บรรจง บินกาซัน
แม้นบีมุฮัมมัดและมุสลิมอพยพจากมักก๊ะฮฺไปยังเมืองยัษริบเพื่อหลีกเลี่ยงการกดขี่ข่มเหงแล้วก็ตาม แต่ความอาฆาตแค้นของชาวมักก๊ะฮฺยังไม่จางหาย หลังจากนั้นประมาณสองปี หัวหน้าชาวมักก๊ะฮฺได้รวมไพร่พลประมาณหนึ่งพันคนมุ่งหน้ามายังเมืองยัษริบ เมื่อนบีมุฮัมมัดรู้ข่าว ท่านจึงระดมกำลังคนได้ประมาณสามร้อยคนและอาวุธเท่าที่จะหาได้ออกไปตั้งรับผู้บุกรุกนอกเมืองตรงบริเวณที่เรียกว่า “บะดัรฺ”
เมื่อสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน ตามธรรมเนียมการทำสงครามของชาวอาหรับ ทั้งสองฝ่ายจะส่งนักรบฝีมือดีออกไปต่อสู้กันตัวต่อตัวเพื่อให้ไพร่พลที่ติตดามมาตัดสินใจว่าจะทำสงครามหรือไม่เมื่อเห็นผลการต่อสู้ของนักรบฝีมือดีแล้ว
ทั้งสองฝ่ายต่างส่งนักรบฝีมือดีออกไปต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวฝ่ายละสามคน ผลลงเอยด้วยนักรบฝีมือดีฝ่ายมักก๊ะฮฺทั้งสามคนถูกปลิดชีวิต ส่วนฝ่ายมุสลิมบาดเจ็บหนึ่งคน
แม้จะเสียนักรบคนสำคัญไปสามคน แต่ด้วยความอาฆาตและเห็นว่าฝ่ายตัวเองมีไพร่พลมากกว่า ฝ่ายมักก๊ะฮฺได้ตัดสินใจทำสงครามเพื่อกำจัดนบีมุฮัมมัดและมุสลิมมิให้เติบโตขึ้นมาท้าทายในอนาคต นี่เป็นสงครามครั้งแรกที่มุสลิมเผชิญและจบลงด้วยมุสลิมได้รับชัยชนะแม้กำลังคนและอาวุธจะน้อยกว่า
ชัยชนะในการรบครั้งแรกทำให้มุสลิมเกิดความมั่นใจและศรัทธาในพระเจ้ามากขึ้น ขณะเดียวกัน มันกลับสร้างความอาฆาตเคียดแค้นในหมู่ชาวมักก๊ะฮฺมากขึ้นและหาทางที่จะชำระแค้นให้แก่ผู้ที่ล้มตายในสงครามที่ทุ่งบะดัรฺ
ประมาณหนึ่งปีหลังสงครามครั้งแรก หัวหน้าชาวมักก๊ะฮฺได้นำกองทัพที่ประกอบด้วยนักรบประมาณสามพันคนพร้อมอาวุธอย่างดีและเสบียงครบครัน เมื่อนบีมุฮัมมัดรู้ข่าว ท่านได้เรียกมุสลิมทั้งคนหนุ่มและผู้อาวุโสประชุมเพื่อวางแผนรับมือศัตรูที่กำลังบุกมารุกราน
ในการประชุม อับดุลลอฮฺ บินอุบัย ผู้ที่ก่อนหน้านี้สูญเสียโอกาสการเป็นผู้นำเพราะการมาของนบีมุฮัมมัดได้เสนอให้ตั้งรับข้าศึกในเมือง แต่คนหนุ่มส่วนใหญ่เสนอให้นบีมุฮัมมัดออกไปตั้งรับนอกเมือง ความจริงแล้ว นบีมุฮัมมัดคิดจะตั้งรับข้าศึกในเมือง แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่ของคนหนุ่มต้องการให้ตั้งรับข้าศึกนอกเมือง ท่านจึงยอมรับ หลังจากนั้น ท่านได้สั่งให้ทุกคนเตรียมตัวออกศึกหลังจากระดมกำลังนักรบได้ประมาณหนึ่งพันคน ในจำนวนนี้มีกำลังคนของอับดุลลอฮฺ บินอุบัยอยู่ประมาณสามร้อยคน
เมื่อนบีมุฮัมมัดสวมเสื้อเกราะเพื่อนำทัพออกไปนอกเมือง หัวหน้าคนหนุ่มได้มาหาท่านนบีและพูดกับท่านว่าหากท่านต้องการเปลี่ยนใจมาตั้งรับในเมือง พวกเขาก็พร้อมที่จะทำตาม แต่นบีมุฮัมมัดกล่าวตอบว่า “เมื่อฉันสวมเสื้อเกราะแล้ว จะไม่เปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น” หลังจากนั้น ท่านก็นำทัพออกไปนอกเมือง
ระหว่างทาง เมื่ออับดุลลอฮฺ บินอุบัยรู้ถึงจำนวนไพร่พลของมักก๊ะฮฺ เขาจึงสบโอกาสนำคนของเขาจำนวนสามร้อยคนทิ้งกองทัพของท่านนบีโดยอ้างว่านบีมุฮัมมัดไม่ทำตามคำแนะนำของเขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาต้องการให้นบีมุฮัมมัดและมุสลิมถูกสังหารในสงครามครั้งนี้เพื่อที่เขาจะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำของชาวเมืองยัษริบตามที่เขาเคยหวังมาก่อน
สงครามครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณภูเขาอุฮุด จึงถูกเรียกว่าสงครามอุฮุด การรบเริ่มต้นด้วยการปะทะกันแบบดุเดือดและฝ่ายรุกรานเป็นฝ่ายล่าถอย แต่เพราะสาวกกลุ่มหนึ่งที่เป็นพลธนูไม่เชื่อฟังคำสั่งของนบีมุฮัมมัด ทหารม้าของฝ่ายรุกรานจึงได้โอกาสเข้ามาตีตลบหลังมุสลิมที่กำลังเป็นฝ่ายรุกไล่ให้ต้องถูกบีบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ชัยชนะที่กำลังอยู่ในมือจึงกลายเป็นความพ่ายแพ้
สงครามอุฮุดทำให้สาวกของนบีมุฮัมมัดพลีชีพไปในสนามรบเจ็ดสิบคนรวมทั้งฮัมซะฮฺนับรบฝีมือดีและเป็นลุงอีกคนหนึ่งของนบีมุฮัมมัด ศพของฮัมซะฮฺถูกผ่าท้องและถูกควักตับออกมากินสดๆโดยฮินด์ผู้เคียดแค้นฮัมซะฮฺที่สังหารพี่ชายของนางในสงครามบะดัรฺ
ในสงครามอุฮุด นบีมุฮัมมัดถูกฟันที่ศีรษะ แต่หมวกเหล็กได้ป้องกันไว้ ฟันของท่านหักไปสองซี่ แต่สาวกได้เข้ามาป้องกันท่านไว้และพาท่านหลบหนีไปได้
หลังสงคราม ระหว่างเดินทางกลับเมืองมะดีนะฮฺ ท่านบอกว่าหลังจากนี้จะมีการญิฮาดที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีก สาวกจึงตกใจ ท่านจึงบอกว่า “การญิฮาดที่ยิ่งใหญ่คือการญิฮาดกับจิตใจของตัวเอง”
ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
[ Translate by Google Translate ]
Crisis is an opportunity to understand people's hearts.
Banjong Binkasan
Even though the Prophet Muhammad and Muslims migrated from Makkah to Yathrib to avoid persecution, But the vengeance of the Meccans had not yet disappeared. After about two years The Meccan chief gathered an army of about a thousand men and headed towards Yathrib. When Prophet Muhammad heard the news So he gathered about three hundred men and as much weapons as he could find and set out to defend the invaders outside the city in an area called Badar.
When two sides face each other According to Arab war traditions Both sides would send their skilled warriors out to fight one on one, so that their enemies could decide whether to go to war or not after seeing the results of the skilled warriors' battles.
Both sides sent skilled warriors to fight one on one, three on each side. The result was that three of Mecca's most skilled warriors were killed. As for the Muslim side, one person was injured.
Despite losing three important warriors But out of vengeance and seeing that his own side had more soldiers Mecca decided to wage war to eliminate the Prophet Muhammad and Muslims from rising up to challenge him in the future. This was the first war that Muslims faced and ended with Muslims victorious despite having less manpower and weapons.
Victory in the first battle strengthened the Muslims' confidence and faith in God, while it also created more resentment among Meccans and sought revenge for those killed in the Battle of the Fields. badar
About a year after the first war The Meccan chief led an army of about three thousand warriors, well armed and well supplied. When Prophet Muhammad heard the news He called together young and old Muslims to come up with a plan to deal with the invading enemy.
At the meeting, Abdullah ibn Ubay, who had previously lost the opportunity to be a leader because of the arrival of the Prophet Muhammad, proposed to defend the city against the enemy. But most of the young men suggested that the Prophet Muhammad go outside the city to defend. In fact, the Prophet Muhammad planned to defend the enemy in the city. But when the majority of the young people wanted to defend the enemy outside the city He accepted. After that, he ordered everyone to prepare for battle after gathering about a thousand warriors. Among them were Abdullah's men. There were about three hundred people in Bin Ubai.
When the Prophet Muhammad put on armor to lead his army out of the city. A young leader came to the Prophet and said to him, "If you want to change your mind and come to defend the city, They are ready to follow. But Prophet Muhammad replied: “Once I put on the armor, It won't change anything.” After that, he led his army out of the city.
On the way, when Abdullah Bin Ubay knew the number of Mecca's army. So he seized the opportunity and led three hundred of his men to abandon the Prophet's army, claiming that the Prophet had not followed his advice. But in reality He wanted the Prophet Muhammad and all Muslims to be killed in this war so that he could become the leader of the people of Yathri as he had hoped before.
This war took place in the area of Mount Uhud. Therefore it is called the War of Uhud. The battle begins with a fierce clash and the aggressor retreats. But because a group of disciples who were archers disobeyed the Prophet Muhammad's orders. The cavalry of the invading party had the opportunity to come and attack the Muslims who were on the offensive, causing them to be squeezed both in front and behind. The victory at hand turned into defeat.
The Battle of Uhud resulted in the deaths of seventy of the Prophet Muhammad's followers, including Hamzah, a skilled warrior and uncle of the Prophet Muhammad. Hamzah's body was cut open and her liver was taken out and eaten fresh by Hind, who was angry at Hamzah for killing her brother in the Battle of Badr.
In the War of Uhud Prophet Muhammad was slashed on the head. But the helmet protected him. Two of his teeth were broken. But his disciples came to protect him and led him away.
After the war, on his way back to Madinah. He said that after this there would be an even greater Jihad. His disciples were shocked. He said, “The greatest jihad is a jihad against one's own heart.”
Source: facebook of Mr.Banjong Binkason Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น