ฮัจญ์ การย้อนอดีตเพื่อไปสู่อนาคต

บรรจง บินกาซัน  

หลังจากอับราฮัม(นบีอิบรอฮีม)และอิสมาอีลบุตรหัวปีสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺเพื่อใช้เป็นสถานที่เคารพสักการะพระเจ้าเสร็จแล้ว  อับราฮัมได้วิงวอนต่อพระเจ้าว่า

“โอ้พระผู้อภิบาลของเรา โปรดทำให้เราทั้งสองเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์ และได้โปรดให้ลูกหลานของเราเป็นชนชาติที่นอบน้อมต่อพระองค์  ขอได้ทรงแสดงให้เราเห็นถึงการปฏิบัติศาสนกิจของเรา...”  (กุรอาน 2.128) 

พระเจ้าตอบรับคำวิงวอนของอับราฮัม ดังนั้น  ลูกหลานของอับราฮัมจากอิสมาอีลและอิสฮากจึงเป็นชนชาติที่มีนบีเกิดขึ้นมากมายและพระเจ้าได้บอกเขาให้รู้ถึงวิธีการเคารพสักการะพระองค์

อย่างไรก็ตาม  อับราฮัมกังวลว่าหลังจากเขาจากลาโลกนี้ไปแล้ว  ลูกหลานของเขาอาจหลงลืมและหลงผิดจนลืมวิธีการเคารพสักการะพระเจ้า  ดังนั้น  เขาจึงวิงวอนต่อพระเจ้าว่า

“โอ้พระผู้อภิบาลของเรา โปรดให้ในหมู่พวกเขามีรอซูล(ศาสนทูต)ขึ้นมาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่จะมาสาธยายสัญญาณทั้งหลายของพระองค์แก่พวกเขาและสอนคัมภีร์และวิทยปัญญาแก่พวกเขาและขัดเกลาชีวิตของพวกเขาให้สะอาด.......” (กุรอาน 2.129)

ความกังวลของอับราฮัมเป็นจริง  เพราะหลังจากเขาและอิสมาอีลจากโลกนี้ไปแล้ว  ชาวอาหรับลูกหลานของเขาทางฝ่ายอิสมาอีลได้หลงลืมวิธีการปฏิบัติศาสนกิจจนหันไปกราบไหว้บูชารูปเคารพแทนพระเจ้า  แต่พระเจ้าได้ตอบคำวิงวอนของอับราฮัมที่ขอให้ในหมู่ชาวอาหรับมีนบีคนหนึ่งเพื่อสอนคัมภีร์แก่ลูกหลานของเขาโดยการให้มุฮัมมัดถือกำเนิดขึ้นมาในหมู่ชาวอาหรับและได้รับคัมภีร์กุรอานจากพระเจ้า

นบีมุฮัมมัดกล่าวว่าตัวท่านเองคือคำวิงวอนของอับราฮัมเพราะท่านได้มาบอกถึงวิธีการปฏิบัติศาสนกิจต่างๆที่อับราฮัมสอนไว้และลูกหลานของเขาได้หลงลืมไป

พิธีฮัจญ์เป็นศาสนพิธีอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญ  ก่อนหน้าสมัยนบีมุฮัมมัด ชาวอาหรับทำพิธีฮัจญ์โดยการมาเวียนรอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺในสภาพของคนเดียรถีย์และเชือดสัตว์เพื่อเอาเนื้อไปแจกจ่ายโดยหวังให้คนร่ำลือว่าตัวเองเป็นคนใจบุญและโอบอ้อมอารี  และพิธีทั้งหมดจำกัดอยู่ในเมืองมักก๊ะฮฺเท่านั้น  

แต่ “ฮัจญ์” โดยภาษาหมายถึง “การเดินทางสู่จุดมุ่งหมายแห่งหนึ่ง” และจุดมุ่งหมายนั้นคือพระเจ้าที่ทุกชีวิตต้องกลับไป  แต่การเดินทางกลับไปหาพระเจ้าเป็นการเดินทางด้านจิตวิญญาณซึ่งจะเริ่มต้นเมื่อวิญญาณออกจากร่างในอนาคต  พิธีฮัจญ์ของนบีมุฮัมมัดจึงถูกทำไปในลักษณะที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเดินทางของวิญญาณหลังจากออกจากร่างของมนุษย์ไปจนถึงวันอวสานและการไปชุมนุมต่อหน้าพระเจ้าเพื่อรับการพิพากษา

พิธีฮัจญ์ใช้เวลาจริงๆ 6 วันโดยเริ่มต้นในเช้าวันที่ 8 เดือนซุลฮิจญะฮฺ  ผู้ทำฮัจญ์จากทั่วโลกที่ชุมนุมกันที่เมืองมักก๊ะฮฺประมาณสองล้านคนจะออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ทุ่งกว้างในตำบลมินาเป็นระยะทาง 9 ก.ม. เพื่อพักค้างคืนที่นั่นหนึ่งคืน  การเดินทางออกจากมักก๊ะฮฺนี้เปรียบเหมือนการเดินทางของวิญญาณที่ออกจากร่างมนุษย์  ทุ่งมินาเปรียบเสมือนโลกแห่งสุสานที่วิญญาณทุกดวงไปพักเพื่อรอวันสิ้นโลก

เช้าวันที่ 9 ผู้ทำฮัจญ์นับล้านคนที่ค้างแรมที่ทุ่งมินาต้องออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ทุ่งอะเราะฟะฮฺเป็นระยะทาง 18 ก.ม.เพื่อไปชุมนุมกันที่นั่นในตอนบ่าย  การมาชุมนุมที่นี่ถือเป็นจุดสำคัญของการทำพิธีฮัจญ์  ใครไม่ได้มายังสถานที่แห่งนี้ตามเวลาที่กำหนดไว้ถือว่าไม่ได้มาทำฮัจญ์

การออกจากทุ่งมินาไปชุมนุมกันที่ทุ่งอะเราะฟะฮฺเป็นเหมือนกับการบอกให้มนุษย์รู้ว่าเมื่อวันอวสานมาถึง  ทุกชีวิตตั้งแต่คนแรกถึงคนสุดท้ายต้องไปปรากฏตัวต่อหน้าพระเจ้าเพื่อรับการพิพากษาจากพระองค์สำหรับสิ่งที่ตัวเองทำไว้  ดังนั้น  ขณะที่อยู่ในทุ่งอะเราะฟะฮฺ  สิ่งที่ผู้ทำฮัจญ์ทุกคนจะทำกันคือการวิงวอนขอการอภัยโทษต่อพระองค์

ในระหว่างพิธีฮัจญ์  ผู้มาชุมนุมในทุ่งอะเราะฟะฮฺมาทั้งร่ายและวิญญาณ  แต่การไปชุมนุมต่อหน้าพระเจ้าในโลกหน้าที่มีวิญญาณมาอย่างเดียวเพื่อรับการพิพากษา  ทุกชีวิตไม่มีโอกาสกลับมาแก้ตัวอีกแล้ว  ดังนั้น เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า  นบีมุฮัมมัดจึงให้ผู้ทำฮัจญ์ทั้งหมดออกจากทุ่งอะเราะฟะฮฺเพื่อไปทำอีกภารกิจหนึ่ง  นั่นคือ การขว้างหินเพื่อระลึกถึงวีรกรรมแห่งความศรัทธาของอับราฮัมที่ต่อสู้กับซาตานเมื่อมันมายั่วยุให้ฝ่าฝืนคำบัญชาของพระเจ้า

นบีมุฮัมมัดต้องการจะสอนมนุษย์ว่า ก่อนวิญญาณจะกลับไปหาพระเจ้าด้วยความปลอดภัย  มนุษย์ต้องต่อสู้และเอาชนะซาตานให้ได้เสียก่อน

ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

Hajj, looking back to the past to reach the future

Banjong Binkasan

After Abraham (Prophet Ibrahim) and Ismail, his firstborn son, finished building the Ka'bah to serve as a place to worship God. Abraham pleaded with God, saying,

“O our Lord! Make us both humble to You. and make our children a nation humble to you. Show us our religious deeds..." (Quran 2.128)

God answered Abraham's request. So Abraham's descendants from Isma'il and Isaac were a nation from which many prophets were born and God told them how to worship Him.

However, Abraham was worried that after he left this world, His descendants might become forgetful and go astray and forget how to worship God. So he appealed to God:

“O our Lord! Please raise up among them a messenger. Who will come to recite to them His signs and teach them the Book and wisdom and purify their lives......” (Quran 2.129)

Abraham's concerns were real. Because after he and Ismail had left this world The Arab descendants of Isma'il had forgotten how to practice religion and had turned to worshiping idols instead of God. But God answered Abraham's plea for a certain Minbi among the Arabs to teach the Book to his descendants by causing Muhammad to be born among the Arabs and receive the Quran from God.

The Prophet Muhammad said that he himself was Abraham's supplication because he had come to tell of the religious practices that Abraham had taught and which his descendants had forgotten.

Hajj is an important religious ceremony. Before the time of Prophet Muhammad Arabs perform the Hajj by circling the Ka'bah in the state of defilement and slaughtering animals to distribute the meat, hoping that people will spread the word that they are charitable and generous. and all ceremonies were confined to Makkah only.

But “Hajj” by language means “Journey to a purpose,” and that purpose is God to which all living things must return. But the journey back to God is a spiritual journey which begins when the soul leaves the body in the future. The Hajj of Prophet Muhammad is therefore performed in such a way as to symbolize the journey of the soul after leaving the human body until the end of time and its assembly before God for judgment.

The Hajj actually lasts for 6 days, starting on the morning of the 8th day of Dhul-Hijjah. About two million Hajj pilgrims from all over the world congregating in Mecca will travel 9 km to the fields of Mina to spend the night there. This journey out of Mecca is like the journey of a soul leaving a human body. The fields of Mina are like a graveyard world where all souls rest to await the end of the world.

On the morning of the 9th, millions of Hajj who had stayed overnight at the Plains of Mina had to travel 18 km towards the Plains of Arafah to gather there in the afternoon. Gathering here is an important point of the Hajj. Whoever does not come to this place at the appointed time is considered not to perform Hajj.

Leaving the fields of Mina and gathering in the fields of Arafah is like informing people of the arrival of the End. Every living being, from the first to the last, must appear before God to face His judgment for what he has done. Therefore, while in the Field of Arafah What every Hajj person does is appeal to Him for forgiveness.

During the Hajj Those who gathered in the Field of Arafah came both physically and spiritually. But gathering before God in the next world, where only spirits come to be judged. Every living thing has no chance to come back and make amends again. So when the sun sets behind the horizon The Prophet therefore sent all the Hajj pilgrims out of the fields of Arafah to perform another task: stoning in remembrance of Abraham's heroic act of faith against Satan when he provoked him to disobey his word. command of god

Prophet Muhammad wanted to teach mankind that before the soul returns to God in safety Man must first fight and defeat Satan.

Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason