ศึกนอกหนักใจ ศึกในหนักอก

บรรจง บินกาซัน

ยัษริบเป็นเมืองเก่าแก่ในคาบสมุทรอาหรับ ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นมะดีนะฮฺ ยัษริบไม่เพียงแต่เป็นถิ่นฐานของชาวอาหรับทะเลทรายเท่านั้น แต่ยังเป็นถิ่นฐานของชาวยิวสามเผ่าที่อพยพหลบหนีมาอาศัยอยู่หลังจากเมืองเยรูซาเล็มถูกทำลายโดยกองทัพอาณาจักรไบแซนตินใน ค.ศ.70


แต่กลุ่มชนที่มีอิทธิพลที่สุดในเมืองยัษริบคือเผ่าเอาส์และเผ่าคอซรอจญ์ คนสองเผ่านี้อพยพมาจากเยเมนหลังจากเขื่อนมะอ์ริบแตกจนแผ่นดินแห้งแล้งไม่สามารถทำการเพาะปลูกอีกต่อไปได้ แต่เมื่อมาอยู่ในยัษริบ สองเผ่านี้กลับไม่ลงรอยกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้คนของอีกฝ่ายหนึ่งขึ้นมาเป็นผู้นำ และต่างฝ่ายต่างมีเผ่ายิวเป็นพันธมิตร

ด้วยความที่ต่างเผ่าต่างเป็นอริกัน ดังนั้น เมื่อเกิดการสู้รบขึ้น ทั้งสองเผ่าจะไปขอความช่วยเหลือจากเผ่ายิวที่เป็นพันธมิตรของตนมาร่วมรบ ยัษริบจึงไม่มีรัฐบาลกลางมาเป็นเวลานาน

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งนี้เองที่ทำให้อับดุลลอฮฺ บินอุบัย บินสะลูล ผู้นำคนหนึ่งในเผ่าคอซรอจญ์พยายามหาทางสร้างความปรองดองระหว่างเผ่าของเขากับเผ่าเอาส์ที่เป็นคู่อริ ความพยายามของเขาเป็นที่ยอมรับจนคนในสองเผ่าเห็นว่าเขาควรที่จะเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองยัษริบ

แต่ในช่วงเวลานั้นเองที่มีคนกลุ่มหนึ่งจากสองเผ่าเดินทางไปทำฮัจญ์ที่มักก๊ะฮฺและได้พบปะพูดคุยกับนบีมุฮัมมัดจนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในอิสลามและสมาชิกของทั้งสองเผ่าเอ่ยปากชวนนบีมุฮัมมัดไปอยู่ที่เมืองยัษริบโดยสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือท่านในการเผยแผ่อิสลามและจะให้ท่านเป็นผู้นำคนนอกที่มาปกครองเมืองยัษริบ

แม้นบีมุฮัมมัดจะถูกกดขี่ข่มเหงในเมืองมักก๊ะฮฺ แต่ท่านมิได้ดีใจต่อข้อเสนอจนเดินทางไปยัษริบทันที ท่านให้ชาวยัษริบกลับไปก่อนเพื่อดูว่าในเทศกาลพิธีฮัจญ์ปีหน้า ชาวยัษริบที่สัญญากับท่านไว้จะมีความจริงใจกับท่านเพียงใด

ปีต่อมา ชาวยัษริบกลุ่มนั้นได้กลับมาพบกับท่านอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับนำชาวยัษริบที่หันมารับอิสลามอีกหลายคนมาพบท่าน ด้วยเหตุนี้ นบีมุฮัมมัดจึงสั่งให้สาวกของท่านทะยอยอพยพจากมักก๊ะฮฺไปยังยัษริบก่อน

เมื่อนบีมุฮัมมัดอพยพไปยังเมืองยัษริบ ชาวเมืองได้ให้การต้อนรับท่านอย่างเอิกเกริก ชาวเมืองจำนวนมากได้หันมาเข้ารับอิสลามรวมทั้งอับดุลลอฮฺ บินอุบัย บินสะลูลหันมารับอิสลามด้วย แต่สาวกหลายคนของนบีมุฮัมมัดสงสัยในความจริงใจของเขา เพราะการอพยพมายังเมืองยัษริบของนบีมุฮัมมัดทำให้ความหวังที่จะได้เป็นกษัตริย์ของเขาต้องพังทลายลง

อับดุลลอฮฺ บินอุบัยยังคงวางตัวเป็นมุสลิมที่ดี แม้เขาจะถูกสงสัยในความจริงใจ นบีมุฮัมมัดได้สั่งกับบรรดาสาวกของท่านว่าเรื่องภายในจิตใจเป็นเรื่องระหว่างเขากับพระเจ้า แต่ถ้าเขาประกาศตัวเป็นมุสลิมและมิได้ฝ่าฝืนคำสอนของอิสลาม ลิ้นและมือของมุสลิมต้องไม่เป็นอันตรายต่อเขา

เมื่อผู้นำเมืองมักก๊ะฮฺยกกองทัพมายังเมืองยัษริบเพื่อแก้แค้นให้แก่ความพ่ายแพ้ในการรบครั้งแรก นบีมุฮัมมัดได้เรียกสาวกของท่านประชุมปรึกษาเรื่องการรับมือผู้รุกราน ผู้อาวุโสซึ่งมีอับดุลลอฮฺ บินอุบัยรวมอยู่ด้วยเห็นว่าควรตั้งรับในเมือง แต่สาวกส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนหนุ่มเห็นว่าควรออกไปตั้งรับนอกเมืองเพื่อมิให้เด็ก ผู้หญิง คนแก่ได้รับอันตรายและที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย

นบีมุฮัมมัดจึงสวมเสื้อเกราะและทำตามเสียงส่วนใหญ่ แต่เมื่อสาวกคนหนุ่มรู้สึกว่าพวกตนมีมติที่ทำให้นบีมุฮัมมัดรู้สึกเกรงใจผู้อาวุโส พวกเขาจึงตกลงให้ท่านทำตามที่ท่านสบายใจ แต่นบีมุฮัมมัดตอบว่าเมื่อท่านสวมเสื้อเกราะแล้ว ท่านจะไม่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ

กองทัพของนบีมุฮัมมัดประกอบด้วยสมาชิกของเผ่าต่างๆในยัษริบรวมแล้วประมาณหนึ่งพันคน แต่เมื่อเดินทัพออกไปนอกเมืองได้ไม่นาน อับดุลลอฮฺ บินอุบัย ได้นำคนของเขาจำนวนสามร้อยคนถอนตัวออกจากกองทัพของนบีมุฮัมมัดโดยให้เหตุผลว่าเขาไม่เห็นด้วยกับมติของคนหนุ่ม พฤติกรรมของเขาจึงทำให้กองทัพของนบีมุฮัมมัดเหลือประมาณเจ็ดร้อยคน ผลของสงครามครั้งนั้น ฝ่ายของนบีมุฮัมมัดประสบความพ่ายแพ้และนบีมุฮัมมัดได้รับบาดเจ็บจากสงคราม

นับแต่นั้นมา อับดุลลอฮฺ บินอุบัยกับพวกของเขาจึงถูกเรียกว่า “มุนาฟิก” ซึ่งหมายถึงคนสับปลับหรือคนปากอย่าง ใจอย่าง และคนกลุ่มนี้เป็นเหมือนหนามยอกอกของมุสลิมในเมืองยัษริบ



ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

The battle is heavy.

Banjong Binkason


Yatsri is an old city in the Arabian Peninsula. Before changing the name to Madinah Yasirib is not only a desert Arabian settlement But also the Jewish settlers who fled to live after the city of Jerusalem was destroyed by the Byzantine Empire in AD 70

But the most influential people in Yassib are the Aussians and the Cossack tribes. These two tribes migrated from Yemen after the Maarrib Dam broke and the land was no longer able to be cultivated. But when he was in Yasirib These two tribes are inconsistent. Each side does not allow the other person to become a leader. And each partner had a Jewish tribe

With different tribes being united, therefore when the battle occurred Both tribes will go to ask for help from the Jewish tribes that are their allies. Yatsrib therefore has no central government for a long time.

The loss caused by this conflict that caused Abdullah Bin Ubai Bin Salou, one of the leaders of the Cossack tribes, to find a way to create harmony between his tribe and the Aussie tribe. That is the enemy His efforts were accepted until the two tribes agreed that he should be king of the city of Yasrib.

But during that time, a group of people from two tribes traveled to Hajj in Makkah and met and talked to the Prophet Muhammad until he became faithful to Islam and the members of both tribes spoke mouth. Umhud went to the city of Yasri, promising to help him in the propagation of Islam, and would allow him to be the leader of an outsider who came to rule the city of Yasrib.

Even though Prophet Muhammad was persecuted in the city of Makkah But he was not happy with the proposal until he immediately went to Yarrib. He let the Yatsri people go back first to see that the Hajj festival next year. How much Yat-rip people promised to you will be sincere to you.

The following year, the Yat-rip group returned to meet him again and brought many Yatribs who came to accept Islam. As a result, Prophet Muhammad ordered his disciples Do not evacuate from Makkah to Yassar before

When Prophet Muhammad emigrated to Yassib The people of the city welcomed him as pomp. Many city people have turned to accept Islam, including Abdul bin Binbai Bin Salul, who turned to accept Islam. But many of the disciples of the Prophet Muhammad doubted his sincerity. Because the emigration to Yasib of the Prophet Muhammad caused the hope of becoming his king.

Abdul bin Binbai continued to be a good Muslim. Even though he was skeptical of sincerity The Prophet Muhammad commanded his disciples that the inner mind was between him and God. But if he declared himself a Muslim and did not violate Islamic teachings The tongue and hands of Muslims must not harm him.

When the leader of the city, Maghhah, came to the city of Yasir for revenge for the first battle. Prophet Muhammad called his disciples a meeting to discuss the aggressor response. The elder with Abdullah Bin U-bai is also included to see that the city should be set up. But most of the young disciples saw that they should go out of town to prevent the old girl from harm and the house was damaged.

Prophet Muhammad therefore wore armor and followed most of the sounds. But when the young disciples felt that they had a resolution that made the Prophet Muhammad feel the elder So they agreed to do what you felt comfortable. But Prophet Muhammad replied that when he was wearing an armor You will not change your decision.

The army of the Prophet Muhammad consisted of about a thousand members of various tribes in Yassib. But when he soon marched out of the city, Abdul bin Binbai led his three hundred men to withdraw from the army of Prophet Muhammad by reasoning that he disagreed with the resolution of the young people. His behavior caused the army of the Prophet Muhammad to be about seven hundred men. The result of that war The party of Prophet Muhammad suffered a defeat, and Prophet Muhammad was wounded in the war.

Since then, Abdul-bin Bin-ubai and his men have been called "Munafik", which means a shapely person or a mouthful, and this group is like a Muslim thorn in the city of Yat. forfeit

Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason