ปฏิบัติการมารเปลื้องผ้า

บรรจง บินกาซัน

ความละอายเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ติดตัวมนุษย์ทุกคนมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์และเป็นคุณสมบัติที่ไม่เพียงแต่แยกมนุษย์ออกจากสัตว์เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ใช้แยกคนดีออกจากคนชั่วด้วย คัมภีร์ทางศาสนาให้ความรู้และแง่คิดในเรื่องนี้แก่เราเป็นอย่างดี


คัมภีร์กุรอานกล่าวไว้ว่าเมื่อพระเจ้าสร้างอาดัมและอีฟขึ้นมาเป็นบรรพบุรุษของมนุษยชาติแล้ว พระองค์ได้ทรงสอนความรู้ต่างๆให้แก่อาดัม ด้วยความรู้ที่ได้จากพระเจ้านี้เองที่ทำให้สถานะของอาดัมสูงส่งจนพระเจ้าได้สั่งให้ทุกสรรพสิ่งกราบสยบนบนอบต่ออาดัม แต่อิบลีสหัวหน้าซาตานมารร้ายไม่ยอมทำตามคำบัญชาของพระเจ้า มันจึงต้องถูกลงโทษ

แต่ด้วยความริษยาอาดัม มันได้ขอต่อพระเจ้าเป็นเชิงท้าทายว่า ถ้าพระองค์ประวิงเวลาการลงโทษมันไว้จนถึงวันสิ้นโลก มันจะพิสูจน์ให้พระองค์เห็นว่ามนุษยชาติลูกหลานของอาดัมที่พระองค์ทรงยกย่องเหนือมันนั้น มีน้อยคนนักที่จะเชื่อฟังและกตัญญูต่อพระองค์

พระเจ้ารับคำขอของมันและส่งมันมายังโลกนี้พร้อมกับอาดัมและอีฟ แต่ก่อนที่พระองค์จะส่งอาดัมและอีฟลงมา พระองค์ได้กำชับคนทั้งสองว่าอิบลีสจะเป็นศัตรูของเขาทั้งสองและลูกหลานไปจนถึงวันสิ้นโลก ดังนั้น จงอย่าเชื่อฟังมัน แต่จงเชื่อฟังพระองค์

ยังไม่ทันที่อาดัมและอีฟจะถูกส่งมายังโลกใบนี้ ขณะที่อยู่ในสวนสวรรค์ อิบลีสก็กระซิบกระซาบในหัวอกของคนทั้งสองว่าเหตุผลที่พระเจ้าห้ามเขาทั้งสองเข้าใกล้ต้นไม้ต้องห้ามก็เพราะพระองค์เกรงว่าเขาทั้งสองจะกินผลไม้จากต้นไม้ต้องห้ามต้นนั้นซึ่งจะทำให้เขามีชีวิตนิรันดร

อาดัมและอีฟหลงเชื่ออิบลีสเหมือนกับคนยุคใหม่หลงเชื่อสรรพคุณยาอายุวัฒนะ ทั้งสองเข้าใกล้ต้นไม้ต้องห้ามและเด็ดผลไม้มากิน พลันที่อาดัมและอีฟกินผลไม้เข้าไป เสื้อผ้าของคนทั้งสองก็หลุดออกจากร่าง แต่ด้วยความอาย ทั้งสองจึงรีบหาใบไม้มาปกปิดสิ่งที่พึงสงวนของตน

เรื่องราวการสร้างมนุษย์ตรงนี้บอกให้เรารู้ว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาโดยที่พระเจ้าได้จัดหาเสื้อผ้าให้สวมใส่แล้ว นอกจากนี้ มนุษย์ยังมีความอายเป็นสัญชาติญาณติดตัวมาจนถึงขนาดที่ว่าถ้าเสื้อผ้าหลุดออกจากร่างเมื่อใด สัญชาติญาณแห่งความอายจะสั่งมนุษย์ให้หาทางปกปิดร่างกายทันทีโดยเฉพาะอวัยวะที่พึงสงวน

สัญชาติญาณแห่งความอายเช่นนี้ไม่มีในหมู่สัตว์ ถึงแม้สัตว์จะมีขนเป็นอาภรณ์ปกคลุมร่างกาย แต่กระนั้น มันก็ไม่มีอะไรปิดบังอวัยวะเพศของมัน แต่มนุษย์มิใช่สัตว์ มนุษย์จึงต้องการอาภรณ์ปกปิดอวัยวะทุกส่วนของร่างกายเป็นการบ่งบอกถึงคุณธรรมแห่งความเป็นมนุษย์

เรื่องราวดังกล่าวถูกเล่ามาก่อนแล้วในคัมภีร์ไบเบิล ดังนั้น ผู้หญิงชาวยิวและชาวคริสเตียนจึงแต่งกายปกปิดมิดชิดและมียางอายตามธรรมชาติของเพศหญิง ใครที่มีโอกาสดูภาพยนตร์เรื่องเบนเฮอร์หรือบัญญัติสิบประการคงได้เห็นผู้หญิงในยุคนั้นแต่งกายสอดคล้องกับคำสอนของศาสนา หลังสมัยพระเยซู 570 ปี เรื่องราวการสร้างอาดัมได้ถูกพระเจ้ากล่าวซ้ำอีกครั้งหนึ่งในคัมภีร์กุรอานเพื่อตอกย้ำถึงเรื่องสัญชาติญาณแห่งความอายในตัวมนุษย์

แต่เมื่อโลกเข้าสู่ยุควัตถุนิยมสมัยใหม่ที่มนุษย์ออกกฎและระเบียบต่างๆโดยไม่คำนึงถึงคำสอนของศาสนา ผู้หญิงในประเทศที่เจริญก้าวหน้าทางวัตถุจึงถูกครอบงำด้วยวัฒนธรรมที่พยายามรบเร้าให้ผู้หญิงเปิดเผยเรือนร่างมากขึ้นโดยอาศัยวาทะกรรมและกิจกรรมต่างๆ เช่น “สมัยนิยม” “ความทันสมัย” “แฟชั่น” “การประกวดนางงาม” และอื่นๆอีกสารพัดเป็นข้ออ้าง

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้หญิงตะวันตกจึงเริ่มตกเป็นเหยื่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ การแต่งกายจึงเป็นไปตามแฟชั่นที่นับวันมีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายน้อยลงทั้งๆที่ผลิตผ้าได้มาก แฟชั่นเปลือยกายถูกนำเข้ามาในวงการศิลปะ การบันเทิง การโฆษณา การตลาด และไม่เว้นแม้แต่ในวงการกีฬา กีฬาเทนนิสที่เดิมทีผู้เล่นใส่กางเกงขายาวสีขาว ปัจจุบันกลับกลายเป็นกางเกงขาสั้นจู๋ นักกีฬาวอลเล่ย์บอลล์ชายหาดหญิงใส่ชุดกีฬาปกปิดเนื้อหนังของตัวเองน้อยกว่านักกีฬาชายเสียอีกทั้งๆที่ผิวหนังของผู้หญิงบางกว่าของผู้ชาย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะวาทะกรรม “แฟชั่นกีฬา” “กติกาสมัยใหม่” ที่คนในชาติด้อยพัฒนากล่าวอ้างเพื่อเลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตก

อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมนุ่งน้อยห่มน้อยของตะวันตกไม่สามารถทำลายวัฒนธรรมอิสลามได้ เพราะอิสลามมีคำสอนว่า “ความละอายเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา” และทั้งสองสิ่งนี้จะอยู่คู่กันเป็นฝาแฝด ถ้าสิ่งหนึ่งหายไป อีกสิ่งหนึ่งก็จะหายตามไปด้วย

หลังการปฏิวัติวัฒนธรรมในอิหร่าน พ.ศ.2526 วัฒนธรรมตะวันตกที่เคยครอบงำชาวอิหร่านมานานได้ถูกทำลายลงและถูกวัฒนธรรมอิสลามเข้ามาแทนที่ เมื่อวัฒนธรรมอิสลามแพร่ขยายออกไปทั่วโลกและเข้าไปในยุโรป ชาวตะวันตกจึงเกิดอาการหวั่นวิตกว่าการสวมใส่เสื้อผ้าปกปิดร่างกายมิดชิดคือการกดขี่ทางเพศจนกลายเป็นโรค “อิสลาโมโฟเบีย” หรือโรคกลัวอิสลามขึ้นมา

วัฒนธรรมตะวันตกอาจประสบความสำเร็จในการใช้คำว่า “ศิลปะ” ล่อลวงผู้ชายในยุโรปหรืออเมริกาให้แก้ผ้าถ่ายรูปหมู่ในที่สาธารณะได้ แต่จะไม่มีวันทำเช่นนั้นได้ในชาติมุสลิม

เมื่อไม่สามารถใช้วิธีการล่อลวงได้ ชาติตะวันตกผู้รุกรานจึงหันมา กระทำกับผู้ชายมุสลิมด้วยการบังคับ ภาพการทรมานนักโทษมุสลิมด้วยการเปลือยกายในขณะถูกพันธนาการโดยที่ยังไม่ได้มีการพิพากษาเป็นสิ่งที่บอกว่าพวกพ้องของซาตานยังคงทำหน้าที่ของมันในการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมนุษย์ลงเพื่อแสดงให้พระเจ้าเห็นว่ามันทำถูกต้องแล้วที่ไม่กราบสยบนบนอบต่ออาดัมตามคำบัญชาของพระองค์


ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | 


[ Translate by Google Translate ]

The devil strip

Banjong Binkason


Shame is a feature inherent to all humans since prehistory and features that not only separates humans from animals only. It is also used to separate the good from the wicked. Bible, religious knowledge and ideas on this subject to us as well.

The Quran says that when God created Adam and Eve, the ancestors of humanity now. He taught knowledge to Adam. With the knowledge gained from this is that God made Adam's lofty status as God has ordered all things respectfully revere defeat to Adam. But the head of Satan the devil Iblis refused to follow the commandments of God. It must therefore be punished

But with envy Adam. It is a challenge that is oriented to God. If respite while it maintained until the end of the world. It would prove to him that the human race descendants of Adam that he is exalted above it. There are very few people who are obedient and dutiful to Him.

God granted his request, and transmitting it to Earth, along with Adam and Eve. But before he sends Adam and Eve down. He enjoined them to be the enemy of the Iblis and his two sons until the end of the world, so do not obey it. But Obey Him

Not before Adam and Eve are sent to this planet. While in the Garden Iblis whispers into the hearts of both men that the reason God forbid they both approach the forbidden tree because he was afraid that they will eat the fruit from the forbidden tree above it, which would give him eternal life.

Adam and Eve believe Iblis like modern people believe claims elixir. Both approach the forbidden tree and pick fruit to eat. Once Adam and Eve ate the fruit. Clothes of the two had fallen out of the draft. But with shame The two quickly find what they leaf to cover their reserves.

The story of the creation of man, this tells us that man was created by God to provide clothing to wear, then this man is a shame, as instinct bring to the extent that if the clothes off the body when. The instinct of the human eye will immediately seek to conceal the body, especially the organ at all.

The instinct of shame as this is among animals. Even animals have fur garments covering the body but it is nothing obscure parts of it. But humans, not animals Humans need a costume cover every part of the body indicates the virtue of being human.

The story has been told before, in the Bible, women, Jews and Christians wear concealed entirely natural and humiliation of women. I had the opportunity to see the film Ben Hur or The Ten Commandments have seen women dress in accordance with the teachings of the religion. 570 years after the reign of Jesus about creating Adam, God said was repeated in the Quran to stress about the instinct of the human eye.

But when the world entered the age of modern materialism that human rules and regulations, regardless of religious teachings. Women in industrialized object, it is dominated by a culture that seeks Badger women exposed body more by word karma and activities such as "Vogue", "modernization", "style", "Beauty Queen" and more. other goodies as an excuse

When this Western women became victims of modern culture. The dress was the fashion of the day with clothes covering less in spite of the very fabric production. Fashion nudity was imported in the arts, entertainment, advertising, marketing, and even in sports. Tennis player wearing trousers that were originally white. Now it's a very short shorts. Beach volleyball athlete woman wearing sportswear conceal their own flesh than male athletes again in spite of the skin of women than of men. This is because the word karma "Sports Fashion" "Modern rules" that people in underdeveloped nations claim to imitate the western culture.

However, scantily clad of Western culture can not destroy Islamic culture. The Islamic doctrine "Shame is a part of faith," and both of these are a pair of twins. If one thing is missing Another thing, it will disappear as well.

After the Cultural Revolution in Iran in 2526 that Western culture has long been dominated by the Iranian Islamic culture has been destroyed and replaced. When Islamic culture spread around the world and into Europe. The symptoms of West fears that wearing clothes that cover the body entirely sexism into the disease. "Luis Alamo Euphorbia" or fear of Islam up.

Western culture may succeed in using the word "art" enticing men in Europe or America to photograph naked in public. I would never do that in a Muslim country.


When not using a temptation. Western invaders turned. Muslim men to act with force. Pictures of naked Muslim prisoners tortured while bound by a judgment which has not been told what the brothers of Satan continues to serve its trampling of human dignity in order to show that God made it. that's right, do not regard defeat prostrate to Adam by his command.


Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason