หลักฐานการเป็นนบีเริ่มปรากฏ

บรรจง บินกาซัน 

นบีมุฮัมมัดเกิดมาเป็นเด็กกำพร้าพ่อในเมืองมักก๊ะฮฺประมาณ ค.ศ.570 ท่ามกลางสังคมอาหรับยุคอวิชชา   อยู่กับแม่ได้สักพักก็ถูกส่งให้แม่นมชาวอาหรับนอกเมืองรับไปเลี้ยงในทะเลทรายตามประเพณี

การที่ครอบครัวชาวอาหรับฐานะดีส่งทารกไปเลี้ยงดูในทะเลทรายก็เพราะเหตุผลบางประการ เช่น นอกเมืองมักก๊ะฮฺอากาศดีกว่าในเมืองซึ่งจะทำให้ทารกมีสุขภาพดี  เพราะมักก๊ะฮฺเป็นเมืองการค้าที่มีภูเขาล้อมรอบ  การเดินทางเข้าออกของกองคาราวานอาจทำให้สภาพอากาศไม่ดี  อีกประการหนึ่ง เนื่องจากเป็นเมืองที่มีพ่อค้าต่างถิ่นเข้ามาค้าขายและพ่อค้าเหล่านี้ใช้ภาษาตลาดซึ่งอาจมีกระทบต่อภาษาอาหรับเบดูอินที่ชาวอาหรับกุเรชหวงแหน  จึงส่งทารกมุฮัมมัดไปให้แม่นมชื่อฮาลิมะฮฺเลี้ยงดู

อีกเหตุผลหนึ่งที่นักวิชาการตะวันตกพยายามจะอธิบายประเพณีดังกล่าวก็คือ ชาวอาหรับจะเอาทารกที่มีรูปร่างผิดปกติหรือร่างกายมีตำหนิที่ทำให้พ่อแม่คิดว่าทารกของตัวเองจะไม่รอดไปให้คนเลี้ยงนอกเมือง  ทารกมุฮัมมัดเกิดมามีก้อนเนื้อคล้ายปานปูดขึ้นมาระหว่างไหล่สองข้าง  จึงเป็นเสมือนตำหนิที่ทำให้ถูกส่งไปเลี้ยงในทะเลทราย  แต่นักวิชาการตะวันตกหารู้ไม่ว่านั่นคือเครื่องหมายของการเป็นนบี 

เด็กน้อยมุฮัมมัดถูกส่งกลับมาสู่อ้อมอกแม่อีกครั้งตอนอายุประมาณ 4 ขวบ  แม่ลูกอยู่ด้วยกันสักสองปี  นางอามินะฮฺคิดถึงอับดุลลอฮฺสามีของนางที่ร่างถูกฝังไว้ที่เมืองยัษริบ  นางจึงพาลูกน้อยไปเยี่ยมสุสานของสามีโดยมีอุมมุอัยมันหญิงรับใช้ติดตามไปด้วย

หลังจากเยี่ยมหลุมศพของสามีแล้ว  นางอามินะฮฺได้เสียชีวิตลง  มุฮัมมัดจึงกลายเป็นเด็กกำพร้าทั้งพ่อและแม่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ  อุมมุอัยมันจึงนำเด็กชายมุฮัมมัดกลับมายังมักก๊ะฮฺ  แต่เนื่องจากอับดุลมุฏอลิบผู้เป็นปู่ตายไปแล้ว  เด็กชายมุฮัมมัดจึงต้องไปอยู่กับอบูฏอลิบผู้เป็นลุงโดยมีอุมมุอัยมันเป็นผู้เลี้ยงดูด้วยความรัก

แม้อบูฏอลิบเป็นผู้นำคนหนึ่งในเมืองมักก๊ะฮฺ  แต่เขามีอาชีพทำการค้าที่ต้องนำกองคาราวานสินค้าจากมักก๊ะฮฺไปขายที่ซีเรียและซื้อสินค้าที่นั่นกลับมาขายต่อในเมืองมักก๊ะฮฺ  วันหนึ่ง  ขณะที่เขาเตรียมกองคาราวานนำสินค้าไปขาย  เด็กชายมุฮัมมัดขอที่จะเดินทางไปกับกองคาราวานด้วย  แต่ในตอนนั้น มุฮัมมัดเพิ่งมีอายุได้ 12 ปี  อบูฏอลิบจึงไม่อนุญาต  แต่ในที่สุดเขาก็ต้องยอมเมื่อทนการรบเร้าจากหลานไม่ไหว

ระหว่างทางก่อนถึงซีเรีย  กองคาราวานของอบูฏอลิบต้องผ่านที่พำนักของนักบวชคริสเตียนชื่อบะฮีเราะฮ์เป็นประจำ  แต่คราวนี้  บะฮีเราะฮ์ได้ออกมาดักกองคาราวานของเขาไว้และเชิญคนในกองคาราวานดื่มน้ำ  หลังจากทุกคนดื่มน้ำแล้ว  นักบวชถามอบูฏอลิบว่ายังมีใครที่ยังไม่ได้ดื่มน้ำอีกไหม  อบูฏอลิบว่ามุฮัมมัดหลานชายของเขาอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ดื่มเพราะต้องดูแลอูฐ  บะฮีเราะฮ์จึงขอให้เขาเรียกหลานชายเข้ามา

บะฮีเราะฮ์ดักกองคาราวานไว้เพราะเขาสังเกตเห็นว่าขณะที่กองคาราวานกำลังเคลื่อนที่ใกล้เข้ามายังสถานที่ของเชา มีเมฆก้อนหนึ่งลอยตามกองคาราวานเหมือนกับจะบังแสงแดดให้ใครบางคนในกองคาราวาน  เขาจึงเห็นว่านี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมดา

เมื่อเด็กชายมุฮัมมัดเข้ามาหา  บะฮีเราะฮ์จึงขอถามอะไรบางอย่างกับเด็กน้อยและขึ้นต้นคำถามด้วยคำสาบานต่ออัลลาตและอุซซา  แต่คำสาบานของเขาทำให้เด็กชายมุฮัมมัดโกรธ  เพราะเขาไม่ชอบให้ใครสาบานกับเขาด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นนอกจากอัลลอฮฺ  ด้วยท่าทีเช่นนี้  บะฮีเราะฮ์จึงเริ่มมันใจในสิ่งที่เขารู้มาจากคัมภีร์ก่อนๆ

หลังจากนั้น  เมื่อเขาสังเกตเห็นปานที่ปูดขึ้นมาระหว่างไหล่สองข้างของมุฮัมมัด  เขาจึงแน่ใจว่าเด็กคนนี้คือนบีที่ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ที่เขาศึกษามา  เขาจึงบอกอบูฏอลิบว่ามุฮัมมัดจะเป็นนบีที่คัมภีร์ก่อนหน้านี้กล่าวไว้และให้เขาปกป้องดูแลหลานของเขา เพราะเขาจะถูกต่อต้านจนต้องหนีออกจากเมืองมักก๊ะฮฺ

สี่สิบปีหลังจากนั้น  สิ่งที่นักบวชบะฮีเราะฮ์พูดล่วงหน้าไว้ก็เป็นจริง

ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

Evidence of being a prophet began to appear.

Banjong Binkasan

The Prophet Muhammad was born as a fatherless child in Mecca around 570 AD in the midst of an Arab society in the age of ignorance. After staying with his mother for a while, he was sent to an Arab nurse outside the city to be raised in the desert according to tradition.

Well-to-do Arab families send babies to be raised in the desert for a few reasons. For example, the weather outside of Mecca is better than in the city, which makes the baby healthy. Because Makkah is a commercial city surrounded by mountains. Traveling in and out of the caravan can be affected by bad weather. Another thing This was because it was a city where foreign merchants came to trade and these merchants used a market language which may have affected the Bedouin Arabic language that the Quraysh Arabs cherished. So he sent the baby Muhammad to be raised by a governess named Halimah.

Another reason why Western scholars have tried to explain the tradition is that Arabs would take babies with deformities or physical defects that made the parents think their babies would not survive and give them to someone to raise outside of the city. Baby Muhammad was born with a birthmark-like lump growing between his shoulders. Therefore it is like a flaw that causes them to be sent to be raised in the desert. But Western scholars do not know that this is the mark of being a prophet.

Baby Muhammad was reunited with his mother when he was about 4 years old. Mother and son lived together for two years. Mrs. Aminah thought of her husband Abdullah, whose body was buried in Yathrib. So she took her little child to visit her husband's tomb, accompanied by her female servant Ummuayman.

After visiting her husband's grave Mrs. Aminah has passed away. Muhammad became orphaned by both his father and mother at the age of 6 years. So Ummuayman brought the boy Muhammad back to Mecca. But because Abdul Muttalib, the grandfather, had passed away. The boy, Muhammad, therefore went to live with his uncle Abu Talib and was lovingly cared for by Ummuayman.

Although Abu Talib was one of the leaders in Makkah But he had a trade in which he had to take caravans of goods from Mecca to sell in Syria and buy goods there and return to sell in Mecca. One day, while he was preparing the caravan to take goods to sell, The young boy, Muhammad, asked to travel with him in the caravan, but Muhammad was only 12 years old at the time, so Abu Talib would not allow him. But in the end, he had to give in when he couldn't stand his grandson's urging.

On the way before reaching Syria Abu Talib's caravan regularly passed by the residence of a Christian cleric named Bahirah. But on this occasion, Bahirah intercepted his caravan and invited its men to drink water. After everyone has drank water The priest asked Abu Talib if there was anyone who had not yet drunk the water. Abu Talib said that another of his grandsons, Muhammad, did not drink because he had to take care of the camels. Bahirah then asked him to call in his grandson.

Bahirah intercepted the caravan because he noticed that the caravan was approaching Shao's place. A cloud floated along the caravan as if blocking the sunlight from someone in the caravan. He saw that this was not an ordinary phenomenon.

When the boy Muhammad approached Bahirah then asked the little boy something and began his question with an oath to Allat and Uzza. But his oath angered the boy Muhammad. Because he does not like anyone to swear by anything other than Allah. With an attitude like this Bahirah then became convinced of what he had learned from the previous scriptures.

Then he noticed the birthmark that had grown between Muhammad's shoulders. He was sure that this boy was the prophet mentioned in the scriptures he had studied. So he told Abu Talib that Muhammad would be the prophet mentioned earlier and that he should protect his grandson. Because he would be opposed to the point of having to flee from Makkah.

Forty years later What the Bahirah had said in advance came true.

Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason