บรรจง บินกาซัน
หลังจากการบุกโจมตีเมืองยัษริบ(มะดีนะฮฺ)ครั้งใหญ่ที่สุดของชาวมักก๊ะฮฺในสงครามสหพรรคประสบความล้มเหลวและเผ่ายิวที่คิดคดทรยศมุสลิมถูกปราบปรามแล้ว นบีมุฮัมมัดก็คิดที่จะยึดมักก๊ะฮฺคืนเพื่อทำให้ก๊ะอฺบ๊ะฮฺเป็นสถานที่เคารพสักการะพระเจ้าที่แท้จริงแต่เพียงพระองค์เดียว
เดิมที ก๊ะอฺบ๊ะฮฺเป็นสถานที่ที่พระเจ้าสั่งให้อับราฮัมสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เคารพสักการะพระองค์แต่เพียงผู้เดียว แต่ต่อมา ด้วยความหลงผิด ชาวอาหรับผู้เป็นลูกหลานของอับราฮัมได้นำเอารูปเคารพมากมายมาตั้งในก๊ะอฺบ๊ะฮฺและบูชารูปเคารพเหล่านั้น แต่เมื่อนบีมุฮัมมัดได้รับคำบัญชาจากพระเจ้าให้มาประกาศว่า “ไม่มีสิ่งใดที่คู่ควรแก่การเคารพสักการะนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียว” นบีมุฮัมมัดก็ถูกต่อต้าน ถูกคว่ำบาตรและถูกวางแผนลอบสังหารจนต้องอพยพจากมักก๊ะฮฺไปยังเมืองยัษริบ
หลังการทำสนธิสัญญาสันติภาพในปี ฮ.ศ.6 ฝ่ายมักก๊ะฮฺได้ทำลายสัญญาโดยพันธมิตรของเผ่ากุเรชได้โจมตีพันธมิตรของมุสลิม ดังนั้น นบีมุฮัมมัดจึงสั่งประกาศรวมพลเพื่อพร้อมทำสงคราม
วันที่ 10 เดือนเราะมะฎอน ฮ.ศ.8 นบีมุฮัมมัดพร้อมกับสาวกจำนวน 10,000 คนซึ่งเป็นการรวมพลครั้งใหญ่ที่สุดออกเดินทางสู่มักก๊ะฮฺโดยทุกคนถือศีลอด แต่ก่อนถึงเมืองมักก๊ะฮฺ ท่านได้ละศีลอดให้สาวกได้เห็น สาวกจึงละศีลอดตามท่าน ในตอนกลางคืน นบีมุฮัมมัดได้สั่งสาวกของท่านให้จุดกองไฟบนเนินเขารอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺให้มากที่สุดเพื่อลวงตาชาวมักก๊ะฮฺว่าฝายมุสลิมมีจำนวนมาก
เมื่ออบูซุฟยานหนึ่งในหัวหน้าชาวมักก๊ะฮฺรู้ข่าวการมาของนบีมุฮัมมัด เขาจึงออกมาสังเกตการณ์และถูกจับกุมตัวมาหานบีมุฮัมมัด เมื่อเห็นกองทัพมุสลิมและกำลังพลของเผ่าต่างๆเดินผ่านหน้านบีมุฮัมมัด เขารู้ว่าฝ่ายมักก๊ะฮฺไม่อาจต้านทานได้ เขาจึงเข้ารับอิสลามทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของนบีมุฮัมมัด หลังจากนั้น นบีมุฮัมมัดได้อนุญาตให้เขากลับเข้าไปยังมักก๊ะฮฺ
มักก๊ะฮฺมีทางเข้าสี่ทาง นบีมุฮัมมัดสั่งสาวกของท่านให้กระจายกำลังกันเข้ามักก๊ะฮฺทุกทาง ท่านกำชับสาวกของท่านมิให้ทำร้ายชาวเมืองถ้าไม่มีการต่อต้าน และเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่อบูซุฟยานหัวหน้าชาวเมืองมักก๊ะฮฺ นบีมุฮัมมัดได้ประกาศว่าใครที่ต้องการความปลอดภัย ให้ไปอยู่ในบ้านของอบูซุฟยาน แม้จะมีคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งต่อต้าน แต่ก็ถูกปราบจนสงบ
เมื่อเข้าเมืองมักก๊ะฮฺได้ นบีมุฮัมมัดจะเข้าไปในอาคารก๊ะอฺบ๊ะฮฺ แต่เนื่องจากประตูก๊ะอฺบ๊ะฮฺปิดอยู่และกุญแจประตูอยู่ในการดูแลของชาวมักก๊ะฮฺตระกูลหนึ่ง ท่านจึงสั่งให้เอากุญแจมาเปิด และเมื่อเปิดแล้ว ท่านได้คืนกุญแจประตูก๊ะฮฺบ๊ะฮฺให้แก่ผู้ถือกุญแจ ด้วยการปฏิบัติเช่นนั้น ทุกวันนี้ กุญแจประตูเข้าก๊ะฮฺบ๊ะฮฺจึงอยู่ในการดูแลของคนในตระกูลนี้ตลอดมา แม้กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียในปัจจุบันจะเข้าไปในก๊ะอฺบ๊ะฮฺก็ต้องไปขอกุญแจจากคนดูแลกุญแจในตระกูลนี้
ข้างผนังด้านในก๊ะอฺบ๊ะฮฺนอกจากมีรูปเคารพมากมายแล้ว บนผนังยังมีรูปวาดนบีอิบรอฮีมและอิสมาอีล และรูปวาดทูตสวรรค์ตามจินตนาการของชาวอาหรับด้วย นบีมุฮัมมัดได้สั่งลบรูปวาดดังกล่าวและทำลายรูปเคารพทั้งหมด แต่เทวรูปฮุบัลซึ่งถูกถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งมักก๊ะฮฺทำด้วยหินขนาดสูงใหญ่ นบีมุฮัมมัดไม่สามารถทุบทำลายด้วยตัวเอง ท่านจึงสั่งให้สาวกคนหนึ่งปีนขึ้นไปบนบ่าเทวรูปและทุบทำลายโดยที่ไม่มีชาวมักก๊ะฮฺคนใดเข้ามาขัดขวาง
ขณะที่ชาวเมืองมักก๊ะฮฺยืนนิ่งรอดูว่านบีมุฮัมมัดจะทำอะไรต่อไป พวกเขาคิดว่านบีมุฮัมมัดจะลงโทษแก้แค้นคนที่ทำร้ายท่านและมุสลิม นบีมุฮัมมัดได้ถามอบูซุฟยานถึงเหตุผลที่เขายอมรับอิสลาม เขาตอบว่า ”มันชัดเจนแล้วว่ารูปเคารพเหล่านั้นไม่มีอำนาจใดๆ พระเจ้าที่แท้จริงคืออัลลอฮฺ” ดังนั้น นบีมุฮัมมัดจึงถามชาวมักก๊ะฮฺว่า “พวกท่านหวังอะไรจากฉันในวันนี้?”
ชาวมักก๊ะฮฺตอบว่า “ความเมตตา โอ้ นบีของอัลลอฮฺ เราไม่หวังสิ่งใดนอกจากความดีจากท่าน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นบีมุฮัมมัดจึงกล่าวว่า “วันนี้ฉันจะพูดกับท่านเหมือนกับที่ยูซุฟ(โยเซฟ)พูดกับพวกพี่ๆของเขา ฉันจะไม่ทำร้ายพวกท่านและอัลลอฮฺจะให้อภัยพวกท่านเพราะพระองค์เป็นผู้ทรงเมตตาและเป็นผู้ที่ทรงรัก ไปได้แล้ว พวกท่านเป็นอิสระ”
หลังจากพิชิตมักก๊ะฮฺแล้ว นบีมุฮัมมัดยังคงอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสิบวันในเดือนเราะมะฎอนก่อนเดินทางกลับสู่เมืองมะดีนะฮฺ
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Conquering nothing is as great as conquering people's hearts.
Banjong Binkasan
After the largest Meccan siege of Jathrib (Madinah) in the United War failed and the Jewish tribes that had conspired to betray the Muslims were suppressed. Prophet Muhammad also thought of recapturing Mecca and making it a place of worship for the only true God.
The Ka'bah was originally a place that God ordered Abraham to build as a place of worship for Him alone. But later, due to delusion, The Arab descendants of Abraham brought many idols and placed them in the Ka'bah and worshiped them. But when Prophet Muhammad received a command from God to proclaim: “There is nothing worthy of worship except Allah alone,” Prophet Muhammad was opposed. Was excommunicated and was plotted to assassinate and had to migrate from Makkah to Yathrib.
After a peace treaty was made in the year 6 A.H., Mecca broke the treaty by the Quraish alliance attacking the Muslim alliance. Therefore, Prophet Muhammad ordered the assembly of the troops ready for war.
On the 10th day of Ramadan 8, Prophet Muhammad along with 10,000 followers, the largest gathering ever, set out for Mecca, all fasting. But before reaching Makkah He broke his fast for his disciples to see. The disciples then broke their fast and followed him. At night, the Prophet Muhammad ordered his disciples to light as many bonfires on the hills surrounding the Ka'bah in order to deceive the people of Mecca that there were many Muslims.
When Abu Sufyan, one of the chieftains of Mecca, heard the news of the arrival of the Prophet Muhammad. So he came out to observe and was captured and brought to the Prophet Muhammad. When he saw the Muslim army and soldiers of various tribes marching in front of the Prophet Muhammad, He knew that the Meccan side could not resist. He accepted Islam even though he had previously been a fierce enemy of the Prophet Muhammad. After that, the Prophet allowed him to return to Mecca.
Makkah has four entrances. The Prophet Muhammad ordered his followers to disperse their forces to Makkah from every direction. He instructed his disciples not to harm the people of the city if there was no resistance. and to honor Abu Sufyan, the chief of Makkah. Prophet Muhammad has declared that whoever needs safety to live in the house of Abu Sufyan Even though there is a small group of people opposing it. But it was subdued until it was peaceful.
When entering Makkah Prophet Muhammad will enter the Ka'bah building. But because the door of the Ka'bah was closed and the key of the door was in the care of a Makkah family. So he ordered the key to be opened. and when opened He returned the key to the door of the Kahabah to the key holder. Because of this practice, today the key to the door to the Ka'bah is always in the care of this family. Even if the current King of Saudi Arabia enters the Ka'bah, he must ask for the keys from the key keeper of this family.
Along the inner wall of the Ka'bah, there are many idols. On the walls there are also paintings of Prophets Ibrahim and Ismail. and drawings of angels according to the imagination of the Arabs as well The Prophet Muhammad ordered the painting to be removed and all idols destroyed. But the idol of Hubal, considered to be the god of Makkah, was made of a large stone. Prophet Muhammad could not destroy it by himself. He ordered one of his disciples to climb onto the shoulder of the idol and destroy it without any Meccan people interfering.
Meanwhile the people of Makkah stood still, waiting to see what the Prophet Muhammad would do next. They thought that Prophet Muhammad would take revenge on those who had harmed him and Muslims. Prophet Muhammad asked Abu Sufyan the reason for his acceptance of Islam. He replied, “It is clear that the idols have no power. The true God is Allah.” So the Prophet Muhammad asked the people of Makkah: “What do you expect from me today?”
The people of Makkah replied, “Mercy, O Prophet of Allah. We expect nothing but goodness from you.”
When he heard that Prophet Muhammad then said: “Today I will speak to you as Yusuf (Joseph) spoke to his brothers. I will not harm you and Allah will forgive you, for He is the Most Merciful and the Lover. Go now, you are free.”
After conquering Makkah Prophet Muhammad remained there for ten days in the month of Ramadan before returning to Medina.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น