หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

มหัศจรรย์แห่งการมาของนบีมุฮัมมัด



บรรจง บินกาซัน

 บนโลกใบนี้   ไม่มีการกำเนิดของมนุษย์คนใดมหัศจรรย์เท่ากับอาดัมและอีฟ พ่อแม่ของมนุษยชาติและเยซัสไครสต์ เพราะอาดัมและอีฟเกิดมาโดยไม่มีพ่อและแม่  แต่เกิดขึ้นจากการสร้างของพระเจ้าโดยตรง  

 ส่วนเยซัสไครสต์ถือกำเนิดมาจากนางมารีย์หญิงพรหมจรรย์โดยไม่มีพ่อ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกหลานอิสราเอลได้เห็นถึงอำนาจของพระเจ้าว่าพระองค์อยู่เหนือกฎธรรมชาติ  ถ้าพระองค์ประสงค์จะทำสิ่งใด พระองค์ไม่จำเป็นต้องอาศัยกฎธรรมชาติ  แค่เพียงกล่าวว่า “จงบังเกิดขึ้น”  สิ่งที่พระองค์ประสงค์ก็เกิดขึ้นในบัดดล

 ในคำสอนของอิสลาม  ทั้งอาดัมและเยซัสไครสต์ถูกถือว่าเป็นนบีผู้นำคำสอนของพระเจ้ามายังมนุษชาติเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต  แต่การกำเนิดของนบีมุฮัมมัด แม้จะเป็นการถือกำเนิดเหมือนคนธรรมดา  แต่การมาของท่านถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะพระเจ้าได้กล่าวไว้ในคัมภีร์กุรอานว่า “เรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกไปจากเพื่อเป็นความเมตตาต่อโลกทั้งหลาย” 

 นบีมุฮัมมัดถูกส่งมาเพื่อทำให้แนวทางการดำเนินชีวิตที่พระเจ้าประทานแก่มนุษย์มาตั้งแต่สมัยอาดัมมีความสมบูรณ์ครบถ้วนหลังจากที่ถูกบิดเบือนมาตลอดเมื่อนบีก่อนหน้านี้จากไป  ดังนั้น นบีมุฮัมมัดจึงถูกถือว่าเป็นนบีคนสุดท้ายที่พระเจ้าส่งมาและคัมภีร์กุรอานเป็นวจนะครั้งสุดท้ายที่มีมายังมนุษยชาติ 

 การมาของนบีมุฮัมมัดมีความมหัศจรรย์ตรงที่ในขณะยังมีชีวิต  ท่านเคยบอกสาวกของท่านว่า “ฉันคือการวิงวอนของอิบรอฮีม(อับราฮัม)และคนสุดท้ายที่มาแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับฉันคืออีซา(เยซัสไครสต์)”

 เมื่อตรวจสอบคัมภีร์กุรอาน  เราพบว่าก่อนหน้านบีมุฮัมมัดประมาณสามพันปี อิบรอฮีมเคยวิงวอนต่อพระเจ้าหลังจากสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺเสร็จตามคำบัญชาว่า “โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา โปรดให้ในหมู่พวกเขา(ลูกหลานของท่าน) มีศาสนทูตขึ้นมาคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่จะมาสาธยายวจนะทั้งหลายของพระองค์แก่พวกเขาและสอนคัมภีร์และวิทยปัญญาแก่พวกเขาและขัดเกลาชีวิตของพวกเขาให้สะอาด” (กุรอาน 2:192)

 นอกจากนี้ คัมภีร์กุรอานยังบอกว่าท่านเป็นศาสนทูตหรือนบีที่อ่านเขียนไม่เป็น แต่การมาของท่านและชื่อของท่านได้ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์เตารอตและอินญีล (กุรอาน 7:155-157) 

 “เตารอต” หรือโตราห์(Torah) คือคัมภีร์ที่ถูกประทานแก่โมเสสเพื่อเป็นกฎหมายจัดระเบียบสังคมของพวกลูกหลานอิสราเอล ปัจจุบัน หาอ่านได้ในพันธสัญญาเดิมของคัมภีร์ไบเบิล

 ส่วน “อินญีล” (Gospel) คือคัมภีร์ที่ถูกประทานแก่นบีอีซาหรือเยซัสไครสต์เพื่อมายืนยันธรรมบัญญัติเดิมที่ถูกประทานแก่โมเสส  ปัจจุบัน  สามารถพบร่องรอยได้ในพันธสัญญาใหม่ของคัมภีร์ไบเบิล

 เมื่อศึกษาพันธสัญญาเก่า  เราพบข้อความตอนหนึ่งว่า : 

        และพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้า(โมเสส)ว่า “ซึ่งเขาพูดมาเช่นนั้นก็ดีอยู่ เราจะโปรดให้บังเกิดผู้เผยพระวจนะอย่างเจ้าในหมู่พวกพี่น้องของเขา และเราจะใส่ถ้อยคำของเราในปากของเขา และเขาจะกล่าวบรรดาสิ่งที่เราบัญชาเขาไว้นั้นแก่ประชาชนทั้งหลาย ผู้ใดไม่เชื่อฟังถ้อยคำของเรา  เราจะกำหนดโทษผู้นั้น แต่ถ้าผู้เผยพระวจนะคนใดบังอาจกล่าวคำในนามของเราซึ่งมิได้บัญชาให้กล่าว หรือผู้นั้นกล่าวในนามพระอื่น ผู้เผยพระวจนะนั้นต้องมีโทษถึงตาย”  (เฉลยธรรมบัญญัติ 18.17-20)  

        เมื่อศึกษาพันธสัญญาใหม่ เราพบข้อความที่เป็นบันทึกคำพูดของเยซัสไครสต์ดังนี้

        “เราจะขอบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลาย คือ การที่เราจะไปนั้นจะเป็นประโยชน์แก่ท่าน เพราะถ้าเราไม่ไป พระองค์ผู้ช่วยนั้นจะมิได้มาหาท่าน แต่ถ้าเราไป เราจะใช้พระองค์นั้นมาหาท่าน...เมื่อพระองค์นั้นมาแล้ว พระองค์จะบันดาลให้โลกรู้สึกถึงความผิด ถึงความชอบธรรมและการพิพากษา...เรายังมีอีกหลายสิ่งที่จะบอกท่านทั้งหลาย  แต่เดี๋ยวนี้ท่านยังรับเอาไม่ได้  แต่เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงมาแล้ว พระองค์จะนำท่านทั้งหลายไปสู่ความจริงทุกอย่าง เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพระองค์เอง แต่พระองค์ได้ยินสิ่งใดก็จะตรัสสิ่งนั้น และจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้สิ่งเหล่านั้นซึ่งจะเกิดขึ้น” (โยฮัน 16 : 7,8,12,13)

 พันธสัญญาใหม่เป็นการรวบรวมบันทึกของสานุศิษย์คนสำคัญของเยซัสไครสต์  บาร์นาบัสเป็นสานุศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งที่บันทึกคำพูดของเยซัสไครสต์ไว้ แต่บันทึกของเขาไม่ได้ถูกนำมารวมไว้ในคัมภีร์เบิลปัจจุบัน  เพราะข้อความในบันทึกของเขามีดังต่อไปนี้ :

        ครั้นปุโรหิตถามว่า “มาซีฮานั้นจะถูกเรียกอย่างไร และอะไรเป็นสัญญาณแสดงให้เราเห็นถึงการมาของเขา ?”  พระเยซูตอบว่า “นามของมาซีฮานั้นคือการสรรเสริญ พระเจ้าทรงให้นามแก่เขา ขณะที่พระองค์ทรงให้บังเกิดวิญญาณของเขาและสถิตอยู่ในสวนสวรรค์  พระเจ้าตรัสว่าจงคอยมุฮัมมัด เพื่อประโยชน์ของเจ้า จึงได้บังเกิดสวรรค์โลกและสิ่งที่ถูกบังเกิดอีกมากมาย เราให้เจ้ากำเนิดเป็นของขวัญ ผู้ใดให้พรแก่เจ้า ผู้นั้นจะได้รับพร ผู้ใดสาปแช่งเจ้า ผู้นั้นก็จะถูกสาปแช่งด้วย เมื่อเราจะส่งเจ้าไปยังโลก เราจะส่งเจ้าไปในฐานะศาสนทูตเพื่อความรอดพ้น และโลกของเจ้าจะถูกนำไปสู่ทางอันเที่ยงตรง แม้นฟ้าและแผ่นดินจะสิ้นสลายแต่ความศรัทธาของเจ้าจะไม่สลาย” 

      “มุฮัมมัด(แปลว่า ผู้ได้รับการสรรเสริญ)เป็นนามที่พระองค์ทรงให้พร” 

       บรรดาพวกเขาต่างก็แซ่ซ้องร้องว่า “โอ้พระเจ้า โปรดประทานศาสนทูตของพระองค์ลงมาเถิด โอ้ มุฮัมมัด จงมาเร็วเถิดๆเพื่อนำโลกไปสู่หนทางแห่งความรอดพ้น” (จากคัมภีร์ไบเบิล ฉบับของเซนต์ บาร์นาบัส ซึ่งลอนส์เดล (Lonsdale) และลอร่า แร็กก์ (Laura Ragg) แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเป็นผู้แปลจากต้นฉบับภาษาอิตาเลียนเป็นภาษาอังกฤษ ที่ห้องสมุดอิมพีเรียล กรุงเวียนนา) 

       เนื่องจากนบีมุฮัมมัดถูกส่งมาเพื่อทำให้วจนะของพระเจ้าที่มีแก่มนุษย์ครบถ้วนสมบูรณ์ คัมภีร์กุรอานจึงกล่าวว่า “แท้จริง อัลลอฮฺและทูตสวรรค์ของพระองค์ประสาทพรแก่นบี  โอ้บรรดาผู้ศรัทธา  จงประสาทพรแก่เขาและขอพรแห่งสันติให้แก่เขา” (กุรอาน 33:56) 

        นบีมุฮัมมัดเกิดวันที่ 12 เดือนเราะบีอุลเอาวัล ตามปฏิทินฮิจญ์เราะฮฺศักราช ปีนี้ตรงกับวันที่ 9 ตุลาคม 2565


ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน

https://www.facebook.com/Banjong.Binkason


| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |



[ Translate by Google Translate ]


The Miracle of Prophet Muhammad's Coming


Banjong Bingasan


  In this world, no man's birth was as miraculous as Adam and Eve. Parents of Humanity and Jesus Christ Because Adam and Eve were born without a father and mother. It was directly created by God.


  Jesus Christ, on the other hand, was born of a virgin Mary without a father. This was so that the children of Israel could see the power of God that He was above the laws of nature. if he wishes to do anything He did not need to rely on natural laws. just said “Let it happen.” What He wanted happened suddenly.


  in Islamic teachings Both Adam and Jesus Christ are considered prophets who bring God's teachings to mankind as a way of life. But the birth of the Prophet Muhammad Even though it was born like a normal person But your presence was of great importance. Because God said in the Quran that “We did not send you but to be a mercy to the worlds.”


  Prophet Muhammad was sent to complete the way of life that God had given mankind since the time of Adam after being perverted when the previous Prophet passed away. The Last Prophet sent by God and the Quran is the last word that has come to mankind.


  The coming of Prophet Muhammad is miraculous in that while alive He used to tell his disciples that “I am the supplication of Abraham (Abraham) and the last person to bring good news about me is Isa (Jesus Christ).”


  When reviewing the Quran We find that about three thousand years before the Prophet Muhammad Ibrahim used to pray to God after completing the Ka'bah by command, "O our Lord! Raise among them (your descendants) a messenger who will reciter to them Your verses and teach them the Scriptures and Wisdom and purify their lives. ” (Quran 2:192)


  In addition, the Quran also says that he was a prophet or prophet who could not read and write. But his coming and his name are mentioned in the Taurat and Injil (Qur'an 7:155-157).


  The "Torah" or Torah is a book that was given to Moses as a law to organize the society of the children of Israel. It can now be read in the Old Testament of the Bible.


  The "Injeel" (Gospel) is the scripture that was given to the prophet Isa or Jesus Christ to confirm the original law that was given to Moses. Traces can now be found in the New Testament of the Bible.


  when studying the Old Testament We found a passage saying:


         and the Lord said to me (Moses), “What he said was good. I will raise among his brethren a prophet like you. and I will put my words in their mouths. and he shall speak to all the people that which I have commanded him. whoever does not obey my words I will punish him But if any prophet dares to speak in my name that he has not commanded, or that person speaks in the name of another god that prophet shall be put to death” (Deuteronomy 18:17-20).


         when studying the New Testament We find the following transcript of the words of Jesus Christ:


         “I will tell you the truth, that it will benefit you that I am going. Because if we don't go That advocate will not come to you, but if I go, I will send him to you...when he comes. He will make the world feel guilty. As for righteousness and judgment...I have many things to tell you. but now you cannot take it. but when the Spirit of truth has come He will guide you into every truth. because he would not speak by himself but whatever he hears, he will speak. and will make known to you the things which are to come” (John 16:7,8,12,13).


  The New Testament is a compilation of the records of Jesus Christ's great disciples. Barnabas was one of the close disciples who recorded the words of Jesus Christ. But his record is not included in the Bible today. for the words of his record are as follows:


         When the priest asked, “How will the Messiah be called? And what will be the sign for us of his coming?” “The name of the Messiah is Praise. God gave him a name. while he gave birth to his soul and settled in Paradise God said wait for Muhammad. for your sake Therefore, heaven and earth and many other things were born. I gave birth to you as a gift who blesses you that person will be blessed who cursed you That person will also be cursed. when I will send you to earth I will send you as a prophet for salvation. and your world will be led to a straight path. Even if heaven and earth are destroyed, your faith will not be destroyed.”


       "Muhammad (meaning the praised one) is a name that He has blessed.”


        All of them chanted, "O Lord, send down Your Messenger, O Muhammad! Come quickly to lead the world to a way of salvation." (From St. Barnabas' Bible, which Lons Translated from Italian to English by Lonsdale and Laura Ragg of the University of Oxford. at the Imperial Library, Vienna)


        Because the Prophet Muhammad was sent to complete the word of God to mankind. The Qur'an then said, “Indeed, Allah and His angels have blessed the Prophet. O believers Bless him and ask him the blessings of peace” (Quran 33:56).


         Prophet Muhammad was born on the 12th day of the month of Rabiul Awwal. according to the Hijrah calendar This year it falls on October 9.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น