หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568

โลกานิยมกำลังล่มสลาย

บรรจง บินกาซัน

หลังยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ  ชาติยุโรปที่แยกตัวออกจากศาสนาเพราะความขัดแย้งกับคริสตจักรเริ่มทะนงในความรู้ใหม่ๆจนคิดว่าสติปัญญาของมนุษย์ก็เพียงพอแล้วสำหรับความเจริญก้าวหน้าและความสำเร็จในชีวิต  ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยคำสอนของศาสนาอีกต่อไป นี่คือที่มาของโลกานิยม

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568

มุฮัมมัด ผู้ได้รับการสรรเสริญ


บรรจง บินกาซัน

ครั้งหนึ่ง นบีมุฮัมมัดเคยกล่าวว่า “ฉันคือคำวิงวอนของอิบรอฮีม(อับราฮัม) และคนสุดท้ายที่มาแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับฉันคืออีซา(เยซัส)” 

เมื่อพระเจ้าบัญชาให้อับราฮัมสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺเพื่อเป็นสถานที่เคารพสักการะพระองค์  อับราฮัมได้สนองคำบัญชาของพระเจ้า  เมื่อสร้างเสร็จแล้ว  เขาได้วิงวอนต่อพระเจ้าให้บอกถึงวิธีการเคารพสักการะพระองค์และพระเจ้าได้ตอบรับคำวิงวอนของเขา   เรารู้จากคัมภีร์ไบเบิลฉบับปฐมกาล 17:3 ว่าอับราฮัมแสดงความเคารพสักการะพระเจ้าด้วยการก้มกราบ

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2568

นบีมุฮัมมัดปฏิบัติต่อเชลยศึกอย่างไร?


บรรจง บินกาซัน

“จงปฏิบัติต่อเชลยศึกด้วยดี” 

นี่มิใช่บทสรุปจากสนธิสัญญาเจนีวาที่ว่าด้วยการปฏิบัติต่อเชลยศึก  แต่มันเป็นคำพูดของนบีมุฮัมมัดเมื่อประมาณ 1,400 กว่าปีก่อนหลังเสร็จสิ้นสงครามป้องกันการรุกรานจากศัตรูครั้งแรก

ตามประเพณีของชาวอาหรับก่อนอิสลาม  หลังสงคราม  หากใครตกเป็นเชลย  อนาคตของคนผู้นั้นส่วนใหญ่จะตกเป็นทาสเพื่อนำไปใช้เป็นแรงงานหรือไม่ก็ขายต่อ หรือมิเช่นนั้นก็ตาย

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2567

มนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อ?


บรรจง บินกาซัน  

โลกที่เราอาศัยอยู่เป็นดาวเล็กๆดวงหนึ่งในจักรวาลที่ประกอบด้วยดวงดาวสุดคณานับ  แต่สิ่งที่ทำให้โลกเราเป็นดาวที่ประหลาดที่สุดกว่าดาวดวงอื่นทั้งหมดก็คือโลกเรามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ และสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งกว่าสิ่งถูกสร้างใดๆก็คือมนุษย์ เพราะสิ่งสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตถูกสร้างมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่มนุษย์

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ศรัทธากับอาวุธ


บรรจง บินกาซัน

ในการทำสงครามหรือการต่อสู้  มีบ่อยครั้งที่ผู้มีกำลังน้อยกว่าสามารถเอาชนะผู้มีกำลังมากกว่าได้ ดังนั้น กำลังคนและอาวุธอย่างเดียวไม่ใช่ปัจจัยตัดสินชัยชนะ  บางครั้ง  จิตใจที่ยึดมั่นในอุดมการณ์หรือความศรัทธาบางอย่างก็พลิกรูปการณ์ที่ดูว่าพ่ายแพ้แน่ๆให้กลับมาเป็นผู้ชนะ

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ขี้ทับกันเป็นบาป…!


บรรจง บินกาซัน

สัจธรรมมีหนึ่งเดียวและเป็นสิ่งสากลในทุกที่  แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  สัจธรรมได้ถูกความเชื่อและขนบประเพณีท้องถิ่นปกปิดจนคนมองไม่เห็นและยึดเอาสิ่งที่ปกปิดสัจธรรมเป็นสรณะ

ในสมัยเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  พ.ศ.2514  ผมมีโอกาสร่วมเดินทางไปทำกิจกรรมค่ายอาสาพัฒนากับสมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิมที่หมู่บ้านเจ๊ะเด็ง ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส  ก่อนเข้าไปในพื้นที่ พวกเราชาวค่ายต้องเข้าฟังการบรรยาสรุปเกี่ยวกับผู้คนและวัฒนธรรมที่นั่น  ผมจำได้แม่นว่าผู้บรรยายสรุปให้เราฟังคือท่านศุภโยค พาณิชวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  คำพูดตอนหนึ่งซึ่งทำให้ผมสะดุดใจก็คือ “คนที่นี่เชื่อว่าขี้ทับกันเป็นบาป”  แต่ผมก็ไม่คิดอะไร

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ทำไมคัมภีร์กุรอานจึงต้องเอ่ยถึงเรื่องที่มีอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล


บรรจง บินกาซัน 

ในคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาเดิมมีข้อความตอนหนึ่งว่า “ในวันนั้น  พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญาไว้กับอับราม(หรืออับราฮัม)ว่า ‘เรามอบดินแดนนี้ให้เชื้อสายของเจ้าแล้ว  ตั้งแต่แม่น้ำอียิปต์ไปถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรตีส’” (ปฐมกาล 15:18) 

ข้อความดังกล่าวนี้เองที่พวกไซออนิสต์นำมาใช้อ้างเพื่อสร้างอาณาจักรอิสราเอลอันยิ่งใหญ่

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ลัทธิบูชาวัว

cow worship
Banjong Binkasan
One of the sacred things that humans have respected since ancient times is the cow. especially female cows In Babylonian archaeological excavations, statues of bulls made of cement and metal have also been found. The worship of cows has various origins and reasons.
Hindus revere the cow because they consider it to be the vehicle of Lord Shiva. In addition, Hindus still consider cows to be very beneficial animals for their livelihood. Because cows provide labor, milk, fertilizer and fuel from their dung, killing such a beneficent animal is considered ungrateful and sinful. In India, cows have many privileges in the streets where no one dares touch them.
Worshipers of Guan Yin do not eat beef because of beliefs that have various origins. Even some Kuan Yin nuns say that beef is actually not forbidden for Guan Yin worshippers. But some people don't eat beef because they see killing large animals as cruel. Therefore, I do not support killing by not eating beef.
But in Spain and some countries such as Mexico, bulls are trained to be ferocious in order to fight with matadors in bull rings and are eventually brutally killed. If you say that male cows are not important because they do not give milk. But if there is no breeding male bull Female cows also cannot become pregnant and produce heifers.
One verse of the Quran has an Arabic name: “Al-Baqarah” is translated into Thai as “heifer” because in this chapter there is a story about the children of Israel who went astray and worshiped a golden calf.
The story goes that when Prophet Moses (Moses) led hundreds of thousands of the children of Israel to migrate across the Red Sea. The children of Israel wandered for a long time in the desert. But in this time of hardship God has given these people many bounties, such as food from heaven called “manna,” which resembles sweet rubber pellets, and quail to eat to survive.
One day Moses was commanded by God to go up Mount Sinai to receive the Ten Commandments (Torah), which were the laws for ordering the children of Israel. Before going up, Moses instructed his elder Aaron (or Harun) also to take care of the children of Israel for himself. The most important thing that Moses commanded Aaron was this: “See to it that the children of Israel do not worship anything other than the one God.”
During the forty days Moses ascended Mount Sinai. It appears that the children of Israel down there had been tricked by the Samiri people into fusing silver and gold ornaments to make a golden calf to worship as sacred.
When Moses came down from Mount Sinai with the tablets on which the Ten Commandments were written. He saw that the children of Israel were in such a state of ignorance that they worshiped a golden calf. He immediately became extremely angry. The movie The Ten Commandments shows Moses being so angry that he threw the stone tablets with the Ten Commandments on the ground, causing them to break into pieces. But in the Quran, it is said that Moses went over and snatched his brother Aaron's beard out of anger that he had not stopped the children of Israel from worshiping the golden calf. Because doing so is considered a great sin. But Aaron insists that he tried to stop him. But you can't hold back the bigots.
For this reason, Moses ordered the children of Israel to send representatives with him to ask for God's forgiveness for their worship of calves instead of the true God.
It may be because of fear that in the future The children of Israel may have worshiped oxen. So during the time that Moses was alive So God appointed a rich man to be killed and left a large inheritance to his only son. But the deceased's relatives wanted an inheritance. So he killed his son and followed him. Another relative went to Moses to ask for help in finding the killer.
So Moses ordered the children of Israel to kill an ox, cut off the tail, and place it on the body of the slain man, and the corpse would reveal who the murderer was. But the children of Israel jokingly said to Moses, Moses said, “God forbid that we should do such foolish things,” and tried to deflect questions like “What age is the cow?” Moses replied. “I am neither young nor old. Go pick one.” Instead of following through. These brash people told Moses to ask God, “What color is the ox?” Moses answered, “Yellow.”
The thorny questions are not finished yet. Moses therefore concluded that the bull that was to be slaughtered must be a bull that had never been used and must be yellow all over, without any spots.
Now, simple things became difficult because of tricky questions. If you do it wrong from the beginning, it's over. Therefore, until you find a cow with these characteristics The children of Israel paid a high price for the oxen. It's difficult to get into textbooks. Very damaged, easily damaged
The story of the Children of Israel is told in the Quran to reveal the habit of these people constantly joking with God and His Prophet. They like to distort and make God's commands difficult. After Moses left this world The scribes of this group rewrote their own strange teachings in addition to the teachings of Moses, which even the slightest intellect could not accept as religious teachings when read.
And if the Jews build a new temple on the remains of the al-Aqsa mosque. One of the ceremonies these people had prepared was the sacrificing of a whole red cow.

บรรจง บินกาซัน 

หนึ่งในบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์เคารพนับถือกันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ก็คือวัว โดยเฉพาะวัวตัวเมีย ในการขุดค้นทางโบราณคดียุคบาบิโลนก็ยังมีการพบรูปปั้นวัวที่ทำจากปูนและโลหะ การนับถือวัวมีที่มาและเหตุผลต่างๆกัน

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ซะกาต ภาษีศาสนาในอิสลาม


บรรจง บินกาซัน

คำสอนของทุกศาสดามีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ การให้หรือการบริจาคทาน  คำสอนเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ทางด้านจิตวิญญาณและสังคม  นั่นคือเพื่อขัดเกลาวิญญาณให้สะอาดหมดจดจากมลทินแห่งความตระหนี่ถี่เหนียว  ขณะเดียวกัน  ทานที่ให้ไปจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนมีกับคนไม่มีและช่วยทำให้สังคมเจริญเติบโต

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ภาษีศาสนา


บรรจง บินกาซัน 

อิสลามกำหนดการปฏิบัติศาสนกิจขั้นพื้นฐาน 5 ประการให้มุสลิมปฏิบัติเพื่อเป็นการแสดงความศรัทธาในพระเจ้า  การสักการะและแสดงความกตัญญูต่อพระองค์ผู้ทรงสร้างทุกมนุษย์และประทานปัจจัยยังชีพแก่ทุกชีวิต

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ศีลอดเพื่อชีวิตใหม่


บรรจง บินกาซัน 

การอดอาหารเป็นวิถีอย่างหนึ่งของการดำรงรักษาชีวิตและเป็นพฤติกรรมที่มีอยู่แม้แต่ในหมู่สัตว์ 

ในฤดูร้อนที่แห้งแล้งขาดแคลนอาหาร  กบจะจำศีลอยู่ในรูใต้ดิน  ม้นจะนอนนิ่งปิดหู ปิดตา ปิดปากและไม่ขยับตัวเพื่อรักษาอาหารที่สะสมไว้ในร่างกายให้นานที่สุด  ถ้ามันออกไปนอกรูในช่วงหน้าแล้ง มันจะไม่ได้อาหารและมันอาจกลายเป็นอาหารของชาวบ้านด้วยซ้ำ  การจำศีลจึงเป็นการรักษาชีวิตของมัน

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ทำไมต้องถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน?


บรรจง บินกาซัน 

เข้าเดือนเราะมะฎอนแล้ว เดือนที่มุสลิมทั่วโลกต้องถือศีลอด ปีนี้วันแรกตรงกับวันที่ 12 มีนาคม 2567  หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเดือนนี้มุสลิมจึงต้องอดข้าวอดน้ำและอดไปเพื่ออะไร?

ไม่มีการปฏิบัติศาสนกิจใดที่ไร้ประโยชน์หรือไร้เหตุผลและเหตุผลก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความเข้าใจ

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2567

รัฐมะเร็งร้ายในตะวันออกกลาง


บรรจง บินกาซัน

หลังจากที่เมืองเยรูซาเล็ม เมืองหลวงทางด้านจิตวิญญาณของชาวยิวถูกทำลายใน ต.ศ.70  ชาวยิวได้หนีไปหลบภัยอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆของยุโรปและแม้แต่ในคาบสมุทรอาหรับ  ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใด  ชาวยิวจะเก็บตัวอยู่อย่างสงบเสงี่ยมโดยยังรักษาขนบประเพณีและความเชื่อของตนไว้อย่างเหนียวแน่น

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2567

สงครามข้ามศตวรรษ


บรรจง บินกาซัน

เมืองเฮบรอนในประเทศปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดครองมีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อ “อัลฮารอม อัลอิบราฮีมีย์”  สถานที่แห่งนี้ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝังศพของครอบครัวอับราฮัมซึ่งประกอบด้วยนางซาราห์ผู้เป็นภรรยา  อิสฮากลูกชายคนที่สองของอับราฮัมและภรรยา และหลุมฝังศพของยาโกบลูกชายของอิสฮาก

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ชื่อคนดีถูกนำมาตั้งเป็นชื่อรัฐก่อการร้าย


บรรจง บินกาซัน 

นบีมุฮัมมัดได้สั่งสาวกของท่านไว้ตอนหนึ่งว่า “จงเผยแพร่ไปจากฉันแม้จะเป็นข้อความหนึ่ง(จากคัมภีร์กุรอาน)และจงเล่าเรื่องราวของพวกลูกหลานอิสราเอลให้คนได้รู้” 

เรื่องราวของลูกหลานอิสราเอลมีกล่าวไว้มากมายทั้งในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอาน เพราะในหมู่ลูกหลานอิสราเอลมีหลายคนที่ถูกพระเจ้าคัดเลือกให้เป็นผู้ประกาศคำสอน(นบี)ของพระองค์ หนึ่งในนั้นก็คือโมเสส 

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567

กำพืดลูกหลานอิสราเอล


บรรจง บินกาซัน 

ในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานมีชื่อผู้ประกาศคำสอนของพระเจ้าร่วมกัน ยี่สิบกว่าคน  ทำให้หลายคนที่ศึกษาคัมภีร์ทั้งสองเล่มนี้คิดว่าคัมภีร์กุรอานคัดลอกเรื่องราวจากคัมภีร์ไบเบิลมาเพราะคัมภีร์กุรอานมาทีหลังคัมภีร์ไบเบิล

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2567

จักรพรรดิเปอร์เซียฉีกสารของนบีมุฮัมมัด


บรรจง บินกาซัน 

คุสโร เปอร์เวซ จักรพรรดิแห่งมหาอาณาจักรเปอร์เซียเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้รับจดหมายเชิญชวนสู่อิสลามจากนบีมุฮัมมัดในเวลาไล่เลี่ยกันกับจักรพรรดิเฮราคลีอุสแห่งอาณาจักรโรมันไบแซนติน  แต่ปฏิกิริยาของคุสโร เปอร์เวซแตกต่างไปจากเฮราคลีอุสโดยสิ้นเชิง

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2567

นบีมุฮัมมัดเชิญจักรพรรดิไบแซนตินสู่อิสลาม


บรรจง บินกาซัน

เมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มปฏิบัติภารกิจเผยแผ่อิสลามในเมืองมักก๊ะฮฺ  อาณาจักรโรมันไบแซนตินได้ประกาศรับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาทางการแล้วโดยมีคัมภีร์ไบเบิลเป็นกฎหมายในการปกครอง

ส่วนอาณาจักรเปอร์เซีย มหาอำนาจคู่แข่งกับอาณาจักรไบแซนตินยังนับถือศาสนาที่บูชาไฟอยู่

ในช่วงที่แผ่นดินอาหรับเกิดความสงบจากสนธิสัญญาสันติภาพฮุดัยบียะฮฺ  นบีมุฮัมมัดได้ให้คนนำสารเชิญชวนสู่อิสลามไปยังประมุขของอาณาจักรต่างๆ  หนึ่งในนั้นคือเฮราคลีอุสจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันไบแซนติน  ในตอนนั้น จักรพรรดิอยู่ในแคว้นชามที่เป็นหัวเมืองใหญ่มีอาณาเขตติดกับแผ่นดินอาหรับและเปอร์เซีย

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567

พิชิตอะไรไม่ยิ่งใหญ่เท่าพิชิตใจคน


บรรจง บินกาซัน  

หลังจากการบุกโจมตีเมืองยัษริบ(มะดีนะฮฺ)ครั้งใหญ่ที่สุดของชาวมักก๊ะฮฺในสงครามสหพรรคประสบความล้มเหลวและเผ่ายิวที่คิดคดทรยศมุสลิมถูกปราบปรามแล้ว นบีมุฮัมมัดก็คิดที่จะยึดมักก๊ะฮฺคืนเพื่อทำให้ก๊ะอฺบ๊ะฮฺเป็นสถานที่เคารพสักการะพระเจ้าที่แท้จริงแต่เพียงพระองค์เดียว

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567

สงครามกับเผ่าบนีอิสรอ-อีล(ยะฮูดีย์์)


บรรจง บินกาซัน 

ในเมืองยัษริบนอกจากจะมีชาวอาหรับพื้นเมืองอาศัยอยู่แล้ว ยังมีชาวบนีอิสรอ-อีลหรือยะฮูดีย์สามเผ่ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่นอกเมืองในเขตที่เรียกว่าค็อยบัรฺซึ่งอยู่ห่างจากเมืองยัษริบ(หรือมะดีนะฮฺ)ไปทางเหนือประมาณ 150 ก.ม.  ชาวยะฮูดีย์เหล่านี้อพยพมาจากเมืองเยรูซาเล็มที่ถูกกองทัพโรมันโจมตีและทำลายใน ค.ศ.70