บรรจง บินกาซัน
มนุษย์ทุกคนล้วนมีจุดหมายในชีวิต และจุดหมายจะเป็นตัวทำให้มนุษย์ใช้ศักยภาพที่ตัวเองมีอยู่ขับเคลื่อนชีวิตไปสู่จุดหมายนั้น เด็กที่มีจุดหมายจะเข้ามหาวิทยาลัยจะขยันเรียนเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่มหาวิทยาลัย ทำให้พ่อแม่ทำงานส่งเสียอย่างสุดกำลังเพื่อส่งลูกของตัวให้ถึงจุดหมายด้วย
แต่เมื่อเรียนจบแล้ว ในทางสังคมและในชีวิตจริง มหาวิทยาลัยยังมิใช่จุดหมายสุดท้ายของชีวิต มนุษย์ยังมีจุดหมายอื่นๆที่หลายคนอยากจะไปให้ถึงอีก
วิญญาณก็มีจุดหมายปลายทางเช่นกันและจุดหมายนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้วิญญาณดิ้นรนต่อสู้เพื่อบรรลุจุดหมายของตน จุดหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์ ถ้าใครมีสวรรค์เป็นจุดหมายของชีวิตในภพหน้า คนผู้นั้นจะปฏิบัติตัวต่างไปจากคนที่ไม่ต้องการสวรรค์เป็นจุดหมายปลายทาง
แต่สวรรค์ไม่ได้อยู่บนโลกนี้ให้มนุษย์เห็น ดังนั้น ศาสนาจึงบอกทิศทางให้และมีสัญลักษณ์ไว้ให้มนุษย์หันหน้าไปทางทิศนั้น
อิสลามมีคำสอนว่า “แท้จริง เราเป็นของพระเจ้าและเราต้องกลับไปสู่พระองค์” ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงได้สั่งให้อับราฮัม(หรือนบีอิบรอฮีม)สร้าง “ก๊ะอฺบ๊ะฮฺ” ขึ้นที่เมืองมักก๊ะฮฺเพื่อเป็นสถานที่เคารพสักการะพระองค์และเป็นสัญลักษณ์ให้ทุกคนหันมาทางนี้ถ้าต้องการกลับไปหาพระองค์
หลังจากสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺแล้ว อับราฮัมได้เดินทางกลับไปยังปาเลสไตน์และได้สร้างสถานที่เคารพสักการะพระเจ้าขึ้นอีกแห่งหนึ่งหลังจากสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺได้ 40 ปี สถานที่แห่งนี้ คัมภีร์กุรอานเรียกว่า “มัสยิดอัลอักซอ” ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม ต่อมา มัสยิดแห่งนี้ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลาและโซโลมอนผู้เป็นลูกหลานของอับราฮัมได้มาฟื้นฟูบูรณะเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของลูกหลานอิสราเอล ศาสนสถานแห่งนี้จึงถูกเรียกว่า “วิหารแห่งโซโลมอน”
ในตอนสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺ อับราฮัมไม่ได้สร้างคนเดียว เขามี “อิสมาอีล” ลูกชายคนแรกที่เกิดจากนางฮาการ์ภรรยาคนที่สองและกำลังอยู่ในวัยรุ่นคอยช่วยเหลือ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว อับราฮัมได้วิงวอนขอต่อพระเจ้าสามประการ คือ 1) ขอให้เมืองมักก๊ะฮฺเป็นเมืองที่ปลอดภัย 2) ขอให้พระองค์ประทานผลไม้แก่ชาวเมืองมักก๊ะฮฺเพื่อที่ชาวเมืองจะได้กตัญญูต่อพระองค์ และ 3) ขอให้ลูกหลานของเขาเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของมนุษยชาติ
พระเจ้าตอบรับคำวิงวอนของอับราฮัมทั้งสามข้อ ลูกหลานของอับราฮัมได้เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวยิวและชาวคริสเตียน
เนื่องจากวิหารแห่งโซโลมอนในเมืองเยรูซาเล็มเป็นจุดศูนย์กลางทางจิตวิญญาณ พวกลูกหลานอิสราเอลจึงมาชุมนุมกันทำพิธีกรรมทางศาสนาและอธิษฐานต่อพระเจ้าในสถานที่แห่งนี้ และไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน เมื่อถึงเวลาอธิษฐาน พวกลูกหลานอิสราเอลจะหันหน้าไปทางวิหารแห่งโซโลมอน
ค.ศ.70 วิหารแห่งโซโลมอนถูกกองทัพโรมันทำลายไปพร้อมกับเมืองเยรูซาเล็ม พวกลูกหลานอิสราเอลต้องแยกย้ายกระจายกันไปอยู่ในที่ต่างๆ ส่วนหนึ่งมาอาศัยอยู่ในเมืองยัษริบหรือมะดีนะฮฺในคาบสมุทรอาหรับ เมื่อถึงเวลาสวดมนต์ ชุมทิศที่พวกลูกหลานอิสราเอลหรือชาวยิวจะหันหน้าไปก็คือวิหารแห่งโซโลมอน
เมื่อนบีมุฮัมมัดอพยพไปยังเมืองยัษริบ ท่านได้สั่งให้มุสลิมปฏิบัติละหมาดโดยหันหน้าไปทางวิหารโซโลมอนตามพวกลูกหลานอิสราเอลที่มีบรรพบุรุษเป็นศาสนทูตของพระเจ้า แต่เมื่อนบีมุฮัมมัดบอกพวกลูกหลานอิสราเอลว่าท่านเป็นนบีที่ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ของพวกเขาและศาสนาที่ท่านนำมาสั่งสอนนั้นเป็นศาสนาของอับราฮัมและบรรพบุรุษของพวกอิสราเอล แต่พวกอิสราเอลปฏิเสธเพราะถือว่าเผ่าพันธุ์ของตัวเองเหนือกว่าชาวอาหรับ ไม่เพียงเท่านั้น พวกอิสราเอลยังต่อต้านท่านด้วย
ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงสั่งนบีมุฮัมมัดให้หันหน้าไปทางก๊ะอฺบ๊ะฮฺในมักก๊ะฮฺในเวลาละหมาดแทนหันไปทางวิหารโซโลมอนในเยรูซาเล็ม และให้ถือว่าก๊ะอฺบ๊ะฮเป็นชุมทิศ(กิบลัต)ของมุสลิมในเวลาละหมาดนับตั้งแต่นั้นจนถึงวันสิ้นโลก
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Islamic Chums
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น