บรรจง บินกาซัน
ในเมืองยัษริบนอกจากจะมีชาวอาหรับพื้นเมืองอาศัยอยู่แล้ว ยังมีชาวบนีอิสรอ-อีลหรือยะฮูดีย์สามเผ่ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่นอกเมืองในเขตที่เรียกว่าค็อยบัรฺซึ่งอยู่ห่างจากเมืองยัษริบ(หรือมะดีนะฮฺ)ไปทางเหนือประมาณ 150 ก.ม. ชาวยะฮูดีย์เหล่านี้อพยพมาจากเมืองเยรูซาเล็มที่ถูกกองทัพโรมันโจมตีและทำลายใน ค.ศ.70
ค็อยบัรฺเป็นโอเอซิสหรือพื้นที่ในทะเลทรายที่สามารถทำการเกษตรได้เพราะมีต้นไม้และน้ำ ชาวบนีอิสรอ-อีลจึงมีอาชีพทำเกษตรและค้าขาย ส่วนหนึ่งเป็นช่างฝีมือก็จะทำเครื่องใช้และอาวุธ ความมั่งคั่งร่ำรวยที่สะสมได้ก็จะนำไปปล่อยกู้เอาดอกเบี้ย เมื่อชนเผ่าอาหรับทำสงครามกัน ชาวบนีอิสรอ-อีลจะขายอาวุธและให้เงินกู้แก่ชาวอาหรับนำไปใช้ในการทำสงคราม ด้วยเหตุนี้ ค็อยบัรฺจึงเป็นพื้นที่ที่มีป้อมปราการหลายแห่ง
ชาวยะฮูดีย์มีความเชื่อในคัมภีร์ของตนว่าพระเจ้าจะส่งนบีคนหนึ่งมาช่วยพวกตน พวกเขาจึงรอคอยบุคคลผู้นี้ แต่เมื่อนบีมุฮัมมัดนำคัมภีร์กุรอานมาอ่านให้ชาวยะฮูดีย์รู้ว่าคนที่พวกเขารอคอยนั้นคือท่าน ชาวยะฮูดีย์ไม่เชื่อ เพราะพวกเขาถือว่าคนที่จะเป็นนบีต้องเป็นพวกบนีอิสรอ-อีลเท่านั้น ไม่ใช่ชาวอาหรับที่พวกเขาถือว่าเป็นชนชาติไร้คัมภีร์
แม้จะมีเชื้อสายและภูมิหลังที่คล้ายกัน แต่ในบางครั้งที่ชาวยะฮูดีย์เกิดความขัดแย้งกันถึงขั้นสู้รบ ชาวยะฮูดีย์ก็จะไปเรียกพันธมิตรชาวอาหรับมาช่วย ในทำนองเดียวกัน เมื่อชนเผ่าอาหรับทำสงครามกัน เผ่ายะฮูดีย์ที่เป็นพันธมิตรก็จะเข้ามาช่วยรบ
หลังการทำสนธิสัญญาสงบศึกฮุดัยบียะฮฺ สาวกสายเหยี่ยวบางคนของนบีมุฮัมมัดมองว่ามุสลิมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ชาวยะฮูดีย์เองก็มองว่ามุสลิมอ่อนแอ ด้วยเหตุนี้ ชาวยะฮูดีย์จึงหาทางที่จะรุกรานมุสลิม ขณะเดียวกัน เมื่อชาวกุเรชแห่งมักก๊ะฮฺผิดสัญญาและยกพลมาปิดล้อมเมืองยัษริบเพื่อกำจัดนบีมุฮัมมัด พวกยะฮูดีย์ได้เข้ามามีส่วนในการทำสงครามครั้งนี้ด้วย สงครามครั้งนี้จึงถูกเรียกว่าสงครามสหพรรค
แม้จะนำกำลังนักรบมาจำนวนมากและปิดล้อมเมืองยัษริบเป็นแรมเดือน แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเพราะนบีมุฮัมมัดได้ขุดสนามเพลาะที่ลึกและกว้างเป็นแนวป้องกันตามคำแนะนำของซัลมานชาวเปอร์เซียที่หันมารับอิสลาม สงครามครั้งนี้จึงถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสงครามสนามเพลาะ
หลังจากปิดล้อมอยู่เป็นเวลานาน กองทัพจากมักก๊ะฮฺต้องล่าถอยกลับเมื่อถูกพายุพัดกระหน่ำจนกระโจมที่พักและเสบียงที่นำมากระจัดกระจาย หลังจากนั้น ชาวมักก๊ะฮฺก็ไม่เคยมารุกรานเมืองยัษริบอีกเลย
เมื่อผู้รุกรานจากภายนอกถอยทัพไปแล้ว นบีมุฮัมมัดก็หันมาจัดการปัญหาภายในด้วยการขับไล่พวกยะฮูดีย์ที่อาศัยอยู่ในเมืองยัษริบออกไป แต่ถิ่นฐานหลักของพวกยะฮูดีย์อยู่ที่ค็อยบัรฺซี่งประกอบด้วยป้อมที่ชาวยะฮูดีย์แต่ละเผ่าแต่ละก๊กสร้างไว้ป้องกันตัวเอง
นบีมุฮัมมัดได้นำกำลังไปปิดล้อมและยึดป้อมของชนเผ่ายะฮูดีย์ที่ละป้อมได้เป็นผลสำเร็จภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
เนื่องจากค็อยบัรฺเป็นแหล่งเพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะสวนอินทผลัม ท่านหญิงอาอิชะฮฺภรรยาคนหนึ่งของนบีมุฮัมมัดถึงกับเอ่ยปากว่านางไม่เคยกินอิทผลัมที่ไหนได้อย่างจุใจเท่ากับกินที่ค็อยบัรฺ แม้พิชิตนิคมชาวบนีอิสรอ-อีลได้แล้ว นบีมุฮัมมัดเห็นว่าพวกยะฮูดีย์มีความเชี่ยวชาญทางด้านเพาะปลูก ดังนั้น ท่านจึงทำข้อตกลงให้ชาวยะฮูดีย์ทำการเพาะปลูกในนิคมค็อยบัรฺต่อไป แต่ผลผลิตที่ได้ต้องแบ่งให้มุสลิมครึ่งหนึ่ง
การพิชิตค็อยบัรฺได้ทำให้นบีมุฮัมมัดมีอำนาจในเมืองยัษริบอย่างสมบูรณ์ อาณาเขตของเมืองยัษริบขยายกว้างออกไป ทรัพย์สินและอาวุธของพวกยะฮูดีย์ซึ่งมุสลิมยึดได้เป็นจำนวนมากทำให้มุสลิมมีความมั่งคั่งขึ้น
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
War with the tribe of Bani Israel-'il (Yahudi)
Banjong Binkasan
In Yathrib, in addition to the native Arabs living there. There were also three tribes of Bani Israel or Judah who settled outside the city in a region called Khaybar, which is some distance from Yathrib (or Madinah). About 150 km north, these Judaizers had migrated from Jerusalem, which had been attacked and destroyed by the Roman army in 70 AD.
Khaybar is an oasis or area in the desert where agriculture is possible because of trees and water. The people of Bani Isra-el have a career in farming and trading. Some are craftsmen who make tools and weapons. The accumulated wealth will be lent out for interest. When the Arab tribes fought with each other The people of Israel would sell weapons and give loans to the Arabs to use in their wars. As a result, Khaybar was a fortified area.
The Judaizers believed in their scriptures that God would send a prophet to help them. So they waited for this person. But when the Prophet Muhammad brought the Quran and read it to the Jews, they knew that the person they were waiting for was him. The Judaizers did not believe Because they considered that people who would become prophets must only be from the tribe of Israel. It was not the Arabs who they considered to be an unscriptural people.
Despite similar lineage and background But at times the Judaizers clashed with each other to the point of fighting. The Judaizers would go and call their Arab allies to help. In the same way When the Arab tribes fought with each other Allied tribes of Judah would come to help fight.
After the Hudaybiyyah peace treaty Some hawkish followers of the Prophet Muhammad view Muslims as being at a disadvantage. The Judaizers also viewed the Muslims as weak. Therefore, the Judaizers sought to invade the Muslims. Meanwhile, when the Quraysh of Mecca broke their promise and besieged Yathrib, Eliminate Prophet Muhammad The Judaizers also took part in this war. This war is therefore called the United Party War.
Even though they brought a large force of warriors and besieged Yathrib for a month, But it was unsuccessful because the Prophet Muhammad dug deep and wide trenches as a defensive line on the advice of Salman the Persian who converted to Islam. This war is therefore also called trench warfare.
After being surrounded for a long time The army from Mecca retreated when a storm hit their tents and scattered the supplies they had brought. After that, the Meccans never invaded Jathrib again.
When the invaders from outside had retreated Prophet Muhammad then turned to dealing with internal problems by expelling the Judaizers who lived in Yathrib. But the main settlement of the Jews was at Khaybar, which consisted of forts built by each tribe and kingdom of the Jews to protect themselves.
The Prophet Muhammad led his forces to besiege and capture the forts of the Judahites and succeeded in capturing each fortress within a few weeks.
Because Khaybar is a fertile cultivation area, especially date palm orchards. Lady Aishah, one of the Prophet Muhammad's wives, even said that she had never eaten dates as satisfyingly as she did at Khaybar. Even though they had conquered the Bani-Israel settlements Prophet Muhammad saw that the Jews were skilled in farming, so he made an agreement for the Jews to continue cultivating the Khaybar settlement. But the produce must be divided among the Muslims in half.
The conquest of Khaybar gave Prophet Muhammad complete power in Yathrib. The territory of Yathrib expanded. The wealth and weapons of the Jews which the Muslims seized in large quantities increased the wealth of the Muslims.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น