสู่หนทางแห่งความรอดพ้น” 

ในคัมภีร์กุรอานตอนหนึ่ง เราอ่านพบว่านบีอีซาหรือเยซัสได้กล่าวว่า :- 

“ลูกหลานอิสราเอลเอ๋ย แท้จริง ฉันเป็นศาสนทูตของพระเจ้าที่ถูกส่งมายังพวกท่าน เป็นผู้ยืนยันคำสอนที่มีอยู่ในคัมภีร์เตารอต(โตราห์)ก่อนหน้าฉันและเป็นผู้แจ้งข่าวดีถึงศาสนทูตคนหนึ่งผู้จะมาภายหลังฉัน นามของเขาผู้นั้นคืออะหมัด” (กุรอาน 61:6)

ในคัมภีร์กุรอานมีข้อความอีกตอนหนึ่งกล่าวว่า : 

“แท้จริง พระเจ้าและทูตสวรรค์ของพระองค์ยังอำนวยพรแก่นบีคนนี้   บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงขอพรให้แก่เขาได้รับความจำเริญและส่งความสันติแก่เขา” (กุรอาน 33:56)

ดังนั้น  ตราบจนทุกวันนี้  มุสลิมจะกล่าวคำอำนวยพรแก่นบีมุฮัมมัดและอับราฮัมทุกครั้งในการละหมาดประจำวัน




ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]


Muhammad, the Praiseworthy


Banjong Bin Ghazan

Once, the Prophet Muhammad said, “I am the prayer of Ibrahim (Abraham), and the last one who came to give me the good news of me is Isa (Jesus).”

When God commanded Abraham to build the Kaaba as a place of worship for Him, Abraham obeyed God’s command. When it was finished, he pleaded with God to tell him how to worship Him, and God answered his plea. We know from the Bible, Genesis 17:3, that Abraham showed his worship of God by prostrating himself.
Abraham was the father of the monotheistic faith in God. Therefore, we also find in the Bible that the descendants of Abraham on the Isaac side, such as Moses, Aaron, Joshua, and Jesus, inherited the way of worshiping God by prostrating themselves in the same way as Abraham.
Worried that his future descendants would forget and not worship God as He had taught them, Abraham pleaded with God to give among his descendants “A prophet” came to explain His teachings and to purify the lives of his misguided children” (see Quran 2:129).
The prophet in Abraham’s prayer was the Prophet Muhammad. The Old Testament of the Bible describes the characteristics of the prophet whom God responded to Abraham’s prayer as follows:
“We will raise up among his brothers a prophet like you, and We will put Our words in his mouth, and he will speak to the people whatever We command him. Whoever does not obey Our words that a prophet speaks in Our name, We will impose a penalty on him” (Deuteronomy 18:18-19).
The term “among his brothers” refers to the descendants of Abraham’s second son Isaac by his first wife Sarah and the descendants of his first son Ishmael by his second wife Hagar. Ishmael was the ancestor of the Prophet Muhammad who would convey God’s commands to the people.
After Abraham’s time, people had forgotten the way Abraham had worshipped God, even though the Byzantine Empire had adopted Christianity as its official religion. But people have forgotten the worship of God in the way of Abraham even though Jesus set an example. As for the Arabs, who were descendants of Ishmael, they even worshiped idols instead of one God.
As for the words of the Prophet Muhammad, who said, “The last one who came to bring good news about me was Isa (Jesus),” we find a record of Barnabas that is not included in the New Testament of the Bible:
When the priest asked, “What will the Messiah be called? And what will be the sign of his coming?” Jesus answered, “The name of the Messiah is Praise. God gave him a name when He created his soul and placed it in Paradise. God said, Wait for Muhammad. For your sake, there were created heaven, earth, and many other creations. I have given you birth as a gift. Whoever blesses you will be blessed, and whoever curses you will be cursed. When I send you to the earth, I will send you as a messenger of salvation, and your earth will be guided to the straight path. Even if the heavens and the earth were to perish, your faith would not perish.”
“Muhammad is a name blessed by You.”
They all exclaimed, “O God, send down Your Messenger! O Muhammad, come quickly to guide the world to the path of salvation.”
In one passage of the Quran, we read that the Prophet Isa or Jesus said:-
“O Children of Israel, verily, I am the Messenger of God sent to you, confirming what was in the Torah before me and giving good news of a Messenger who will come after me. His name is Ahmad.” (Quran 61:6)
In another passage of the Quran, it says:
“Verily, God and His angels have blessed this prophet. O you who have believed, pray for him and send him peace.” (Quran 33:56)
Therefore, to this day, Muslims recite the blessings of the Prophet Muhammad and Abraham in every daily prayer.


Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น