บรรจง บินกาซัน
ศาสนาทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์ มนุษย์จึงต้องเรียนศาสนาเพื่อให้ตัวเองมีศาสนาไว้ปฏิบัติ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการปฏิบัติศาสนาอย่างมีวิจารณญาณและมีศิลปะที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในชีวิตจริงโดยรักษาเจตนารมณ์ของศาสนาไว้
คำสอนของคัมภีร์กุรอานที่เป็นต้นน้ำของกฎหมายอิสลามเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ทั้งสิ้น
เมื่อกฎหมายถูกส่งมาใช้กับชีวิตมนุษย์ที่ประกอบด้วยร่างกายและวิญญาณ ดังนั้น กฎหมายจึงมีชีวิตเช่นกัน กฎหมายมีตัวอักษรเป็นเรือนร่าง ส่วนวิญญาณของกฎหมายก็คือเจตนารมณ์ กฎหมายจะเป็นตัวอักษรขึ้นมาได้ก็เพราะเจตนาของผู้ออกกฎหมายและหนึ่งในวัตถุประสงค์สำคัญของกฎหมายก็คือเพื่อรักษาชีวิต ไม่ว่าจะด้วยมาตรการใดๆก็ตาม
ถึงแม้กฎมายจะดูเข้มงวด แต่ไม่มีกฎหมายใดที่ไม่มีข้อยกเว้นและการยืดหยุ่นแม้ในการปฏิบัติที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น การนมาซที่ขาดไม่ได้ยังมีข้อยืดหยุ่นให้ในทุกสถานการณ์จนไม่มีใครอ้างได้ว่าไม่สามารถนมาซได้ ในการถือศีลอด หากใครป่วยก็ได้รับการยกเว้น หายป่วยแล้วค่อยมาถือชดใช้ หากป่วยเรื้อรังต้องกินยาเพื่อรักษาชีวิตก็ทดแทนด้วยการเลี้ยงอาหารคนยากจน
นบีถูกส่งมาเพื่อทำให้การปฏิบัติตามวจนะของอัลลอฮฺเป็นเรื่องง่ายเพื่อให้ทุกคนปฏิบัติได้และท่านจะเลือกเอาวิธีการที่ง่ายเสมอหากไม่เป็นบาป ถ้านบีไม่มีศิลปะในการทำให้ศาสนาเป็นเรื่อง่าย อิสลามคงไม่มีคนรับนับถือมากมายมาจนทุกวันนี้
มีเรื่องราวมากมายที่แสดงให้เห็นถึงการที่ท่านนบีนำอิสลามมาใช้อย่างมีศิลปะทั้งๆที่ท่านเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ
แบบอย่างคำสอนของนบีมีไว้สำหรับทุกสถานการณ์แม้ในเรื่องของสวรรค์ ยามสงบ สวรรค์อยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา แต่ยามถูกรุกราน สวรรค์อยู่ใต้ร่มเงาของคมดาบ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเอาไปใช้ให้ถูกสถานการณ์
ในขณะที่อยู่ในเมืองมะดีนะฮฺ เมื่อรู้ว่าศัตรูมารุกราน การจับอาวุธปกป้องตัวเองเป็นที่อนุมัติโดยพระเจ้าแล้ว ทุกคนจึงเข้าร่วมด้วยความเต็มใจ เด็กสองคนในเมืองมะดีนะฮฺลากดาบที่ยาวเกือบเท่าความสูงของตัวเองมาลงชื่อขอออกรบด้วย นบีได้ถามเด็กสองคนว่ามีพ่อแม่อยู่ที่บ้านไหมและใครเป็นคนดูแล เมื่อได้รับคำตอบว่าไม่มีใครดูแลแม่ที่บ้าน นบีจึงบอกให้เด็กสองคนกลับไปดูแลพ่อแม่และบอกว่าการดูแลพ่อแม่ก็เป็นการญิฮาดอย่างหนึ่ง นี่คือศิลปะการปฏิบัติคำสอนของศาสนาที่สอดคล้องกับความเป็นจริง เด็กสองคนจึงกลับบ้านไปด้วยความเชื่อฟังนบีในฐานะผู้นำ
แม้ในยามศึกสงครามที่การญิฮาดเป็นหน้าที่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องออกไปหมด อัลลอฮฺได้มีบัญชาให้คนบางส่วนที่มีความรู้อยู่ในเมืองไว้สอนผู้คนบ้างเพื่อให้อิสลามยังคงดำรงอยู่
นบีเองรู้ดีว่าอัลลอฮฺทรงให้ความคุ้มครองท่านมาตลอดในการปฏิบัติภารกิจจนท่านเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจว่าพระองค์จะคุ้มครองท่าน แต่ก่อนออกสู่สนามรบ ท่านก็สวมเสื้อเกราะ เพราะอัลลอฮฺให้ชีวิตท่านมาปฏิบัติหน้าที่สำคัญ ท่านจึงต้องรักษาชีวิตอย่างดีที่สุด ขณะเดียวกัน ท่านก็ตระหนักดีว่าเมื่ออัลลอฮฺจะเอาชีวิตใคร ก็ไม่มีใครขัดขวางพระองค์ได้
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชนhttps://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Nabi's role model
practice religion with judgment
Banjong Binkasan
Religion distinguishes humans from animals. Humans therefore have to learn religion in order to have their own religion to practice. But more importantly, it is a critical and artistic practice of religion that is consistent with real-life situations while maintaining the spirit of the religion.
The teachings of the Quran, the source of Islamic law, are all about human life.
When the law is applied to human life comprising body and spirit, then the law also lives. Laws have letters in their bodies. The spirit of the law is the will. Laws can be literal because of the intent of the legislator, and one of the main objectives of the law is to save lives. by any measure
Even though the law seems strict But there is no law without exception and flexibility even in the practice that is necessary. For example, indispensable prayers are so flexible in all situations that no one can claim that they cannot be prayed. in fasting If anyone is sick, they are exempt. Get well and then come to pay If you are chronically ill, you have to take medicine to save your life and replace it by feeding the poor.
The Prophet was sent to make the practice of the Word of Allah easy for everyone to do, and he would always choose an easy, if not sinful, method. If the Prophet did not have the art of making religion easy Islam has not been respected by many people until today.
There are many stories that show how the Prophet used Islam in an artistic way despite his illiteracy.
The Prophet's teachings exemplify every situation, even in matters of heaven. In peacetime, heaven is under the feet of the mother. but the guard was invaded Heaven is under the shadow of a sword It depends on who will use it in the right situation.
while in Madinah when he knew that the enemy had invaded Taking up arms for self-defense is already approved by God. So everyone participated willingly. Two children in Medina brought swords nearly their height and signed them to go to war. The Prophet asked the two children if their parents were at home and who took care of them. When the answer was given that there was no one to take care of the mother at home. The Prophet then told the two children to take care of their parents and said that taking care of their parents was a kind of jihad. This is the art of practicing religious teachings in accordance with reality. The two children then returned home obediently to the Prophet as leaders.
Even in times of war where jihad is a duty But it's not like everyone has to leave. Allah has commanded some knowledgeable people in the city to teach some people so that Islam will continue.
The Prophet himself knew that Allah had always protected him in his mission until he had confidence and trust that He would protect him. But before going to the battlefield he put on his armor because Allah has given his life to perform important duties. He therefore had to preserve his life as best he could. no one could hinder him.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundationhttps://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น