บรรจง บินกาซัน
ภูเก็ต “ไข่มุกแห่งอาดามัน” เป็นเกาะสวรรค์ที่มีชาวต่างชาติมาเยือนในแต่ละปีจำนวนมากกว่าประชากรท้องถิ่น ภูเก็ตจึงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่นำรายได้เข้าประเทศไทยนับจำนวนมหาศาลในแต่ละปี
พ.ศ.2540 เมื่อเศรษฐกิจทางการเงินของไทยเกิดปัญหาที่เรียกกันว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง สถาบันการเงินและธุรกิจต่างๆล้มระเนระนาดอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน ผู้คนจำนวนมากตกงาน บางคนฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา แต่เกาะภูเก็ตไม่สะดุ้งสะเทือนเหมือนกับไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง ไม่เพียงเท่านั้น ธุรกิจการท่องเที่ยวกลับเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะชาวต่างชาติมาเที่ยวมากขึ้น
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะอัตราการแลกเปลี่ยนเงินดอลล่าร์สหรัฐกับเงินบาทไทยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเดิม 1/26 เป็น 1/48 ภายในเวลาไม่ถึงหกเดือน
นั่นหมายความว่าใครที่ถือเงินดอลล่าร์สหรัฐมาเที่ยวเมืองไทยสามารถซื้อสินค้าและบริการได้มากกว่าเดิมเกือบสองเท่าด้วยเงินดอลล่าร์จำนวนเดียวกันกับเงินก่อนหน้านั้น ใครเล่าจะไม่มา?
อำนาจดอลล่าร์สหรัฐทำให้เกาะภูเก็ตมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและกลายเป็นเกาะสวรรค์ชั่วคราวบนโลกจนลืมไปว่าสวรรค์ที่นิรันดรไม่ได้อยู่บนโลกนี้
26 ธันวาคม 2547 คลื่นยักษ์สึนามิจากท้องทะเลอันดามันได้ทำลายฝันและสวรรค์ชั่วคราวที่หลายคนกำลังสร้างอยู่บนเกาะแห่งนี้เสียหายอย่างยับเยิน นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนับพันคนต้องล้มตายไป หลายคนได้สติกลับมาก็สามารถทำใจได้ถึงความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของชีวิต
แต่หลังจากนั้นอีกไม่นาน ด้วยอำนาจของดอลล่าร์สหรัฐที่สามารถปิดปากและบังตาผู้คน ภูเก็ตได้กลับฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งหนึ่งอย่างรวดเร็ว
กลางปี พ.ศ.2562 สงครามเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐส่งผลกระทบภาวะเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆทั่วโลก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ตจึงลดน้อยลง
ย่างเข้าต้นปี พ.ศ.2563 โรค COVID19 ศัตรูที่มองไม่เห็นได้บุกโจมตีโลกจนทำให้การเคลื่อนไหวทุกอย่างบนโลกนี้หยุดลง ผู้คนต้องหลบภัยจากโรคร้ายนี้อยู่ในบ้านเป็นเวลานาน ทำให้ธรรมชาติที่ถูกมนุษย์ทำลายอย่างยับเยินได้มีโอกาสฟื้นตัวกลับมาสวยงามอีกครั้ง สัตว์ป่าที่ถูกมนุษย์บุกรุกที่อยู่อาศัยของมันได้กลับมาเดินเล่นชมบ้านเรือนในเมืองของมนุษย์
ปลายปีที่แล้ว ผมได้กลับไปเยือนเกาะภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง ภูเก็ตครั้งนี้เงียบสงบไร้ผู้คน ร้านค้าและสถานบริการบนท้องถนนปิดเงียบ ผิดกับภูเก็ตที่แออัดไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อหลายปีก่อน หาดทรายที่ปกติเคยมีนั่งท่องเที่ยวต่างชาตินอนอาบแดดจนแทบไม่เห็นทรายตอนนี้ว่างเปล่าไร้ผู้คนและสะอาดสวยงามจนสามารถนำคำขวัญของจังหวัดสตูลที่ว่า “สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์” มาใช้ที่นี่ได้
การแพร่ระบาดของโรค COVID19 ครั้งนี้เหมือนเรากำลังหลับอยู่ในปี พ.ศ.2562 เมื่อตื่นขึ้นมาใน พ.ศ.2563 เรารู้สึกเหมือนว่าเราอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เราได้พบว่าแม้แต่เมืองมักก๊ะฮฺที่ไม่เคยขาดผู้คนมาเยี่ยมเยือนทุกปีไม่ขาดสายยังอ้างว้างว่างเปล่าจากผู้แสวงบุญ ฝรั่งเศสไม่ได้เป็นประเทศที่โรแมนติกอีกแล้ว ดิสนี่แลนด์ก็ไม่ได้เป็นดินแดนมหัศจรรย์ของเด็กๆอีกต่อไป
การสวมกอดและการหอมแก้มที่เคยเป็นพฤติกรรมของการแสดงความรักกลับกลายเป็นความเสี่ยงอันตราย การไม่เยี่ยมเยียนและการพบปะสังสรรค์กันกลับกลายเป็นการแสดงความหวังดี ภาพคนเจ็บป่วยและทรมานก่อนตายเพราะโรคร้ายนี้ทำให้คนหวาดกลัวไปทั่วโลก
ภาพเหล่านี้ได้ให้บทเรียนแก่เราว่า เงินและอำนาจที่เราดิ้นรนหามันมาไม่สามารถจัดหาออกซิเจนให้แก่เราในตอนป่วยและกำลังจะตายได้ แต่โลกต่างหากที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปและสวยงามแม้ไม่มีเรา
ในขณะที่มนุษย์ทั่วโลกตกอยู่ในสภาพเหมือนถูกต้อนเข้าไปอยู่ในกรงนี้เอง โลกได้ส่งสัญญาณเตือนเหมือนจะบอกเราว่ามนุษย์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นบนโลกใบนี้ หากปราศจากมนุษย์ อากาศจะบริสุทธิ์ ท้องฟ้าจะสีสดใสและทะเลจะสวยงาม หากเจ้ากลับมาอีกครั้งหนึ่ง จำไว้ เจ้าเป็นแขกของเรา ไม่ใช่นายของเรา
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
The world has warned us
Banjong BinkasonSource: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น