บรรจง บินกาซัน
เพราะมนุษย์เกิดมามีทั้งทุกข์และสุขในชาตินี้ มนุษย์จึงมีคำถามอยู่ในใจเสมอว่าชาติก่อนมีผลต่อชาตินี้หรือไม่ และมนุษย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าชาติหน้ามีจริง แต่กระนั้นก็ยังมีบางคนสงสัย หลายคนผิดหวังรักในโลกนี้ แต่ยังอธิษฐานด้วยความหวังว่าหากโลกหน้ามีจริง ขอให้ความรักของตัวเองสมหวัง
เรื่องชาตินี้ วิทยาศาสตร์ยังพออธิบายได้ แต่เรื่องชาติก่อนและชาติหน้าเป็นเรื่องที่พ้นเขตอาณาจักรวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิต วิทยาศาสตร์พอจะอธิบายได้ว่าชีวิตเริ่มต้นจากการปฏิสนธิของตัวสเปิร์มกับไข่ในครรภ์และมีวิวัฒนาการเป็นตัวตนขึ้นมา แต่เมื่อมาถึงความตายซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนการเดินทางของวิญญาณ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก็สิ้นสุดลง
คำถามเรื่องชาติก่อนและชาติหน้าที่เกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์จึงเป็นสิ่งที่แสดงว่าความรู้สึกในเรื่องนี้มีอยู่ในสัญชาติญาณของมนุษย์ แต่เมื่อวิทยาศาสตร์ไม่สามารถให้คำตอบเรื่องนี้ได้ มนุษย์จึงต้องหันมาหาคำตอบจากคำสอนของศาสนาและคำตอบในเรื่องนี้มีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ด้วย การได้รับคำตอบที่ถูกต้องในเรื่องนี้จึงมีความสำคัญต่อมนุษย์
การระลึกชาติว่าตัวเองเป็นใครในชาติก่อนเป็นเรื่องยากต่อการพิสูจน์และไม่ใช่เรื่องของศาสนา เพราะศาสนาเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตในโลกนี้หรือชาตินี้เพื่อผลสำเร็จในชีวิตโลกหน้า
สำหรับคนมุสลิม ถ้าใครกล่าวว่า “ถ้าโลกหน้ามีจริง” นั่นหมายความว่าคนผู้นั้นสงสัยในการมีอยู่จริงของโลกหน้าและถือว่าคนผู้นั้นสงสัยในการมีอยู่ของพระเจ้าด้วยเช่นกัน การสงสัยเช่นนี้สุ่มเสี่ยงต่อการหลุดพ้นจากความเป็นมุสลิม นักวิชาการอิสลามบางคนถือว่าคนที่สงสัยเช่นนี้หลุดพ้นจากความเป็นมุสลิมไปแล้วเสียด้วยซ้ำไป
ความเชื่อในเรื่องโลกหน้าหรือชีวิตหลังความตายมีอยู่ในสัญชาติญาณของมนุษย์มานานแล้ว ศาสนาเพียงแต่มายืนยันว่าความเชื่อเช่นนี้เป็นสิ่งถูกต้อง แต่ต้องเข้าใจให้ถูกด้วยว่าชีวิตโลกหน้าเป็นชีวิตของการตอบแทนผลกรรมที่ทำไว้ในโลกนี้ ถ้าเชื่อถูก แต่เข้าใจผิด ชีวิตก็จะวิบัติดังตัวอย่างของฟาโรห์
ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์โบราณเชื่อว่าชีวิตหลังความตายหรือชาติหน้ามีจริง แต่เขาเข้าใจผิดคิดว่าหลังจากตายแล้ว วิญญาณที่ออกจากร่างไปจะกลับมาเกิดในร่างของเขาในโลกหรือในชาตินี้อีก ด้วยความเชื่อเช่นนี้ เขาจึงสั่งให้เก็บศพของเขาและศพของสัตว์ตัวโปรดไว้ในรูปของของมัมมี่ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังสะสมทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลไว้ขณะยังมีชีวิตในโลกนี้โดยหวังว่าจะกลับมาเสวยสุขอีกหลังความตาย ความเข้าใจผิดในความจริงทำให้เขาโลภไม่สิ้นสุดขณะยังมีชีวิตอยู่
วันนี้ มัมมี่ของฟาโรห์และขุมสมบัติของเขาถูกค้นพบและถูกนำมาแสดงเป็นหลักฐานให้โลกได้รู้ว่าฟาโรห์เข้าใจผิดและทำให้ชีวิตของเขาต้องได้รับความวิบัติ
ความเชื่อในเรื่องโลกหน้าเป็นความเชื่อที่มีอยู่แม้แต่ในอารยธรรมของคนจีนที่เคยเป็นชาติยิ่งใหญ่ในอดีต คนจีนเตรียมตัวสำหรับชีวิตโลกหน้าหรือชาติหน้าตั้งแต่อยู่ในโลกนี้ด้วยการเลือกซื้อที่ดินที่มีทำเลดีไว้สำหรับเป็นหลุมฝังศพของตัวเอง ด้วยความเชื่อเช่นนี้ คนที่มีฐานะการเงินดีเท่านั้นจึงจะสามารถซื้อที่ฝังศพของตัวเองเหมือนกับที่พักตากอากาศสวยหรูริมทะเลได้ หลังจากตายไปแล้ว ลูกหลานยังจะทำพิธีเผากงเต๊กสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในโลกหน้าไปให้ด้วย ชาตินี้จึงต้องมีเงินก่อน ทั้งนี้ เพื่อที่ชีวิตในโลกหน้าจะได้สบาย
คำสอนของทุกศาสนาถูกส่งมายืนยันว่าโลกหน้าหรือชีวิตหลังความตายเป็นความจริงและมีจริง ขณะเดียวกัน คำสอนของศาสนาพยายามที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่มนุษย์ว่าโลกหน้าเป็นโลกของการตอบแทนการกระทำของมนุษย์ด้วยสวรรค์สำหรับคนทำความดีและนรกมีไว้สำหรับคนทำความชั่ว
คำสอนของทุกศาสนายืนยันความเชื่อในเรื่องโลกหน้าหรือชาติหน้าด้วยการใช้ถ้อยคำต่างๆกัน เช่น สวรรค์และนรก วันแห่งการพิพากษา วันแห่งการฟื้นคืนชีพหลังความตาย เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว ทุกศาสนาต่างยืนยันเหมือนกันว่าความดีเท่านั้นที่จะทำให้มนุษย์มีความสุขในชาติหน้า ถ้ามีเงินแล้วใช้เงินไม่ถูกต้อง เงินก็นำความทุกข์และความวิบัติมาให้ได้ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น