แผ่นดินสะเทือนเตือนถึงโลกใหม่

บรรจง บินกาซัน

ช่วงหลังๆที่ผ่านมามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้งในส่วนต่างๆของโลก ก่อนหน้านี้ไม่นานที่เกาะคิวชูและเอกวาดอร์ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินและชีวิตเป็นจำนวนมาก ล่าสุดที่ตอนกลางของอิตาลีและที่เมียนมาร์ใกล้บ้านเรา จึงอยากถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแผ่นดินไหวให้ท่านได้รู้และคิดเพื่อประโยชน์แก่ชีวิตของผู้อ่าน


แผ่นดินไหวประมาณ 80% เกิดขึ้นตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งถูกเรียกว่าวงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) บริเวณแถบนี้มีภูเขาไฟ 452 ลูกหรือ 75% ของภูเขาไฟที่ซุ่มรอการระเบิดอยู่ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวก็คือการระเบิดของภูเขาไฟและการเคลื่อนของเปลือกโลก

ผิวโลกของเราประกอบด้วยแผ่นเปลือกโลกประมาณ 20 แผ่นที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เมื่อแผ่นเปลือกโลกแผ่นใดเคลื่อนไหวไปกดดันแผ่นอื่น แผ่นดินไหวก็จะเกิดขึ้นและแผ่นดินไหวสามารถทำให้ภูเขาไฟระเบิดได้ อย่างเช่นกรณีการระเบิดของภูเขาไฟเซนต์เฮเลนใน ค.ศ.1980 และการระเบิดของภูเขาไฟเอตนาใน ค.ศ.2002

ในแต่ละปีมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นประมาณ 1.3 ล้านครั้ง ส่วนใหญ่ความแรงประมาณ 2.9 ริกเตอร์หรือต่ำกว่านั้น เราจึงไม่รู้สึก เฉพาะในแคลิฟอร์เนียอย่างเดียวมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นปีละแสนครั้ง ในทุกปีจะมีแผ่นดินไหวขนาด 8 แมกนิจูดอย่างน้อยที่สุดหนึ่งครั้ง

แผ่นดินไหวคร่าชีวิตมนุษย์ปีละประมาณ 8,000 คนและเป็นสาเหตุให้มนุษย์ตายประมาณ 13 ล้านคนในช่วง 4,000 ปีที่ผ่านมา

แผ่นดินไหวครั้งหนึ่งสามารถปลดปล่อยพลังงานได้มากกว่าระเบิดปรมาณูที่ถูกทิ้งบนเกาะฮิโรโชมาใน ค.ศ.1945 หลายร้อยเท่า

แผ่นดินไหวด้านหนึ่งของโลกสามารถรับรู้ได้ในอีกด้านหนึ่งของโลก นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใน ค.ศ.2004 ที่ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิข้ามมหาสมุทรอินเดียพบว่าการสั่นสะเทือนทำให้รอยร้าวซานแอนเดรอัสของแคลิฟอเนียร์ส่วนหนึ่งอ่อนตัวลง และแผ่นดินไหวที่ชิลีใน ค.ศ.1960 ทำให้โลกสั่นสะเทือนเป็นเวลาหลายวัน

แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.1556 ในมณฑลชานสี ประเทศจีนคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 800,000 คน

แผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นใน ค.ศ.1201 ในทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอเรเนียนคร่าชีวิตผู้คนไปกว่าหนึ่งล้านคน

แผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในโลกที่ถูกบันทึกไว้คือ 9.5 แมกนิจูดในชิลีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.1960 รุนแรงที่สุดในสหรัฐอเมริกาขนาด 9.2 แมกนิจูดที่พรินซ์ วิลเลียม ซาวด์ในอลาสกาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ.1964

แผ่นดินถล่มจากแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นใน ค.ศ.1920 ในมณฑลกานซูของจีน แผ่นดินถล่มครั้งนั้นคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 200,000 คนในขณะที่คลื่นยักษ์สีนามิที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นใน ค.ศ.1771 มีขนาดสูงถึง 85 เมตร

นักวิทยาศาสตร์คิดว่าสัตว์รู้สึกได้ถึงการสั่นไหวเบาๆของเปลือกโลกก่อนเกิดแผ่นดินไหว และยังคิดอีกว่าสัตว์สามารถรับรู้ถึงสัญญาณไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของหินใต้เปลือกโลก

รอยเลื่อนซาน แอนเดรอัสเคลื่อนตัวประมาณ 2 นิ้วต่อไป ถ้าเป็นเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ ซาน ฟรานซิสโกและลอสแองเจลีสจะอยู่ติดกันใน 15 ล้านปี

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ.2011 ทำให้มวลของโลกขยับไปสู่ศูนย์กลางซึ่งทำให้โลกหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิมและทำให้วันสั้นลงไป 1.6 ไมโครวินาที ส่วนแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรทำให้วันสั้นลงไป 6.8 ไมโครวินาที

นักศึกษาวิจัยค้นพบว่าแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่มีต่อรอยร้าวซานแอนเดรอัสมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการสั่นสะเทือนเบาๆลึกลงไปข้างใต้

นบีมุฮัมมัดบอกว่าสัญญาณหนึ่งในสัญญาณต่างๆก่อนอวสานของโลกคือแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

คัมภีร์กุรอานบท(ซูเราะฮฺ)ที่ 99 กล่าวว่าเมื่อวันอวสานของโลกมาถึง โลกจะถูกเขย่าอย่างรุนแรงจนสั่นสะเทือนและจะคายหรือพ่นสิ่งที่อยู่ในนั้นออกมาจนมนุษย์ตกตะลึงและต่างพากันถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อถึงเวลานั้น มนุษย์ไม่มีเวลาตอบหรือแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

ใครที่ทำดีหรือทำชั่วไว้แม้เพียงอณูหนึ่งจะได้เห็นมัน



ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason