บรรจง บินกาซัน
หนึ่งในบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์เคารพนับถือกันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ก็คือวัว โดยเฉพาะวัวตัวเมีย ในการขุดค้นทางโบราณคดียุคบาบิโลนก็ยังมีการพบรูปปั้นวัวที่ทำจากปูนและโลหะ การนับถือวัวมีที่มาและเหตุผลต่างๆกัน
ชาวฮินดูนับถือวัวเพราะถือว่าวัวเป็นพาหนะของพระศิวะ นอกจากนี้แล้ว ชาวฮินดูยังถือว่าวัวเป็นสัตว์ที่มีพระคุณต่อการดำรงชีวิตของตนเป็นอย่างมาก เพราะวัวให้ทั้งแรงงาน ให้นม ให้ปุ๋ยและเชื้อเพลิงจากมูลของมัน ดังนั้น การฆ่าสัตว์ที่มีพระคุณมากมายอย่างนี้จึงถือว่าเป็นการเนรคุณและเป็นบาป ในอินเดีย วัวจึงมีอภิสิทธิ์มากมายในท้องถนนโดยไม่มีใครกล้าไปแตะต้อง
ผู้นับถือเจ้าแม่กวนอิมไม่กินเนื้อวัวเพราะความเชื่อที่มีที่มาหลากหลาย แม้แต่แม่ชีที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมบางคนยังบอกว่าความจริงแล้วเนื้อวัวไม่เป็นที่ต้องห้ามสำหรับผู้นับถือเจ้าแม่กวนอิม แต่บางคนไม่กินเนื้อวัวก็เพราะเห็นว่าการฆ่าชีวิตสัตว์ใหญ่เป็นการทารุณ ก็เลยไม่สนับสนุนการฆ่าโดยการไม่กินเนื้อวัว
แต่ในสเปนและบางประเทศเช่น เม็กซิโก วัวตัวผู้กลับถูกฝึกให้ดุเพื่อนำมาต่อสู้กับมาธาดอร์ในสนามสู้วัวและถูกฆ่าอย่างทารุณในที่สุด ถ้าจะว่าวัวตัวผู้ไม่สำคัญเพราะไม่ให้นม แต่ถ้าไม่มีวัวตัวผู้ผสมพันธุ์ วัวตัวเมียก็ไม่สามารถตั้งท้องและออกลูกเป็นวัวตัวเมียได้เช่นกัน
คัมภีร์กุรอานบทหนึ่งมีชื่ออาหรับว่า “อัลบะกอเราะฮฺ” แปลเป็นไทยว่า “วัวตัวเมีย” เพราะในบทนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับพวกลูกหลานอิสราเอลที่หลงผิดอุตริไปบูชารูปปั้นวัวทองคำ
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อนบีมูซา(โมเสส)พาลูกหลานอิสราเอลนับแสนคนอพยพข้ามทะเลแดงมาแล้ว พวกลูกหลานอิสราเอลต้องเร่ร่อนรอนแรมอยู่ในทะเลทรายเป็นเวลานาน แต่ในช่วงเวลาแห่งความลำบากนี้ พระเจ้าได้ประทานความโปรดปรานแก่คนพวกนี้อย่างมากมาย เช่น อาหารจากฟากฟ้าที่เรียกว่า “มันนะ” ซึ่งมีลักษณะคล้ายเม็ดยางที่มีรสหวานและนกคุ่มมาให้กินประทังชีวิต
อยู่มาวันหนึ่ง โมเสสได้ถูกพระเจ้าบัญชาให้ขึ้นไปบนภูเขาซีนายเพื่อรับบัญญัติสิบประการ (โตราห์) ซึ่งเป็นกฎหมายสำหรับจัดระเบียบพวกลูกหลานอิสราเอล ก่อนขึ้นไป โมเสสได้กำชับอาโรน(หรือฮารูน)ผู้เป็นพี่ชายให้ดูแลพวกลูกหลานอิสราเอลแทนตนด้วย เรื่องสำคัญที่สุดที่โมเสสกำชับอาโรนก็คือ “คอยระวังอย่าให้พวกลูกหลานอิสราเอลหันไปกราบไหว้บูชาสิ่งใดนอกไปจากพระเจ้าองค์เดียว”
ในช่วงเวลาสี่สิบวันที่โมเสสขึ้นไปบนภูเขาซีนาย ปรากฏว่าพวกลูกหลานอิสราเอลที่อยู่ข้างล่างได้ถูกชาวซามีรีหลอกให้เอาเครื่องประดับที่ทำจากเงินและทองคำมาหลอมรวมทำเป็นรูปโคทองคำเพื่อกราบไหว้บูชาในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เมื่อโมเสสลงมาจากภูเขาซีนายพร้อมกับแผ่นหินจารึกบัญญัติสิบประการ เขาเห็นพวกลูกหลานอิสราเอลอยู่ในสภาพหลงงมงายถึงขั้นกราบไหว้รูปปั้นโคทองคำ เขาจึงมีอารมณ์โกรธอย่างรุนแรงขึ้นมาทันที ภาพยนตร์เรื่องบัญญัติสิบประการฉายภาพให้เห็นว่าโมเสสโมโหถึงกับทุ่มแผ่นหินจารึกบัญญัติสิบประการลงบนพื้นจนแตกเป็นชิ้นๆ แต่ในคัมภีร์กุรอานกล่าวว่าโมเสสได้ตรงเข้าไปกระชากเคราอาโรนพี่ชายของเขาด้วยความโกรธที่พี่ชายไม่ได้ห้ามปรามพวกลูกหลานอิสราเอลที่กราบไหว้รูปโคทองคำ เพราะการทำเช่นนี้ถือเป็นบาปใหญ่ แต่อาโรนยืนยันว่าเขาพยายามห้ามแล้ว แต่รั้งพวกคนหัวดื้อไว้ไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ โมเสสจึงได้สั่งให้พวกลูกหลานอิสราเอลส่งตัวแทนไปกับเขาเพื่อขอการอภัยโทษต่อพระเจ้าเพราะการหันไปเคารพกราบไหว้รูปปั้นวัวแทนพระเจ้าที่แท้จริง
อาจเป็นเพราะเกรงว่าในอนาคต พวกลูกหลานอิสราเอลอาจจะเคารพบูชาวัวก็เป็นได้ ดังนั้น ในช่วงเวลาที่โมเสสยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าจึงได้กำหนดให้เศรษฐีคนหนึ่งถูกฆ่าและทิ้งมรดกจำนวนมากไว้ให้ลูกชายเพียงคนเดียว แต่ญาติของผู้ตายอยากได้มรดกขึ้นมา จึงฆ่าลูกชายให้ตายตามไป ญาติอีกคนหนึ่งจึงไปหาโมเสสเพื่อขอให้ช่วยตามหาผู้ฆ่า
ดังนั้น โมเสสจึงได้สั่งให้พวกลูกหลานอิสราเอลฆ่าวัวตัวหนึ่งแล้วตัดหางไปวางไว้บนศพของผู้ถูกฆ่าและศพจะบอกเองว่าใครเป็นฆาตกร แต่พวกลูกหลานอิสราเอลพูดล้อเล่นกับโมเสสว่า “พระเจ้าห้ามมิให้พวกเราทำอะไรโง่ๆเช่นนั้น” และพยายามบ่ายเบี่ยงด้วยคำถามจุกจิก เช่น “วัววัยใด” โมเสสจึงตอบว่า “วัยไม่อ่อนและไม่แก่ ไปเลือกมาตัวหนึ่ง” แทนที่จะทำตาม คนพวกนี้ทะลึ่งบอกโมเสสให้ถามพระเจ้าว่า “วัวสีอะไร?” โมเสสจึงตอบว่า “สีเหลือง”
คำถามจุกจิกยังไม่หมด โมเสสจึงสรุปว่าวัวที่จะเชือดต้องเป็นวัวที่ไม่เคยถูกใช้งานและต้องเป็นสีเหลืองปลอดตลอดทั้งตัวโดยไม่มีจุดใดๆเลย
ตอนนี้ เรื่องง่ายๆก็กลายเป็นเรื่องยากเพราะคำถามจุกจิก ถ้าทำเสียตั้งแต่ทีแรกก็จบไปแล้ว ดังนั้น กว่าจะหาวัวที่มีลักษณะดังกล่าวได้ พวกลูกหลานอิสราเอลต้องจ่ายค่าวัวด้วยราคาแพง เข้าตำราเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
เรื่องราวของพวกลูกหลานอิสราเอลถูกบอกเล่าไว้ในคัมภีร์กุรอานเพื่อเปิดโปงนิสัยของคนพวกนี้ที่ล้อเล่นกับพระเจ้าและศาสดาของพระองค์เป็นนิจ ชอบบิดเบือนและทำให้คำสั่งของพระเจ้าเป็นเรื่องยาก หลังจากโมเสสจากโลกนี้ไป ธรรมาจารย์ของคนกลุ่มนี้ได้เขียนคัมภีร์ที่มีคำสอนประหลาดๆของตนขึ้นมาใหม่นอกเหนือไปจากคำสอนของโมเสสซึ่งเมื่ออ่านแล้วสติปัญญาเพียงน้อยนิดก็ไม่อาจยอมรับได้ว่าเป็นคำสอนของศาสนา
และถ้าหากว่าชาวยิวสร้างวิหารขึ้นมาใหม่บนซากของมัสญิดอัลอักซอ พิธีอย่างหนึ่งซึ่งคนพวกนี้ได้จัดเตรียมไว้แล้วก็คือการเชือดพลีวัวสีแดงปลอดทั้งตัว
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Cult cow
Banjong BinkasonOne of the holy man revered since ancient cow is. The heifer In the archaeological excavation of Babylon was also found cow sculpture made of concrete and metal. The cows are coming and respect for different reasons.
For Hindus, the cow is a cow is a vehicle of Lord Shiva. In addition, Hindus consider the cow a benefactor to the livelihood of a lot. Because the cow to provide milk for labor, fuel, fertilizer and manure from their animals to slaughter so many benefactors and therefore constitutes ingratitude is a sin in India cows are so many privileges in the streets without anyone to dare touch.
Anglicans Guanyin not eat beef because of the belief that there is a wide variety. Even the nun revered Guan Yin also said that some real beef is banned for Anglicans Guanyin. But some people do not eat beef because that was the killing a large animal cruelty. I do not support the killing by not eating beef.
But in some countries, such as Mexico, Spain, and the bull was trained to be a fierce fight with the matador in bullfighting and brutally killed in the end. If the bull does not matter because it does not give milk. If no bull breed Heifer was unable to conceive and produce a cow as well.
Quran chapter with the Arab name. "Al Gore Rahman Baba God" means that Thailand is a "cow" because this is a story about the children of Israel went astray unnatural idolatry golden calf.
The story is that when the Prophet Musa (Moses) led the children of Israel across the Red Sea to evacuate hundreds of thousands of people already. The children of Israel to wander in the desert for a long time hitchhiking. But during this time of hardship. God has given us favor them as much food from the sky, called "It's me," which is like a rubber pellets that are sweet and quail to eat to sustain life.
one day Moses was God commanded him to go up on Mount Sinai to receive the Ten Commandments (Torah), the law for organizing the children of Israel prior to Moses enjoined Aaron (or Aaron) who was older. men to care for their grandchildren on their behalf with Israel. The most important thing is that Moses commanded Aaron. "Do not wait for them to turn to the sons of Israel, worship anything outside of the one God."
During the forty days Moses went up on Mount Sinai. It appears that the children of Israel who were living below the tree was a trick to remove the jewelry, made of silver and gold melded into a Gold Coast to worship as sacred.
When Moses came down from Mount Sinai with the Ten Commandments inscribed stone slab. He saw the children of Israel were wandering in ignorant to worship the gold statue cattle. He has severe anger immediately. The film The Ten Commandments that Moses project, opting to throw a stone inscribed with the Ten Commandments on the ground and broke into pieces. The Quran says that Moses had crossed into the beard of Aaron, the brother of his anger that his brother did not dissuade the children of Israel worshiped the Golden Coast. Doing this is a big sin. But Aaron insists he tried to ban it. But it did not keep them bigot.
For this reason, Moses commanded the children of Israel sent a delegation to him to ask for forgiveness to God, turning to the bull statue honoring worship the true God.
Probably because I'm afraid that in the future. The children of Israel could worship the cow, it is not so at the time of Moses was still alive. God has given to the rich man was killed and many left a legacy to his son alone. But relatives of the dead do not inherit it. He killed his son to death, according to. Another relative went to Moses to ask help for the kill.
Moses commanded the children of Israel killed a cow tail and then placed on the bodies of those killed and their bodies will tell who is the killer. But the children of Israel said to Moses, joking. "God forbid we do something stupid like that," and evaded questions fussy as "cattle of any age," Moses said. "America is weak and does not solve. To choose one "rather than follow. These people are assuming that Moses asked God, "What color is the cow?" Moses replied, "yellow".
Question fussy unspent Moses concluded that cow to slaughter a cow that has never been used and have a yellow-free throughout the body without any points at all.
This simply became difficult because of complicated questions. If not from the first tee, it's over, so to find a cow that looks it. The children of Israel had to pay a high price of cattle. Less waste is difficult waste knack Was much easier
The story of the children of Israel were told in the Quran to uncover the habits of these people messing with God and His Prophet perpetuity. Favorites and distorts God's command is difficult. After Moses' out of this world Scribes of this group was to write the Book with their strange doctrines a new addition to the teachings of Moses, which was then little intelligence it could not accept the teachings of the religion.
And if the Jews build a new temple on the ruins of the al-Aqsa mosque. The ceremony, one which they have already prepared it is to sacrifice a bull red-free either.
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น