จะปฏิบัติต่อพ่อแม่อย่างไรเมื่อพ่อแม่ไม่พอใจที่เราเข้ารับอิสลาม ?

โดย บรรจง บินกาซัน

คนที่เข้ารับอิสลามและไม่ถูกพ่อแม่ต่อต้านนั้นถือว่าเป็นผู้โชคดี แต่มิใช่ว่าทุกคนที่เข้ารับอิสลามจะโชคดีเช่นนั้นเสมอไป เพราะบางคนถูกพ่อแม่แอนตี้จนลำบากใจในการที่จะดำรงชีวิตมุสลิม ความจริงแล้ว เรื่องเช่นนี้มิใช่เพิ่งจะมีในปัจจุบัน หากแต่มีมานานแล้ว แม้แต่ในสมัยของท่านศาสดามุฮัมมัดเอง


สำหรับคนที่เจอปัญหาพ่อแม่ไม่พอใจที่ตัวเองเข้ารับอิสลาม ลองอ่านเรื่องราวจากบทความนี้ดู เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยในการปฏิบัติต่อพ่อแม่ของตนซึ่งถือว่าเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดในบรรดามนุษย์ด้วยกัน

ครั้งหนึ่ง แม่ของซะด์ บิน อบีวักกอศ สาวกคนหนึ่งของท่านศาสดามุฮัมมัดสาบานว่านางจะไม่พูดกับเขาและนางจะไม่กินและไม่ดื่มจนกว่าเขาจะเลิกนับถืออิสลาม นางหยิบยกเอาคำสอนของอิสลามมากล่าวอ้างว่า “อัลลอฮฺได้สั่งเจ้าให้เชื่อฟังพ่อแม่ ฉันเป็นแม่ของเจ้า ดังนั้น เจ้าจะต้องเชื่อฟังฉัน” หลังจากนั้น นางก็ทำตามที่นางได้กล่าวไว้ ด้วยเหตุนี้ อัลลอฮฺจึงได้ประทานกุรอานต่อไปนี้ลงมาเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้มาเข้ารับอิสลามและประสบปัญหาดังกล่าวได้นำไปปฏิบัติ :

“เราได้กำชับมนุษย์ให้ทำดีต่อพ่อแม่ของเขา แต่ถึงกระนั้น หากเขาทั้งสองบังคับให้สูเจ้าเคารพสักการะสิ่งใดควบคู่ไปกับฉันซึ่งสูเจ้าไม่มีความรู้ ก็จงอย่างเชื่อฟังทั้งสอง” (กุรอาน 29 :8)

นอกจากนี้แล้ว อัลลอฮฺยังได้ทรงกล่าวอีกว่า :

“หากทั้งสองบังคับสูเจ้าให้นำสิ่งใดมาเป็นพระเจ้าร่วมกับฉันโดยที่สูเจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น สูเจ้าจงอย่าได้เชื่อฟังเขาทั้งสอง แต่ถึงกระนั้นก็จงอดทนอยู่กับเขาทั้งสองในโลกนี้ด้วยการทำความดี” (กุรอาน 31:15)

คัมภีร์กุรอานทั้งสองวรรคที่กล่าวมาข้างต้นนั้นพูดถึงเรื่องการปฏิบัติต่อพ่อแม่ที่มิใช่มุสลิมไว้อย่างชัดเจน เราจะต้องไม่คิดว่าการเชื่อฟังพ่อแม่ในเรื่องของการปฏิเสธพระเจ้าและเรื่องบาปเป็นสิ่งดีหรือเห็นว่าเป็นเรื่องของการทำความดีต่อพ่อแม่ สิทธิของอัลลอฮฺนั้นต้องมาก่อนใครอื่นใดเสมอสำหรับมุสลิม

นอกจากนั้นแล้ว การเชื่อฟังก็มิได้หมายถึงการเข้าไปทำสิ่งต้องห้ามหรือสิ่งที่ละเมิดขอบเขตคำสั่งของอัลลอฮฺ ยิ่งในสังคมไทยซึ่งเป็นสังคมหลายศาสนาด้วยแล้ว ผู้ที่มาเข้ารับอิสลามจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะในเทศกาลต่างๆซึ่งบางครั้งเราอาจจะมีความจำเป็นต้องกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ เช่น วันตรุษจีน วันคริสต์มาส วันสงกรานต์ ปีใหม่ หรือแม้แต่วันเวลาไทน์ที่คนไทยลอกเลียนจนเกินฝรั่งและอื่นๆ เทศกาลเหล่านี้ล้วนมีที่มาจากความเชื่อทางศาสนาหรือไม่ก็จะมีเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น มุสลิมจึงไม่อาจไปเข้าร่วมได้เลย ดังนั้น ถ้าคิดว่าความศรัทธาเราไม่แข็งพอหรือเราไม่สามารถทนการรบเร้าของพ่อแม่ญาติพี่น้องให้ทำในสิ่งที่เกินขอบเขตของอิสลามก็ไม่ควรจะกลับไปพบปะพ่อแม่ญาติพี่น้องของตนในระหว่างเทศกาลดังกล่าว

อย่าตัดความสัมพันธ์กับพ่อแม่และญาติพี่น้อง

ถึงจะถูกต่อต้านอย่างไรก็ตาม อิสลามก็ห้ามตัดความสัมพันธ์ทางเครือญาติ ประการแรก ขอให้เราตระหนักว่านี่คือการทดสอบจากอัลลอฮฺ เพราะอัลลอฮฺได้กล่าวไว้แล้วว่าพระองค์จะไม่ปล่อยให้ใครกล่าวว่าตัวเองเป็นผู้ศรัทธาโดยไม่ถูกทดสอบ และประการที่สอง ลองอ่านความหมายของกุรอาน 31:15 ข้างต้นดีๆอีกทีหนึ่ง เราจะพบว่ากุรอานมิได้สั่งให้ “ตัดความสัมพันธ์” หากแต่สั่งว่า “จงอย่าเชื่อฟัง” ในเรื่องของการนำสิ่งใดมาเป็นที่เคารพสักการะและวิงวอนควบคู่ไปกับอัลลอฮฺต่างหาก ส่วนในเรื่องอื่นๆที่เป็นการทำความดีต่อพ่อแม่ในชีวิตแห่งโลกนี้ เราก็ยังคงต้องปฏิบัติอยู่เหมือนเดิมและต้องดีกว่าเก่าด้วยซ้ำ เพราะพ่อแม่ของเรายังคงมีสิทธิ์เหนือเราอยู่ ดังนั้น เราจึงต้องรักษาความสัมพันธ์กับท่านไว้ให้ดีที่สุด

ครั้งหนึ่ง อัสมาอ์ลูกสาวของอบูบักรฺเพื่อนสนิทของท่านศาสดามุฮัมมัดได้อพยพมายังมะดีนะฮฺกับพ่อของเธอ หลังจากการทำสัญญาฮุดัยบียะฮฺซึ่งทำให้มุสลิมสามารถไปมาหาสู่กันได้ แม่ของเธอได้มาเยี่ยมเธอที่มะดีนะฮฺ ก่อนที่จะเดินทางกลับ นางได้ขอของขวัญบางอย่างจากอัสมา แต่อัสมาไม่แน่ใจเพราะว่าแม่ของเธอเกลียดชังอิสลามและเป็นผู้บูชาเทวรูป เธอจึงไปหาท่านศาสดามุฮัมมัด (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) และถามว่าเธอควรจะปฏิบัติตัวกับแม่ของเธออย่างไรและสามารถให้ของขวัญแก่แม่ของเธอได้หรือไม่ ท่านศาสดาได้ตอบว่า “ได้สิ และจงปฏิบัติกับแม่ของเธออย่างดี”

สิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกจะทำได้ในขณะที่พ่อแม่ยังมีชีวิต

ผู้ที่มีพ่อแม่มิใช่มุสลิมสามารถที่จะวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺให้พ่อแม่ของตัวเองได้ อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า “ไม่เป็นการเหมาะสมสำหรับนบีและบรรดาผู้ศรัทธาที่จะวิงวอนขอพระเจ้าให้อภัยโทษแก่บรรดาผู้ตั้งภาคีถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นญาติสนิทก็ตามหลังจากที่ได้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นชาวนรก” (กุรอาน 9:13)

ที่กล่าวมานั้นหมายความว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเราได้เสียชีวิตไปแล้วในสภาพที่มิใช่มุสลิม อย่างไรก็ตาม อิสลามก็อนุญาตให้ลูกชักชวนพ่อแม่มาสู่อิสลามในขณะที่ท่านทั้งสองยังมีชีวิต

ในสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) อบูฮุร็อยเราะฮฺสาวกของท่านคนหนึ่งได้มาเข้ารับอิสลาม แต่แม่ของเขายังคงเป็นผู้ปฏิเสธพระเจ้า ท่านได้พยายามที่จะชักชวนแม่ของเขาให้มาเข้ารับอิสลามอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงเคารพและเชื่อฟังแม่มาโดยตลอด ครั้งหนึ่ง เมื่อเขาพยายามเชิญชวนแม่ให้มาสู่อิสลาม แต่แม่ของเขากลับกล่าวคำพูดที่ดูถูกท่านนบี

อบูฮุร็อยเราะฮฺรู้สึกเจ็บปวดมาก ดังนั้น เขาจึงได้ไปหาท่านนบีและกล่าวว่า “ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ฉันพยายามทุกอย่างที่จะทำให้แม่ของฉันยอมรับอิสลาม แต่แม่ปฏิเสธตลอดเวลา วันนี้ เมื่อฉันขอให้แม่ศรัทธาในอัลลอฮฺผู้สูงส่ง แม่กลับไม่พอใจเป็นอย่างมากและพูดจาดูถูกท่านจนฉันต้องน้ำตาไหลเพราะทนไม่ได้ ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ โปรดวิงวอนต่ออัลลอฮฺให้ทรงเปิดหัวใจของแม่ฉันให้มาสู่อิสลามด้วยเถิด” ท่านนบีมุฮัมมัด (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ได้ยกมือของท่านขึ้นทันทีและวิงวอนว่า “โอ้อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่ โปรดทรงนำทางแม่ของอบูฮุร็อยเราะฮฺด้วยเถิด” เมื่อได้ยินเช่นนั้น อบูฮุร็อยเราะฮฺก็ดีใจและได้กลับไปบ้าน

เมื่อเขามาถึงบ้าน เขาก็พบว่าประตูถูกปิดสลักอยู่ทางด้านใน แต่เขาได้ยินเสียงน้ำไหลซึ่งแสดงว่าแม่ของเขากำลังอาบน้ำอยู่ หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว แม่ของเขาก็มาเปิดประตู และเมื่อเขาเข้าไปข้างในบ้าน แม่ของเขาก็กล่าวว่า “ลูกเอ๋ย อัลลอฮฺทรงได้ยินเจ้า จงเป็นพยานด้วยว่าแม่กล่าวกะลิมะฮฺชะฮาด๊ะฮฺ(คำปฏิญาณเข้ารับอิสลาม)แล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อบูฮุร็อยเราะฮฺก็ร้องไห้ออกมาด้วยยินดีและเขาได้ไปหาท่านนบีเพื่อบอกท่านว่าอัลลอฮฺได้ทรงรับคำวิงวอนของท่านแล้ว ท่านนบีได้สรรเสริญอัลลอฮฺและได้ให้ข้อแนะนำบางอย่างแก่อบูฮุร็อยเราะฮฺ หลังจากนั้นท่านก็วิงวอนต่ออัลลอฮฺว่า “โอ้ อัลลอฮฺ ขอพระองค์ได้ทรงประทานความรักของอบูฮุร็อยเราะฮฺกับแม่ของเขาลงในหัวใจของมุสลิมที่แท้จริงทุกคนและขอพระองค์ทรงประทานความรักของมุสลิมที่แท้จริงทุกคนลงในหัวใจของคนทั้งสองด้วยเถิด”

สรุปก็คือ ถ้าหากว่ามันไม่ใช่เรื่องของความเชื่อและเรื่องรากฐานของอิสลามแล้ว กฎที่จะต้องปฏิบัติต่อพ่อแม่และญาติใกล้ชิดก็คือจงทำดีกับคนเหล่านั้นให้มากที่สุด การให้ความรักและการปฏิบัติด้วยดีต่อคนเหล่านั้นมิใช่แค่เพียงหน้าที่ของเราเท่านั้น หากแต่มันยังเป็นสิ่งที่จะทำให้คนเหล่านั้นยอมรับอิสลามด้วย นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำให้แก่พ่อแม่ของเราที่มิใช่มุสลิม

ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]

How to treat your parents when your parents are dissatisfied with your conversion to Islam?

Banjong Binkason

Those who embrace Islam and are not opposed by their parents are considered lucky. But not every person who embraces Islam is always lucky. Because some people are distressed by their parents in order to live a Muslim life. In truth, this is not just the case at present But for a long time Even in the days of the Prophet Muhammad himself

For those who encounter problems, parents are not happy that they are converted to Islam. Try reading the story from this article. In case it will be some or more useful in treating their parents, who are considered the most benefactors among men.

At one time, the mother of Zad bin Abiwak, a prophet of the Prophet Muhammad vowed that she would not speak to him and that she would not eat and drink until he gave up Islam. She put forward Islamic teachings to claim that "Allah ordered you to obey your parents. I am your mother, so you must obey me. "After that, she did what she had said. For this reason, Allah has sent down the following Quran as a guide for those who come. Islam and these problems have been implemented:

"I have charged men to do good to their parents. Nevertheless If they force you to worship anything with me that you do not know So obey them "(Quran 29: 8).

Moreover Allah also said:

"If they both forced you to bring anything to me as a god without you having knowledge of that You must not obey them. Still, be patient with them in this world by doing good deeds "(Quran 31:15).

The two Qur'ans mentioned above clearly describe the treatment of non-Muslim parents. We must not think that obedience to parents regarding rejection of God and sin is a good thing, or that it is a matter of doing good deeds to parents. The rights of Allah must always come before anyone else for Muslims.

Moreover Obedience does not mean entering into prohibited or violating the limits of Allah. Especially in Thai society which is also a multi-religious society People who come to Islam must be especially careful in various festivals, which we may sometimes need to return to visit our parents, such as Chinese New Year, Christmas, Songkran, New Year, or even the time that Thai people copy. Imitation until foreigners and others All of these festivals are based on religious beliefs or religious matters. Muslims cannot join. Therefore, if you believe that your faith is not strong enough or you cannot endure the persecution of your parents, relatives to do anything beyond the limits of Islam, then you should not go back to meet your parents, relatives. During their festival

Do not break the relationship with parents and relatives.

To be opposed however Islam forbids the cutting of kinship relations. First, let us realize that this is a test of Allah. Because Allah has already said that He will not let anyone say that they are believers without being tested. And secondly Let's read the meaning of the Quran 31:15 above again. We will find that the Quran has not ordered "Disconnected" if ordered that "Do not obey" in regard to bringing anything that is worshiped and supplicated alongside Allah. As for other matters that are good to parents in this worldly life We still have to act as before and must be even better. Because our parents still have rights over us, so we must maintain the best relationship with you.

At one time, Asam, the daughter of Abu Bakr, a close friend of the Prophet Muhammad, migrated to Madinah with her father. After the contract of the Hadid Biyah, which allowed Muslims to come to each other Her mother came to visit her at Madinah. Before going back She asked for some gifts from Asma. But Asma is not sure because her mother hates Islam and is a worshiper of idols. She therefore went to the Prophet Muhammad. (May peace be upon him) and ask how she should treat her mother and whether she can give her a gift. The Master answered: "Yes, and treat your mother well."

The best thing a child can do while parents are still alive.

People who have non-Muslim parents are able to appeal to Allah for their own parents. Allah said: "It is not appropriate for the prophets and believers to implore God to forgive those who associate, even if they are close relatives, after which it is clear that they are the people of hell." Quran 9:13)

This means that after our parents passed away in a non-Muslim state, however, Islam allowed children to persuade their parents to come to Islam while they were still alive.

In the days of the Prophet Muhammad (Please peace be upon him). One of his disciples, Abu Hurriyah, came to Islam. But his mother is still a denial of God He tried to persuade his mother to come to Islam at all times. But it was not successful. However, he still respected and obeyed his mother all the time when he tried to invite his mother to Islam. But his mother spoke with contempt for the Prophet

Abu Huroi Rahah felt very painful, so he went to the Prophet and said: "The Messenger of Allah I tried everything to make my mother accept Islam. But I always refuse. Today, when I ask my mother to believe in the Noble Allah My mother was very upset and insulted him until I had tears because I couldn't bear. The messengers of Allah Please appeal to Allah to open my mother's heart to Islam. "The Prophet Muhammad (Peace be upon him) immediately raised his hand and begged that "O Allah, the Great Please guide Abu Hurryh's mother too. "When he heard that Abu Hurriyah was happy and returned home.

When he arrived home He found that the door was bolted inside. But he heard the sound of running water indicating that his mother was bathing After taking a shower His mother opened the door. And when he entered the house His mother said: "My son, Allah has heard you. Testify that Ma said Kalima Shahad (Vow to Islam) "

When hearing that Abu Hurrahir cried out with joy, and he went to the Prophet to tell him that Allah had received your supplication. The Prophet praises Allah and gives some advice to Abu Hurrahman. Afterwards he appealed to Allah: "Oh Allah, let the love of Abu Haur Rahir and his mother be in the hearts of all true Muslims and ask Him. Give the love of every true Muslim to their hearts. "


In short, if it's not about beliefs and the foundation of Islam, The rule that must be treated by both parents and close relatives is to be good to them. Giving love and good treatment to them is not just our duty. But it is also what will make those people accept Islam too That is the best thing we can do for our non-Muslim parents.



Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason