บรรจง บินกาซัน
ไสยศาสตร์เป็นศาสตร์ลึกลับที่อยู่เหนืออาณาจักรทางวัตถุ มันเป็นสิ่งที่คนไทยเรียกว่า “วิชามาร” เพราะมันเป็นวิชาของซาตานมารร้ายจริงๆ มันเป็นสิ่งหนึ่งในบรรดา “สิ่งพ้นญาณวิสัย” ที่มุสลิมต้องเชื่อว่ามีจริงเช่นเดียวกับที่ต้องเชื่อในการมีอยู่จริงของพระเจ้า นรกสวรรค์และวิญญาณ แม้มนุษย์ไม่สามารถใช้ประสาททั้งห้าสัมผัสได้
แม้ศาสนาบอกว่าไสยศาสตร์มีจริง แต่ศาสนาก็ห้ามศาสนิกไปลุ่มหลงกับมัน เพราะไสยศาสตร์ไม่เคยนำคนที่เกี่ยวข้องกับมันไปสู่ความดี ทั้งนี้เนื่องจากมันเป็นวิชามารและไม่มีมารตนใดพาคนไปสู่ความดี
อาจมีคนถามว่า เมื่อศาสนาห้ามไสยศาสตร์ แล้วทำไมพระเจ้าจึงให้มีไสยศาสตร์เกิดขึ้น คำตอบก็คือการมีสิ่งต้องห้ามก็เพื่อทดสอบมนุษย์ว่ามีความศรัทธาและเชื่อในคำสอนของศาสนาหรือไม่ อิสลามห้ามกินหมู แต่พระเจ้าให้มีหมูก็เพื่อทดสอบดูว่ามนุษย์เชื่อฟังพระเจ้าหรือไม่ เช่นเดียวกับสุราเมรัยที่มีอยู่ก็เพื่อทดสอบว่าใครเป็นผู้ละเว้นสิ่งต้องห้าม
ไสยศาสตร์เป็นสิ่งที่บอกให้เรารู้ว่าโลกนี้ไม่ได้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์เผ่าพันธุ์เดียวเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งที่เรียกว่า “ญิน” อาศัยร่วมอยู่กับเราโดยที่เรามองไม่เห็นมันเพราะมันถูกสร้างมาจากไฟ แต่ญินมองเห็นมนุษย์ เพราะมนุษย์ถูกสร้างมาจากดิน
เผ่าพันธุ์ญินก็เหมือนกับมนุษย์ที่มีทั้งสองเพศและมีทั้งดีและชั่ว ญินชั่วถูกเรียกว่า “ชัยฏอน”หรือซาตาน หัวหน้าซาตานมีชื่อว่าอิบลีส จากคัมภีร์กุรอาน เผ่าพันธุ์ญินมีอยู่ก่อนที่พระเจ้าสร้างมนุษย์คนแรก
เรื่องราวของการสร้างอาดัมและการล่อลวงอาดัมของซาตานถูกกล่าวไว้ทั้งในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอาน แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียด
คัมภีร์กุรอานเล่าว่าเมื่อพระเจ้าสร้างอาดัมและประทานความรู้ความสามารถแก่อาดัมแล้ว พระเจ้าได้บัญชาให้ทุกสรรพสิ่งในอาณาจักรของพระองค์ก้มกราบยอมศิโรราบต่ออาดัม ทุกสรรพสิ่งยอมทำตาม ยกเว้นอิบลีส มันอ้างเหตุผลในการไม่เชื่อฟังคำบัญชาของพระเจ้าว่ามันถูกสร้างมาจากไฟ แต่อาดัมถูกสร้างมาจากดินที่ต้นกำเนิดต่ำกว่ามัน
ถ้าท่านมีพนักงานที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งและโอหังอย่างนี้ ท่านจะทำอย่างไร?
เช่นเดียวกัน ก่อนที่พระเจ้าจะลงโทษอิบลีส มันได้ขอประวิงเวลาลงโทษไว้ก่อนเพื่อจะพิสูจน์ว่าลูกหลานของอาดัมที่พระเจ้าจะสร้างมานั้นมีน้อยคนนักที่ศรัทธาและเชื่อฟังพระองค์ พระเจ้าจึงประวิงเวลาลงโทษมันไว้และอัปเปหิมันออกมาจากอาณาจักรของพระองค์
เรื่องราวดังกล่าวนี้เกิดขึ้นต่อหน้าอาดัมเพื่อเป็นตัวอย่างให้อาดัมได้เห็นว่าผลของการไม่เชื่อฟังคำบัญชาของพระเจ้าเป็นเช่นใด แต่ทั้งๆที่เห็นตัวอย่างเช่นนั้นแล้ว อาดัมและฮาวาคู่ครองของเขาก็ยังพลาดท่าเสียทีหลงคำล่อลวงของอิบลีสจนกระทั่งเข้าใกล้ต้นไม้ต้องห้าม ดังนั้น ทั้งอาดัมและฮาวาจึงถูกส่งมายังโลกนี้ ก่อนจะมา พระเจ้าได้บอกคนทั้งสองว่าอิบลีสจะมายังโลกนี้และแพร่ลูกออกหลานเช่นกัน และลูกหลานของมันจะล่อลวงลูกหลานของอาดัมจนถึงวันสิ้นโลก
อย่างไรก็ตาม อาดัมแตกต่างไปจากอิบลีสตรงที่เมื่ออิบลีสทำผิดโดยการฝ่าฝืนคำสั่งพระเจ้า มันกลับโทษอาดัมและท้าทายพระเจ้า แต่อาดัมกลับสำนึกผิดและขออภัยโทษต่อพระองค์ ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงรับการขออภัยโทษของอาดัมและให้โอกาสแก่เขาที่จะกลับมาสู่สวนสวรรค์ในอาณาจักรของพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง แต่การจะกลับไปนั้น เขาต้องการผ่านการทดสอบว่าเขาจะเชื่อฟังพระเจ้าหรือจะเชื่อฟังคำล่อลวงของซาตานมารร้ายผู้เป็นลูกหลานของอิบลีส
ดังนั้น ทุกย่างก้าวการดำเนินชีวิตของมนุษย์ พระเจ้าจึงสร้างสิ่งต้องห้ามต่างๆไว้เพื่อทดสอบมนุษย์ผู้เป็นลูกหลานอาดัมว่าเขาจะเป็นผู้ศรัทธาที่เชื่อฟังพระองค์หรือเขาจะหลงคำล่อลวงของซาตานมารร้าย สิ่งต้องห้ามต่างๆเหล่านี้ถูกบอกไว้อย่างชัดเจนในคัมภีร์และคำสอนของนบีมุฮัมมัดซึ่งในจำนวนนี้ก็มีไสยศาสตร์รวมอยู่ด้วย
พระเจ้าประสงค์ให้มีไสยศาสตร์เกิดขึ้นบนโลกเช่นเดียวกับที่พระองค์ประสงค์ให้มีหมู สุราและอบายมุขต่างๆเกิดขึ้น แต่ไสยศาสตร์เป็นสิ่งเร้นลับที่ซาตานมารร้ายใช้แสดงอิทธิฤทธิ์ให้มนุษย์ผู้มีจิตใจอ่อนแอเลื่อมใสเคารพสักการะมันแทนที่จะเคารพพระเจ้าผู้สร้างมันมา
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมอิบลีสจึงประสบความสำเร็จในสังคมที่ผู้คนไม่รู้จักมันและพระเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น