หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

นบีมูฮัมมัดในคำภีย์พระเวทย์ ของศาสนาฮินดู




โดย บรรจง บินกาซัน

ตามหลักการอิสลาม เมื่อพระเจ้าสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายขึ้นมาแล้ว พระองค์มิได้ปล่อยให้สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมาดำเนินไปตามยถากรรม แต่พระองค์ได้ทรงทำให้ทุกสรรพสิ่งที่สร้างมามีความสมบูรณ์ หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงจัดระเบียบและทรงนำทางให้ทุกสิ่งดำเนินไปตามกฎระเบียบที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ตามพระประสงค์ของพระองค์

มนุษย์ก็เป็นสิ่งถูกสร้างอย่างหนึ่งเช่นกัน เมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาแล้ว พระองค์มิได้ทรงปล่อยให้มนุษย์ดำเนินชีวิตไปตามยถากรรม
โดยไร้ทางนำในการดำเนินชีวิต ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงได้ทรงแต่งตั้งมนุษย์บางคนที่พระองค์ได้ทรงคัดเลือกไว้ให้ทำหน้าที่ “นบี” (หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า ศาสดา) มาเป็นผู้สอนแนวทางในการดำเนินชีวิตแก่มนุษย์ทุกหมู่เหล่าในทุกสมัยนับตั้งแต่มีมนุษย์คนแรกบนโลกนี้

จากหะดิษ (คำบอกกล่าว) ของท่านนบีมุฮัมมัดเอง ทำให้เราได้ทราบว่าตลอดระยะเวลาประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ผ่านมาก่อนหน้าท่านมีนบีจำนวน 124000 คนเกิดขึ้นบนโลกนี้  โดยที่ศาสดามุฮัมมัดเป็นศาสดาคนสุดท้าย ในจำนวนศาสดาเหล่านี้ มี 25 ท่านถูกกล่าวชื่อไว้อย่างชัดเจนในคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีกล่าวไว้ในคัมภีร์ไบเบิลด้วยเช่นกัน แน่นอน เมื่อศาสดาได้ถูกส่งไปตักเตือนหรือสั่งสอนผู้คนในท้องถิ่นต่างๆ พระเจ้าจึงได้ประทานคำสอนแก่นบีตามภาษาของคนในท้องถิ่นที่ท่านต้องปฏิบัตหน้าที่ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นที่ศาสดาจะต้องพูดภาษาเดียวกันด้วย เช่น พระเจ้าในภาษาของชาวฮิบรูถูกเรียกว่า”ยะโฮวา” ในขณะที่ชาวอาหรับเรียกว่า”อัลลอฮฺ” แต่สิ่งที่ทำให้รู้ว่าพระเจ้าเป็นอย่างไรนั้นอยู่ที่
คำอธิบายคุณลักษณะของพระองค์ เช่น คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า”พระเจ้าของเจ้าคือพระเจ้าองค์เดียว” คัมภีร์กุรอานกล่าวว่า”อัลลอฮฺทรงเป็นหนึ่ง”ส่วนคัมภีร์พระเวทก็บอกว่า”พระเจ้าเป็นหนึ่งไม่มีที่สอง”

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลของกาลเวลา ต้นฉบับของคัมภีร์ต่างๆได้สูญหายไปและคัมภีร์ที่ถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือไม่ก็เพิ่มเติมเข้าไปจนทำให้คำสอนดั้งเดิมอันบริสุทธิ์ถูกปะปนแปดเปื้อนไปด้วยของใหม่ ด้วยเหตุนี้พระผู้เป็นเจ้าจึงได้ประทานคัมภีร์อัลกุรอานมาเพื่อเป็นสิ่งแยกแยะและกลั่นกรองสิ่งที่อยู่ในคัมภีร์โบราณ สิ่งใดที่ศาสดาก่อนหน้านี้ได้พูดไว้และไม่ขัดต่อคัมภีร์กุรอาน มุสลิมจะต้องยอมรับในฐานะที่เป็นหลักศรัทธาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ถ้าขัดกับคัมภีร์กุรอาน มุสลิมก็จะบอกปัดและปฏิเสธ

เป็นเรื่องแปลกที่ชื่อของศาสดามุฮัมมัดได้ถูกกล่าวในคัมภีร์โบราณทางศาสนาหลายเล่มด้วยกัน แท้แต่คัมภีร์พระเวทซึ่งเป็นคัมภีร์ทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและคนทั่วไปคิดว่าเป็นคัมภีร์ที่พวกพราหมณ์ใช้อ่านบูชาเทพเจ้า ก็มีการกล่าวถึงศาสดามุฮัมมัดไว้

คัมภีร์พระเวท และปุราณะ

คัมภีร์พระเวทเป็นคัมภีร์ทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์มีอยู่ในปัจจุบัน ภาษาเดิมของคัมภีร์พระเวทเป็นภาษาสันสกฤตซึ่งนักนิรุกติศาสตร์หรือนักศึกษาต้นกำเนิดของภาษากล่าวว่าเป็นภาษาที่มาจากทางตอนใต้ของรัสเซียเพราะมีหลายคำที่สอดคล้องหรือบางคำก็ออกเสียงเหมือนชื่อเมืองบางเมืองในรัสเซีย

นักวิชาการด้านภาษาโบราณระบุว่า คัมภีร์พระเวทมิได้เป็นของชาวอินเดีย แต่เป็นของชนชาติอารยัน ไม่มีใครอ้างว่าผู้ใดเป็นผู้เขียนคัมภีร์พระเวทขึ้นมาแต่คัมภีร์พระเวทเกิดขึ้นจากการรวบรวมสิ่งที่”ใครบางคนได้ยินมา” ดังนั้น คัมภีร์พระเวทจึงได้ชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า”ศรุติ” ซึ่งหมายถึง”สิ่งที่ได้ยินมา” และได้ถูกถ่ายทอดกันมาโดยความจหลังจากนั้นก็ถูกบันทึกรวบรวมไว้เป็นรูปเล่มเช่นเดียวกับคัมภีร์โบราณอื่นๆ

“เวท”แปลว่า ความรู้ เชื่อกันว่าคัมภีร์พระเวทเป็นคำสอนของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงประทานแก่ใครบางคนให้มาสั่งสอนนุษย์ในยุคโบราณ

คัมภีร์พระเวท แบ่งออกเป็น 4 คัมภีร์ด้วยกัน คือ

1.คัมภีร์ฤคเวท   เป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นคัมภีร์แห่งความรู้ในบทสวดสรรเสริญพระเจ้า
2.คัมภีร์ยชุรเวท   เป็นคัมภีร์ที่รวบรวมบทร้อยกรองใช้สาธยายในพิธีบูขายัญในศาสนา
3.คัมภีร์สามเวท   เป็นคัมภีรืที่รวบรวมบทสวดมนต์สำหรับพิธีกรรมต่างๆของประชาชนโดยทั่วไป
4.คัมภีร์อาถรรพเวท   เป็นคัมภีร์แห่งมนต์คาถา การทำพิธีแก้เคล็ดลับ แก้อาถรรพ์ไสยศาสตร์ต่างๆ (คัมภีร์เล่มนี้เกิดหลังพุทธศาสนา)

นอกจากนี้แล้ว คัมภีร์พระเวทยังมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของชาวฮินดูตั้งแต่เกิดจนตายและการจัดระเบียบสังคมในเวลานั้นอีกด้วยส่วนคัมภีร์ปุราณะ คือคัมภีร์โบราณที่ได้รับการบอกเล่าสืบทอดต่อกันมา (คำว่า ปุราณะ หมายถึง โบราณ) ถือเป็นคัมภีร์ที่มีความสำคัญลำดับสองรองลงมาจากคัมภีร์พระเวท คล้ายๆกับหะดิษ (หรือคำพูด/คำบอกเล่าของศาสดามุฮัมมัด)ในทำนองนั้น

คัมภีร์พระเวทกับหลักความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว

พฤติกรรมและการปฏิบัติของพราหมณ์ที่เป็นอยู่ในอินเดียและที่เราเห็นอยู่ในประเทศไทยไม่สามารถที่จะเป็นตัวแทนคำสอนของคัมภีร์พระเวทได้ เพราะโดยแก่นสารแล้ว คัมภีร์พระเวทมีหลักคำสอนการนับถือพระเจ้าองค์เดียวปรากฏอยู่อย่างชัดเจนและเกือบจะเหมือนกับคำสอนที่มีอยู่ในคัมภีร์กุรอานดังที่จะได้เห็นต่อไปนี้

ในคัมภีร์พระเวท ภาคอุปนิษัทได้มีการกล่าวไว้ว่า :

   “พระเจ้าองค์เดียว ไม่มีผู้ใดที่สมควรได้รับการเคารพกราบไหว้นอกจากพระองค์ โลกนี้ไม่มีอะไรหากปราศจากพระองค์
กล่าวคือ มันยังอยู่ตราบใดที่พระองค์ทรงรักษามันไว้ โลกไม่สามารถดำรงอยู่ชั่วขณะโดยการปฏิเสธพระองค์”

   ในคัมภีร์ฤคเวท (1:189:1) ได้มีการกล่าวว่า :

   “โอ้พระเจ้าแห่งจักรวาลผู้เปิดเผยพระองค์เอง โปรดนำเราสู่หนทางที่ดีงาม”

   ในคัมภีร์พระเวท ภาคเคนอุปนิษัท (1:3) กล่าวว่า :

   “ผู้ที่ไม่มีดวงตาใดสามารถมองเห็นได้ ในทางตรงข้าม พระองค์ทรงเห็นทุกสายตา รู้ว่าพระองค์คือพระเวท”

ในคัมภีร์พระเวท ภาคเศตาศวตารอุปนิษัท (บทที่6 มันตระ 11) กล่าวว่า :

“พระผู้เป็นเจ้าแห่งจักรวาลเป็นพระเจ้าองค์เดียว พระองค์คือวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทุกสิ่ง พระองค์ทรงมีอยู่ทั่วไปในทุกรูปแบบของชีวิต พระองค์ทรงกำหนดการกระทำทุกอย่าง พระองค์ทรงอยู่เหนือสิ่งทั้หลาย พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งพิงของทุกคน พระองค์ทรงเห็นทุกสรรพสิ่ง ทรงรู้ถึงสรรพสิ่ง ไม่มีฉายาใดที่จะนำมาใช้กับพระองค์ได้”


ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำสอนในคัมภีร์พระเวทซึ่งผู้ศรัทธาในพระเจ้าที่แท้จริงไม่สามารถปฏิเสธได้แต่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ คัมภีร์พระเวทได้พูดถึงศาสดามุฮัมมัด(ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ไว้อย่างที่เราไม่อาจเลียงตีความไปเป็นคนอื่นได้เช่นกัน

คัมภีร์พระเวทและคัมภีร์ปุราณะพูดถึงท่านศาสดามุฮัมมัดด้วยคำพูดต่างๆในภาษาสันสกฤตเอง ดังนี้คือ นรศังสะ อันติมฤาษี กัลกีอวตาร และพูดถึงท่านในภาษาที่ไม่ใช่ภาษาสันสกฤตอีกหนึ่งคำ คือ มะมหะ

นรศังสะ = ผู้ทีได้รับการสรรเสริญ = มุฮัมมัด

ในคัมภีร์ฤคเวท ในคัมภีร์สามเวท ในตระที่ 1349 คัมภีร์ยชุรเวทขาวและยชุรเวทดำ ได้มีการเอ่ยถึงการมาปรากฏของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “นรศังสะ” โดยภาษาแล้ว นักวิชาการด้านภาษาสันสกฤตกล่าวว่าคำนี้หมายถึง “ผู้ที่ได้รับการสรรรเสริญ” ซึ่งมีความหายตรงกับคำว่า “มุฮัมมัด” ในภาษาอาหรับ ดังนั้น เพื่อเป็นการหาหลักฐานเพื่อชี้ชัดลงไปว่า คนผู้นี้เป็นใครกันแน่ จึงได้มีการค้นหาลักษณะของบุคคลผู้นี้ ซึ่งมีกล่าวไว้ในคัมภีร์พระเวทและได้พบรายละเอียดลักษณะของนรศังสะ ซึ่งจะขอนำเพียงบางส่วนมากล่าวดังนี้:-


-เขาขี่ อูฐเป็นพาหนะ (อาถรรพเวท 20:127:2)
-เขาจะมีภรรยา 12 คน
-พระเจ้าจะให้เกียรตินรศังสะด้วยพวงมาลัยเกียรติยศ 10 พะวง มาลัยเหล่านี้จะคล้องคอเขาเหมือนสร้อยคอ
-เขาจะได้รับของขวัญเป็นม้า 300 ตัว
-เขาจะได้รับของขวัญเป็นวัว 10000 ตัว


การศึกษาคำสอนของพวกพราหมณ์ทำให้รู้ว่าอูฐเป็นที่ต้องห้ามสำหรับพวกพราหมณ์ฮินดูตามกฎหมายมนูสมิตริ(11:201) แม้แต่นมและเนื้อของอูฐก็เป็นที่ต้องห้ามตามกฎหมายมนูสมิตริ ดังนั้น นรศังสะจึงไม่ใช่พวกพราหมณ์หรือคนในอินเดียอย่างแน่นอน เพราะอูฐจะมาอยู่ก็แต่ในทะเลทรายเท่านั้น

การศึกษาถึงชีวประวัติของศาสดาต่างๆ หลักจากนั้นมา ไม่พบว่าศาสดาคนใดมีภรรยา 12 คน นอกไปจากศาสดามุฮัมมัด

ส่วนคำอธิบายที่ว่า นรศังสะจะได้รับพวงมาลัย 10 พวง ม้า 300 ตัว และวัวอีก 10000 ตัวนั้น เป็นการใช้คำเปรียบเทียบ

คำว่าพวงมาลัยเป็นสิ่งที่ให้เพื่อแสดงถึงความใกล้ชิดสนิทสนมเป็นพิเศษ ชีวิตของท่านศาสดามุฮัมมัดเองก็มีสาวกที่ใกล้ชิด 10 คน ซึ่งในทั้งสิบคนนี้ภาษาอาหรับเรียกว่า “อะชะร่อ มุบัซวะร่อ” หรือสาวกสิบคนที่ได้รับการแจ้งข่าวดีล่วงหน้าว่าจะได้เข้าสวรรค์

ส่วนม้านั้นเป็นสัญลักษณ์ขอฝความห้าวหาญในการรบ ในสงครามบะดัรซึ่งเป็นสงครามครั้งแรกที่มุสลิมออกรบเพื่อป้องกันการรุกรานของศัตรูจำนวนประมาณหนึ่งพันคนจากมักก๊ะฮฺนั้น กำลังคนของท่านนบีมีประมาณ 300 คน ส่วนวัวนั้นเป็นคำเปรียบเทียบเพื่อหมายถึงคนที่เรียบง่ายและเชื่อฟังอย่างดี ในตอนปลายชีวิตจำนวนสาวกที่ยอรับคำสอนของท่านมีจำนวน 10000 คน และด้วยคนจำนวนนี้ที่ท่านนำไปยึดมักก๊ะฮฺกลับคืนมา


ศาสดามุฮัมมัดในฐานะกัลกิอวตาร

เมื่อเราได้ยินว่า “อวตาร” เรามักจะนึกถึงการแปลงร่างของเทพเจ้ามาเกิดในร่างของมนุษย์ตามจิตนาการในหนังอินเดีย โดยหารู้ไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้น คำว่า “อวตาร” มีความหมายว่า “มายังโลกนี้” คำว่า “อวตารของพระเจ้า” หมายถึง “การเกิดของมหาบุรุษผู้เผยแผ่สาส์นที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ท่านมายังโลก”

นักวิชาการภาษาสันสกฤตกล่าวว่า “อวตาร” เป็นคำที่มีความหมายเดียวกับ Prophet (ศาสดา) ในภาษาอังกฤษ และ “นบี” ในภาษาอาหรับ ดังนั้นในคัมภีร์พระเวท โลกนี้จึงมีหลายอวตารด้วยกัน แต่ในบรรดาอวตารทั้งหมดนั้นมีอวตารหนึ่งซึ่งคัมภีร์พระเวทใช้คำว่า “กัลกิอวตาร” หรือ อวตารสุดท้าย และกัลกิอวตารจะมาปรากฏเมื่อโลกอยู่ในสภาพดังต่อไปนี้

1.กิจกรรมที่มิใช่ศาสนามีมากมาย ทรัพย์สินของคนอื่นถูกปล้นชิง เด็กทารกหญิงถูกฝังทั้งเป็น
2.มีการเคารพสักการะสิ่งอื่นที่มิใช่พระเจ้า ถึงแม้พระเจ้าจะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด แต่ก็ยังถูกปฏิเสธ ผู้คนเสกสรรปั้นแต่งเทวรูปต่างๆขึ้นมาบูชา
แม้กระทั่งหินแล้วต้นไม้ก็ยังเป็นสิ่งที่ไดรับการสักการะบูชา
3.คนของพระเจ้าถูกข่มเหงเข่นฆ่า คนดีต้องได้รับความทุกข์ยากลำบาก
4.คำบัญชาในคัมภีร์พระเวทไม่ได้รับการเชื่อฟังและผู้คนไม่เคารพคัมภีร์พระเวท


เพื่อเป็นการชัดเจนขึ้นว่า กัลกิอวตารที่กล่าวว่าไว้ในคัมภีร์พระเวทและปุราณะเป็นใคร
นักวิชาการได้พยายามค้นหาลักษณธของกัลกิอวตารในคัมภีร์เหล่านั้นและได้พบคำบอกเล่าว่ากัลกิอวตารผู้นั้นจะมีลักษณะบางประการดังนี้

1.ในคัมภีร์ปุราณะได้กล่าวว่า กัลกิอวตารจะขี่ม้าพิเศษตัวหนึ่งซึ่งพระเจ้าได้ประทานให้และม้าตัวนี้มีความเร็วที่สุดจะจินตนาการ
2.ในภคพัตปุราณะ(122:19) กัลกิอวตารจัมีคุณสมบัติแปดประการ คือ ขี่ม้าเร็วที่ฑูตสวรรค์นำมาให้ มีดาบในมือ เป็นผู้ช่วยเหลือให้โลกรอดพ้นจากความชั่ว ในคัมภีร์กัลกิปุราณะ กัลกิอวตารกล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้า ด้วยพี่น้องทั้งสี่ที่ร่วมอยู่กับข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะทำลายความชั่วช้า”

3.ในคัมภีร์กัลกิปุราณะ (2:25) ระบุว่ากัลกิอวตารจะเกิดในวันที่ 12 ข้างขึ้นของเดือนมาธวะ
4.ในคัมภีร์กัลกิปุราณะ (2:24) ระบุว่ากัลกิอวตารจะเกิดในเมืองศัมภัล ในบ้านของหัวหน้านักบวช พ่อของท่านชื่อวิษณุยาษ แม่ของท่านชื่อสุมาตี (ภคพัต ปุราณะ 12:2:18)
5.ในคัมภีร์กัลกิปุราณะ (2:7) กล่าวว่ากัลกิอวตารจะได้รับความช่วยเหลือจากฑูตสวรรค์ในสนามรบ



ผู้เชี่ยวชาญในด้านคัมภีร์พระเวทได้พยายามศึกษาว่า “ศัมภัล” ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของกัลกิอวตารนั้นเป็นชื่อเมืองหรือว่าคำคุณศัพท์ขยายชื่อสถานที่ เมื่อทำการศึกษาอย่างกว้างขวางแล้วพบว่า “ศัมภัล” มิใช่ชื่อเมือง ถ้าหาก “ศัมภัล” เป็นชื่อเมืองที่ตั้งอยู่ในอินเดีย ก็น่าจะมีศาสดาคนหนึ่งมาเกิดเมื่อ 1400 ปีที่แล้วในฐานะผู้ช่วยเหลือโลก ดังนั้นจึงได้มีการค้นหาความหมายของคำว่า “ศัมภัล” และพบว่าคำนี้มีหลายความหมายดังต่อไปนี้

1.หมายถึง “สถานที่ท่คนได้รับความสันติและความมั่นคงปลอดภัย”
2.อีกความหมายหนึ่งคือ “เป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนเข้าไป”
3.ความหมายที่สามคือ “สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้น้ำ”


ความหมายทั้งสามข้างต้นก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้คนมุสลิมพอจะคิดได้ว่านั่นคือสภาพที่ตั้งของบริเวณรอบก๊ะบะฮฺ เมืองมักกะฮฺเป็นที่รู้จักกันในภาษาอาหรับว่า “ดารุลอะมาน” (บ้านแห่งความมั่นคงปลอดภัยและสันติ)

ส่วนคำว่า “วิษณุยาษ” ซึ่งเป็นชื่อพ่อของกัลกิอวตารนั้นหมายถึงผู้เคารพระวิษณุหรือพระเจ้า ตรงกับความหมายในภาษาอาหรับว่า“อับดุลลอฮฺ” ซึ่งเป็นชื่อพ่อของท่านศาสดามุฮัมมัด ส่วนแม่ของท่านซึ่งมีชื่อว่า “สุมาตี” นั้น คำนี้มีความหมายว่า สุภาพอ่อนโยนและช่างคิดซึ่งตรงกับคำว่า “อะมีนะฮฺ” ชื่อแม่ของท่านศาสดามุฮัมมัด


“อหะมิทธิ” ได้รับแก่นแท้ของสติปัญญาจากพระบิดาของท่าน (นั่นคือพระเจ้าของท่าน) ฉันได้รับแสงสว่างจากเขาผู้ซึ่งเป็นเหมือนดวงตะวันประโยคดังกล่าวมีปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระเวทถึงสี่แห่งด้วยกัน นั่นคือในคัมภีร์สามเวท (ตอนอินทรา บทที่3 มันตระ152)

ในคัมภีร์สามเวท(อุตราชิก มันตระ1500) ในคัมภีร์ฤคเวท(8:6:10) แลในคัมภีร์อาถรรพเวท(20:9:19)
แต่บรรดานักวิชาการได้แปลประโยคนี้โดยมีความหมายแตกต่างกันออกไปต่างๆนานา เพราะนักวิชาการเหล่านั้นไม่เข้าใจความหมายของคำว่า “อหะมิทธิ”


นอกจากนี้แล้วในคัมภีร์อาถรรพเวทยังปรากฏคำพยากรณ์ว่ามะมหะมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ถูกสัญญาไว้จะได้รับวัวหนึ่งหมื่นตัว คำพยากรณ์นี้อยู่ในคัมภีร์อาถรรพเวท 20:9:31 ซึ่งกล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้าจะประทานเหรียญทองคำ 100 เหรียญ พวงมาลัย 10 พวง ม้า 300 ตัว และวัว 10000 ตัว แก่มะมหะฤาษี”

คำว่า “มะมหะ” ก็เป็นอีกคำหนึ่งซึ่งปเนคำต่างถิ่นในคัมภีร์พระเวท ดังนั้นคำนี้จึงไม่ใช่คำภาษาสันสกฤต แต่เพื่อที่จะหาความจริง ขอให้เรามาดูสิ่งบ่งชี้ว่าบุคคลผู้นี้เป็นใครจากสิ่งที่มีอยู่ในคัมภีร์พระเวทเอง

ก)มะมหะจะเป็นคนขี่อูฐจากแผ่นดินทะเลทราย (อาถรรพเวท 20:9:31)
ข)มะมหะจะเป็นผู้มีชื่อเสียงพร้อมกับสาวกอีก 10000 คน (ฤคเวท 5:271)
ค)ในยุคของมะมหะจะมีการใช้บทสรรเสริญใหม่ที่จะนำมาอ่านในระหว่างการประกอบพิธีศาสนาแทนคัมภีร์พระเวท (ฤคเวท 1:109:2)

ดังนั้น คำว่า มะมหะในที่นี้ก็คือมุฮัมมัดซึ่งอยู่มนรูปของภาษาสันสกฤตนั่นเอง
มีรายละเอียดอีกมากมายที่บ่งบอกให้เรารู้ว่า นรศังสะ อันติฤาษี กัลกิอวตาร และมะมหะ ที่ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์พระเวท คัมภีร์ปุราณะ มิใช่ใครอื่นนอกไปจากศาสดามุฮัมมัดที่ได้ถูกทำนายไว้ล่วงหน้าว่าจะมาเกิดเพื่อเป็นความเมตตาต่อประชาชาติทั้งมวล


หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมคัมภีร์พระเวทจึงไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คำตอบก็คือ คัมภีร์นี้ได้ถูกสงวนไว้ศึกษากันแต่เฉพาะในหมู่พวกพราหมณ์ และได้ถูกปิดกั้นมิให้คนทั่วไปได้ศึกษาโดยเฉพาะชนชั้นศูทร ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าพวกพราหมณ์ต้องการสงวนอำนาจในการเป็นผู้นำทางด้านจิตวิญญาณของประชาชนไว้ในชนชั้นของตัวเองจนถึงกับมีการวางกฎห้ามชนชั้นศูทรฟังและได้ยิน ดังนั้นคัมภีร์พระเวทจึงถูกห้ามอ่านในที่โล่ง



แหล่งที่มา : วารสาร อัลฮิดายะฮฺ ฉบับที่24 ปีที่24 มิถุนายน-กรกฎาคม 2544




| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | 


[ Translate by Google Translate ]

Muhammad Vedas The Hindu


Islam When God created all things up. He did not let what he built went adrift. But thou hast made all things created are complete. Later, he organized and directed them to carry out everything according to the rules he defined his purpose.
Man is created in one as well. When God created man, then. He did not let the man go haphazard lifestyle.
Without a way to bring in a lifestyle that is why he has appointed some humans that he has chosen to act as "B" (also in Thailand called the Prophet) as a teaching guide in life. to all people in every era since the first human on the planet.

The Hadith (the notice) of the Prophet Muhammad himself. We know that throughout human history, the last of the prophets before you have 124,000 people on the planet. The Prophet Muhammad is the final prophet people. Among these prophets have said 25 people were named explicitly in the Quran. Among these were also mentioned in the Bible as well, of course, when the Prophet was sent to warn or instruct people in various localities. God has given us moral core beta new language of the local people must be hallmarks of duty therefore do not need a prophet to speak the same language as God in the Hebrew is called "Jehovah". While the Arabs call "Allah, Allah," but what makes God knows what it is.
His description as the Bible says, "God is one God," the Quran says, "Allah, Allah, he is one of" The Vedas say, "God is one without a second."

However, for reasons of time Bible manuscripts have been lost, and the Bible was compiled and edited a new one has been replaced or added to make the original teachings of the holy were mixed with new defiled. For this reason, God has revealed the Quran to identify and scrutinize what is in the ancient scriptures. What the Prophet had previously spoken of and not contrary to the Quran. Muslims must accept as a principle of faith that can not be avoided. But contrary to the Quran. Muslims reject and deny it

It is ironic that the name of the Prophet Muhammad has been mentioned in many ancient religious books together. But genuine religious scriptures, the Vedas, the oldest in the world and people think that was a Brahmin scriptures read worshiped. It is said to hold the Prophet Mohammed.

Vedas and Purana

Vedas are the oldest religious scriptures that humans have today. The original language of the Vedas, the Sanskrit etymology or origin of language students, said a source from the south of Russia, because there are many words that some words are pronounced the same line or some city names in Russia.

The academic argues that the ancient language. Vedas are not of the Indians. But as the Aryan race Nobody claims that whoever is writing the Vedas up, but the Vedas arose from the gathered what "someone heard" Thus the Vedas was named as a "Sruti" which means "at the hearing. "and has been passed down by the District after it was compiled in book form as well as other ancient texts.

"Private" means that knowledge is believed that the Vedas are the teachings of the Lord giveth someone to teach human Bay in antiquity.

There are four Vedas, the scriptures together.

1. scripture Rigveda The Bible is the oldest and the Book of Psalms in praise of God.
2. Scripture Yajurveda A Bible verse that captures the elaborate ceremony in Abu leg in religious penance.
3. Book Samewt Cumbia is a scripture or prayer gathering for rituals by the general public.
The Vedic scriptures 4. If the hospital. A book of spells The ceremony solving tips Solve the mystery and superstition (This book was born after Buddhism).

In addition, Vedas also significant about the life of a Hindu from birth to death, and the social order in that time, with the Purana scriptures. The ancient texts that have been told, passed down (the word refers to ancient Purana) is a scripture that a priority second only to the Vedas. A similar Hadith (Or word / words of the Prophet Muhammad) as such.

Vedas with the belief in one God.

Behavior and practices of Brahmanism in India and as we saw in Thailand are not able to represent the teachings of the Vedas. Because by then the quintessence Vedas are teaching respect for God is evident and almost identical to the teachings contained in the Quran, as will be seen below.

In the Vedas The Vedanta has said.

   "One God No one deserves to be respected worship Him. This world is nothing without him.
That is, it is, as long as he maintains it. The world can not continue a little while by denying him ".

   In scripture Rigveda (1: 189: 1) has said.

   "O Lord of the Universe, who revealed Himself. Please put us on the path to excellence ".

   In the Vedas Ken Region Vedanta (1: 3) said.

   "Those who have eyes can be seen in the opposite He sees all eyes. I knew the Vedas "

In the Vedas French engineering sector Eyes Star Vedanta (Chapter 6 It basket 11) said.

"God is the God of the universe. He is the soul of every living thing. He is everywhere in all forms of life. He has done everything Schedule He is, above all, they're multiple. He is the anchor of everyone. He sees everything He knows what No pen can be used against him ".


That said, this is only part of the teachings of the Vedas, which the believers in the true God can not deny, but dramatic than it is. Vedas mention the Prophet Muhammad (may peace be upon him) that we may not be transported to other interpretations as well.

Purana scriptures and the Vedas speak of the Prophet Mohammed with words in Sanskrit itself is the equivalent of Sa Sa Aantim hermit Kalki avatar and talk to you in another language, Sanskrit words are sacred mango.

Sa Sa = The student who received praise = Mohammed.

In scripture Rigveda Samewt in the 1349 Bible in the Book Basket Yajurveda white and black Yajurveda. There was no mention of the presence of the great man whose name was "equivalent to the superb potential" by language, Sanskrit scholars say that this word means. "Those who have been seeding the PTL" which has gone straight to the word "Allah" in Arabic, so in order to find evidence to point to that. Who the hell are these people. You have to discover the nature of this person. Which are mentioned in the Vedas and find detailed characteristics of potential students in town. Which would be partially explained as follows: -.


- He rides a camel ride (ah if the hospital was discontinued 20: 127: 2).
- He has a wife 12 people.
- God will honor student with a garland of Fame 10 th to reflect these wreaths composed his neck like a necklace.
- He will receive a gift horse 300.
- He will receive a gift of cow 10000.


The teachings of the Brahmin knows that a camel is forbidden for a Brahmin Hindu laws Manu Smythe's (11: 201), even the milk and meat of camels is prohibited by law Manu Smythe's the equivalent potential of the town. It is not a Brahmin or people in India, certainly. Because camels in the desert, but it will come only.

The study of biographies of various prophets. Then came the main Prophet found not let him go out 12 people from the Prophet Mohammed.

The explanation is that Potential students can get the superb steering wheel, 10 300 and 10 000 other cattle, it is a metaphor.

The steering is provided to illustrate a special closeness. Life of the Prophet Muhammad himself was a disciple closest to 10 people, in which ten people in Arabic called "A deterioration Messenger Mugabe Bassano me wait" or the ten people who received good news in advance to get into heaven.

The horse is a symbol of French courage in battle. Toba Industries in the war, the first war on Muslims to fight to prevent the invasion of the enemy numbering about one thousand people of Islam that often shifts. Manpower of the Prophet with approximately 300 people of the bull as a metaphor to refer to the simple and obedient well. At the end of the life of the Apostle John taught a number of 10 000 people and with the people of these countries tend to hold back my faith.


Prophet Muhammad as Donegal's Avatar.

When we hear that "Avatar" We tend to think of the Transfiguration of the Savior was born in the imagination of the human body in Indian films. By not knowing that in reality is not like that word "incarnate" means. "Earth is the" word "incarnation of God" means "the birth of a great man who delivered the messages that God has given you the world."

Sanskrit scholar said that "Avatar" is a word that is synonymous with the Prophet (Prophet) in English and "B" in Arabic, so in the Vedas. This world has many avatars together. But all in all, Avatar, Avatar is one of the Vedas, the word "Gallo's Avatar" and Gallo's last incarnation or avatar will be displayed when the world is in a state below.

1. There are plenty of non-religious. Other people's property being robbed. Baby girls were buried alive.
2. To worship something other than God. Although God is the ultimate authority. However, it was rejected People invent various idol worship.
Even rock and tree, it is yet to be worshiped.
3. God's people are persecuted slaughter. Good people must be suffering.
4. commandment in the Vedas not been obeyed and those who do not respect the Vedas.


To clear up Kalki Avatar Gill said in the Vedas and Purana is.
Scholars have been trying to find symbols of Gulf Bank's incarnation in those scriptures and find words that Gallo's incarnation, he will have some characteristics as follows.

1. In Purana scriptures have said. Gallo's incarnation will ride a special one which God had given them and this horse has the speed to imagine.
2. In the Bhagavad Purana putt (122: 19) Gallup's Avatar Justin has eight is riding a celestial messenger brought a sword in hand is to help save the world from evil. Kalki Purana scriptures in Yakima Gallo said Gill Avatar "O God, With four brothers who share with me. I will destroy the wicked. "

3. In Gallo's Purana scriptures (2:25) states that Gallo's Avatar is born on the 12th of next month's sacristy.
4. In Gallo's Purana scriptures (2:24) states that Gallo's Avatar is born in the beverage's potential. In the house of the chief priest Your father was named Vishal human medicine. Mr. Mati mother's name (Bhagavad Purana putt 12: 2: 18).
5. In Gallo's Purana scriptures (2: 7), said Gallo's avatar will be assisted by the angels on the battlefield.



Experts in the field have attempted to study the Vedas that "The Apple phone," which is the birth place of Gallo's incarnation is the name of the town or the adjective expanded locations. After extensive study and found that "Apple's new phone is" not a city if the "enemy's Pat" is a city located in India. It seems to be a prophet, one born 1400 years ago as an aid world. So you have to find a definition of the term "enemy's Pat" and found that the word has several meanings as follows.

1. means "place where people get peace and security".
2. other words, "It is what brings people into".
3. The third meaning is "This place, located near the water."


Meaning all three of the above is sufficient. To make people think that there are enough Muslims is the location of the area around the shift bathe. City of Mecca, known in Arabic as "Darul's dropsy" (house of peace and security).

The word "Vishnu Maya language," which is the name of Gallo's father incarnation means that respect the Vishnu or God. Match meaning in Arabic as "Abd Allah," which was named father of the Prophet Mohammed. The mother, who were called "random attack" that word means. Gentle and thoughtful, which corresponded with the words "I have Sunnah" Mother of the Prophet Mohammed.


"The Sacred Family Bible" was the essence of wisdom from your Father. (That is God), I received from him a light sentence, which is like the sun has appeared in the Vedas, the four of them together. That's in the Bible Samewt (Chapter 3 it was Indra portion 152).

In Scripture Samewt (Autra it Pasig Basket 1500) in scripture Rigveda (8: 6: 10), then in the hospital Vedic scriptures Abu Road (20: 9: 19).
But the scholars have interpreted this phrase has a different meaning to the variety. Because these scholars do not understand the meaning of the word "Allah is the Christ."


In addition, if the hospital Vedic scripture was a prophecy that has shown great mango Sacred great man that has been promised will receive one thousand cows. This prophecy in the Book Art Institute of Private Hospital 20: 9: 31, which says, "God will be 100 gold medals steering wheel, 10 300 and 10 000 cattle to the mango weird hermit".

The word "mango Sacred" is another word which is the name of the alien in the Vedas. So this is not a Sanskrit word. But in order to find the truth Let us see this as an indication that the person who, from what is contained in the Vedas themselves.

A) The Sacred mango is the camel of the desert (if the hospital was discontinued 20: 9: 31).
B) Sacred mango is famous, along with the other disciple, 10,000 people (Rigveda, 5: 271).
C) In the era of mango Sacred Praise be to use the new chapter to be read during the religious ceremony the Vedas (Rigveda 1: 109: 2).

So the word Allah in the mango is Muhammad the rounded form of Sanskrit itself.
There are many more details that indicate to us that the potential student's comments reflect hermit Gallo's Avatar and mango Hadith is mentioned in the Vedas. Purana scriptures No one other than the Prophet Muhammad that have been predicted in advance that it was a mercy to all the nations.


Many people may wonder Why do not the Vedas is the general answer is that the Bible has been preserved, but only among the Brahmins. And have blocked them from common people, especially the educated elite Sudra. That being so, because they want to preserve the power of Brahman is the spiritual leader of the people in the class to have a place of their own to prohibit racist Sudra heard. The Vedas are not read in the open air.



Source: Journal of al Helper believe the 24-year June 24 - July 2544.




1 ความคิดเห็น: