หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

นิติธรรมจากคัมภีร์


บรรจง บินกาซัน

ขณะที่นบีมุฮัมมัดเริ่มเผยแผ่อิสลามในเมืองมักก๊ะฮฺ ยัษริบ(หรือมะดีนะฮฺ)เป็นเมืองที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายความเชื่อและเชื้อสายอาศัยอยู่ เวลานั้น ยัษริบไม่มีรัฐบาลกลางที่มีอำนาจสูงสุดในการปกครอง แต่ละกลุ่มชนจะอยู่อย่างปลอดภัยได้จำเป็นต้องมีกำลังและอิทธิพลที่เข้มแข็ง


ในเวลานั้น นอกจากชาวอาหรับพื้นเมืองที่เคารพกราบไหว้เจว็ดสารพัดรูปแบบแล้ว ในเมืองยัษริบยังมีชนเผ่าลูกหลานอิสราเอลสามเผ่าอาศัยอยู่ด้วย คนกลุ่มนี้หลบลี้หนีภัยมาจากเมืองเยรูซาเล็มหลังจากถูกกองทัพโรมันทำลายใน ค.ศ.70  ลูกหลานอิสราเอลเหล่านี้นับถือศาสนายูดาย และแม้จะเป็นลูกหลานอิสราเอลด้วยกัน แต่ทั้งสามเผ่านี้มีความเป็นศัตรูกันในเรื่องอำนาจและผลประโยชน์

ขณะเดียวกัน ยัษริบยังมีกลุ่มชนอีกสองเผ่าที่มีอำนาจและความเข้มแข็งตั้งถิ่นฐานอยู่ก่อนที่ชนเผ่าอิสราเอลจะอพยพมา สองเผ่านี้คือเผ่าเอาส์และคอซรอจญ์ซึ่งเป็นชาวเยเมนที่อพยพมาจากทางใต้ของคาบสมุทรอาหรับหลังเขื่อนมะอ์ริบแตกจนแผ่นดินแห้งแล้งไม่สามารถเพาะปลูกได้

เผ่าเอาส์และคอซรอจญ์แย่งชิงความเป็นผู้นำในเมืองยัษริบและทำสงครามขับเคี่ยวกันมาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทุกครั้งเมื่อเวลาทำสงคราม เผ่าเยเมนต่างฝ่ายต่างไปขอความช่วยเหลือจากเผ่าอิสราเอลมาร่วมรบ และเมื่อเผ่าอิสราเอลทำสงครามกัน เผ่าอิสราเอลที่เป็นคู่กรณีก็จะมาขอความช่วยเหลือจากเผ่าเยเมนที่เป็นพันธมิตรกับตน

นี่คือสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเมืองยัษริบในตอนที่นบีมุฮัมมัดกำลังเผยแผ่อิสลามและถูกต่อต้านจากหัวหน้าชาวมักก๊ะฮฺ

เมี่อนบีมุฮัมมัดอพยพไปยังเมืองยัษริบ สองเผ่าเยเมนและชนเผ่าพื้นเมืองยอมรับให้ท่านเป็นผู้นำ แต่เนื่องจากในยัษริบมีชนเผ่าลูกหลานอิสราเอลอยู่ด้วย ท่านจึงเรียกทุกชนเผ่ามาทำสัญญาประชาคมร่วมกันว่ายัษริบคือเมืองของทุกชนเผ่าที่อาศัยอยู่ หากมีศัตรูภายนอกรุกราน ทุกเผ่าต้องร่วมมือกันปกป้องเมืองเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทุกเผ่า และหากชาวเมืองยัษริบคนใดมีข้อพิพาท ทุกคนจะนำกรณีพิพาทมาให้นบีมุฮัมมัดตัดสิน

แต่เนื่องจากในเมืองยัษริบมีชนเผ่าอิสราเอลอาศัยอยู่และชนเผ่าอิสราเอลมีคัมภีร์ทางศาสนาที่เป็นกฎหมาย(คัมภีร์เตารอต)อยู่ด้วย หากชาวอิสราเอลมีกรณีพิพาทหรือทำผิดกฎหมาย นบีมุฮัมมัดจะตัดสินตามที่คัมภีร์เตารอตบัญญัติไว้

ครั้งหนึ่ง ชายและหญิงในเผ่าอิสราเอลทำผิดประเวณีและถูกจับได้ ทั้งคู่จึงถูกนำตัวมาหานบีมุฮัมมัดเพื่อรับการตัดสินจากท่านตามที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญาประชาคม

นบีมุฮัมมัดได้ให้คนไปตามผู้รู้ศาสนาและกฎหมายชาวยิวมาและถามว่า “การลงโทษตามกฎหมายสำหรับบาปนี้ในคัมภีร์ของท่านคืออะไร?” 

ผู้รู้ศาสนาชาวยิวตอบว่า “นักบวชของเราได้คิดการลงโทษขึ้นมาใหม่โดยการเอาถ่านทาหน้าคู่กรณีที่มีชู้แล้วนำตัวไปนั่งบนหลังลาโดยหันหน้าเข้าหากันและหลังจากนั้นก็นำไปแห่ประจานในที่สาธารณะ” ในตอนนั้น อับดุลลอฮฺ บินสะลามซึ่งเป็นชาวยิวที่หันมารับอิสลามได้บอกนบีมุฮัมมัดว่า  “ให้พวกเขาให้นำเอาคัมภีร์เตารอตมา”
 
เมื่อคัมภีร์เตารอตถูกนำมา ชาวยิวคนหนึ่งได้เอามือของเขาปิดบนข้อความที่พูดถึงการลงโทษคนมีชู้ด้วยการขว้างหินจนตายและเริ่มอ่านข้อความก่อนหน้าและข้อความต่อจากส่วนที่ถูกปิดไว้ อับดุลลอฮฺ บินสะลามจึงได้บอกชาวยิวคนนั้นว่า “เอามือของท่านออก”

เมื่อชาวยิวคนนั้นยกมือของตนออกจากคัมภีร์ ข้อความเกี่ยวกับการลงโทษด้วยการขว้างด้วยหินจนตายซึ่งถูกปิดไว้จึงปรากฏขึ้น  นบีมุฮัมมัดจึงได้สั่งให้ลงโทษชายหญิงทั้งสองที่ทำบาปตามที่ระบุไว้ในคัมภีร์ของชาวยิว

นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการให้ความเคารพในความเป็นผู้นำของนบีมุฮัมมัดแม้คนเหล่านั้นจะไม่ใช่มุสลิมและแสดงให้เห็นว่านบีมุฮัมมัดให้เคารพคัมภีร์ทางศาสนาของผู้มีความเชื่อต่างจากท่าน

นี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยัษริบอยู่ร่วมกันอย่างสงบและมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง



ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

Law from the Scriptures

Banjong Binkason



While Prophet Muhammad began to spread Islam in the city of Makkah Yasirib (or Madinah) is a city that consists of a wide variety of people, beliefs and descent. At that time, Yassib had no central government with the highest authority to rule. Each group will live safely, needing strong power and influence.

At that time, except for the native Arabs who respected various forms of worship In the city of Jazib, three tribes of Israel also lived This group of people fled from Jerusalem after being destroyed by Roman troops in AD 70. These Israeli descendants regard Judaism. And even as children of Israel together But these three tribes are hostile to power and benefit.

At the same time, Yassri also has two other tribes that have power and strength to settle before the Israeli tribes migrate. These two tribes are the Aegean and the Yossish Cosses who emigrated from the south of the Arabian Peninsula after the Maarrib Dam until the land was barren and unable to cultivate.

The Aussie and the Cossack tribes took the leadership of Yassib and waged war for a long time. But could not find a solution Every time when the war The Yemeni tribes are seeking help from the Israeli tribes to join the battle. And when the tribes of Israel made war The tribes of Israel who are parties will come to ask for help from the Yemeni tribes who are their allies.

This was the situation that was in the city of Yassib when the Prophet Muhammad was propagating Islam and was opposed by the chiefs of Makkah.

Muhammad, Muhammad, emigrated to Yassib. Two Yemeni and indigenous tribes accept you as leaders. But because of the presence of the tribe of the children of Israel He called to all the tribes to make a covenant with the community that Yatsri was the city of every tribe that lived. If there are enemies outside the invaders Every tribe must cooperate to protect the city for the mutual benefit of every tribe. And if any of the people of Yatsrib have any disputes Everyone will bring a dispute to the Prophet Muhammad.

But because of the presence of the tribes of Israel and the tribes of Israel, there is a legal scripture (Torah) If the Israelites have a dispute or break the law Prophet Muhammad will decide according to the Torah scripture.

At one time, men and women in the tribe of Israel committed adultery and were arrested. Both were then brought to the Prophet Muhammad to be judged by him as agreed in the congregation's contract.

The Prophet Muhammad had sent people to know the religion and Jewish law and asked "What is the legal punishment for this sin in your scripture?"

Jewish religious educators responded that "Our priests reckoned the punishment by persuading the faces of the adulterous parties and then taking them to sit on their backs, face-to-face, and afterwards led to a public parade." Salam, a Jew who turned to accept Islam, told Prophet Muhammad that "Let them bring the Torah scripture"
  
When the Torah scripture was brought A Jew took his hand off on a message that spoke of punishment of an adulterous person by throwing stones to death and began to read the previous text and the text from the closed section. Told the Jew that "Put your hand out"

When that Jew raised his hand from the scriptures The message about the punishment by throwing stones to death that has been closed appears. The Prophet Muhammad ordered him to punish both men and women who had sinned in the Jewish scriptures.

This is what shows the respect for the leadership of the Prophet Muhammad, even though those people are not Muslims and show that Prophet Muhammad is to respect the religious scriptures of believers different from him.

This is one of the factors that make Yarrib to live together peacefully and with solidarity.



Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น