หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565

อิสลาโมโฟเบีย มายาอคติต่ออิสลาม

บรรจง บินกาซัน

การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิมในประเทศต่างๆของยุโรปไม่ว่าจะโดยการอพยพเข้าเมืองหรือโดยการเกิดกำลังเป็นปัญหาทางสังคมอย่างหนึ่งของรัฐบาลและชุมชนในยุโรปไม่ต่างไปจากที่รัฐบาลสหรัฐและชาวอเมริกันกำลังกังวลต่อการอพยพเข้าเมืองของชาวเม็กซิกันทั้งนี้เพราะชาวอเมริกันมองว่าพวกผู้อพยพเหล่านี้ได้เข้ามาแย่งงานในประเทศของตนและเกรงว่าคนเหล่านี้จะเป็นที่มาของอาชญากรรม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้รัฐบาลและชุมชนชาวตะวันตกหวั่นวิตกมากไปกว่านั้นก็คือการตื่นตัวของชาวมุสลิมที่กำลังหันกลับมาสู่การดำเนินชีวิตตามวิถีอิสลามกันมากขึ้น ปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็คือการแต่งกายของผู้หญิงมุสลิมที่ปกปิดร่างกายมิดชิดมากขึ้นในขณะที่ผู้หญิงในสังคมตะวันตกกลับแต่งกายเปิดเผยเรือนร่างมากขึ้น

หลังเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน 2001 ภาพเครื่องบินชนตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ที่ถูกนำมาออกมาแพร่ไปทั่วโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยสื่อโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่อย่างเช่น ซีเอ็นเอ็น และบีบีซีประกอบการตั้งศาลเตี้ยพิพากษาโดยไม่มีการไต่สวนว่าอุซามะฮฺ บินลาดินเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังทำให้ชาวตะวันตกโดยเฉพาะในยุโรปเกิดโรคอิสลาโมโฟเบีย(Islamophobia)ขึ้นมา

โฟเบีย แปลว่ากลัว คำว่า “ไฮโดรโฟเบีย” (Hydrophobia) แปลว่า “โรคกลัวน้ำ” ซึ่งเป็นศัพท์ทางวิชาการของโรคสุนัขบ้าที่กลัวน้ำ โรคนี้เกิดขึ้นกับสุนัขและมีตัวเชื้อโรคเป็นสาเหตุ แต่โรคอิสลาโมโฟเบียเป็นโรคทางจิตประสาทซึ่งไม่มีเชื้อโรค แต่โรคนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเป็นกระบวนการตั้งแต่ก่อนหน้าเหตุการณ์ช็อคโลก 11 กันยายน ดังจะเห็นได้จากภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่องได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยจงใจฉายภาพให้คนทั่วโลกเห็นว่ามุสลิมชาวอาหรับเป็นพวกผู้ก่อการร้ายเป็นการปูทางไว้ก่อน ภาพเหตุการณ์ถล่มตึกเวร์ลเทรดเป็นแค่เพียงการปล่อยเชื้อความหวาดกลัวและความเกลียดชังมุสลิมและอิสลามให้รุนแรงทั่วโลกมากขึ้นเท่านั้นเอง

แผนการดังกล่าวดูเหมือนว่าได้ผลอย่างกว้างขวาง เพราะหลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ชาวมุสลิมโดยเฉพาะชาวตะวันออกกลางถูกมองด้วยความหวาดระแวงว่าเป็นผู้ก่อการร้าย อิสลามได้ถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นลัทธิก่อการร้าย มัสญิดหลายแห่งถูกโจมตี องค์กรมุสลิมหลายแห่งถูกบุกตรวจค้น เงินกองทุนการกุศลของมุสลิมหลายแห่งถูกอายัด สตรีมุสลิมที่แต่งกายตามหลักศาสนาถูกข่มขู่คุกคามและต่อต้าน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็กลับทำให้คนในสหรัฐและยุโรปจำนวนไม่น้อยเกิดความสงสัยและหันมาให้ความสนใจศึกษาอิสลามกันมากขึ้น ร้านหนังสือหลายแห่งไม่เพียงแต่ต้องนำหนังสืออิสลามเก่าๆออกมาขายเท่านั้น แต่ยังต้องพิมพ์เพิ่มอีกมากมาย ภาษาอาหรับกลับกลายเป็นภาษาที่หลายคนสนใจจนต้องลงทะเบียนเข้าคิวรอเรียนและชาวตะวันตกอีกจำนวนมากมายได้เข้ารับอิสลาม

การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและการตื่นตัวทางศาสนาของชาวมุสลิมนี้เองที่ทำให้ประเทศตะวันตกเกิดความกังวลเพราะเกรงว่า“การปะทะกันทางอารยธรรม”จะเกิดขึ้นในประเทศของตนซึ่งจะสร้างความเสียหายขึ้นในภายหลัง ดังนั้น นักวิชาการโดยเฉพาะนักสังคมวิทยาจึงได้พยายามศึกษาชุมชนมุสลิมตามประเทศต่างๆทั่วโลกเพื่อทำความเข้าใจในการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์

ประเทศไทยซึ่งมีประชากรมุสลิมอยู่ไม่น้อยก็เป็นประเทศหนึ่งที่นักวิชาการตะวันตกให้ความสนใจมาศึกษา  เมื่อสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนเองได้มีโอกาสต้อนรับกลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจากนอร์เวย์ซึ่งสนใจในปรากฏการณ์การตื่นตัวของมุสลิมในยุโรปและในที่ต่างๆ

ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นกันตอนหนึ่ง ศาสตราจารย์ผู้นำคณะได้ถามว่า ปัจจุบัน ประเทศที่เจริญก้าวหน้าได้เปลี่ยนสภาพของตัวเองเป็นประเทศวัตถุนิยมปฏิเสธศาสนากันหมดแล้ว แต่อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้มุสลิมหันกลับเข้าสู่ศาสนา

ศาสตราจารย์ผู้ถามใช้คำว่า Secularisation ซึ่งหมายถึงการมุ่งแต่วัตถุโดยไม่สนใจหรือเกี่ยวข้องกับศาสนา ความจริงแล้ว คำนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฝ่ายโปรเตสแตนท์มีปฏิกิริยาต่อต้านคริสตจักรแคธอลิกและแยกตัวออกมาตั้งคริสตจักรของตนเอง

ผมได้แสดงความเห็นไปว่าในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตของมนุษย์ประกอบไปด้วยร่างกายและวิญญาณ ชีวิตมนุษย์จะสมบูรณ์และมีความสุขก็ต่อเมื่อร่างกายและวิญญาณเกิดความสมดุลกันพอดี ไม่หนักไปด้านหนึ่งด้านใด ในอดีต ก่อนที่โลกจะมีกฎหมายและวิทยาศาสตร์จะเจริญก้าวหน้า ศาสนาต่างหากที่ทำหน้าที่สร้างสมดุลให้แก่ชีวิตมนุษย์ บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามคำสอนของศาสนาจึงมักไม่มีความว้าวุ่นและสังคมที่วางพื้นฐานอยู่บนหลักการศาสนาจึงไม่ค่อยมีความวุ่นวาย แต่เมื่อมนุษย์และสังคมละทิ้งศาสนา โลกนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากป่าช้าแตกที่ภูตผีปีศาจออกมาอาละวาดและครองเมืองแทนคนดีมีความสามารถ

เมื่อใดก็ตามที่โมเมนตัมหรือลูกตุ้มของชีวิตแกว่งไปทางด้านวัตถุอย่างเดียว มนุษย์ก็จะหลงใหลไขว่คว้าหาวัตถุสนองความต้องการของเนื้อหนังร่างกายเพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม ความยุติธรรมและความสงบที่วิญญาณต้องการเช่นกัน ความเสื่อมทางศีลธรรมเป็นสิ่งที่สามัญสำนึกมนุษย์ยอมรับไม่ได้อยู่แล้วโดยไม่จำเป็นต้องเป็นพระ เพราะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิดแล้ว มนุษย์จึงมีความรู้สึกไม่พอใจเป็นธรรมดา

แน่นอน ถ้ามนุษย์ต้องการความสงบทางด้านวิญญาณ มนุษย์อาจจะหนีออกจากความฟอนเฟะเละเทะทางโลกวัตถุไปดำเนินชีวิตแบบนักพรตหรือฤษีชีไพรหรือไม่ก็ใช้ชีวิตแบบนักบวช แต่มนุษย์มิสามารถใช้ชีวิตแบบนักบวชหรือฤษีชีไพรได้หมด ดังนั้น มนุษย์ส่วนหนึ่งก็ต้องหันมาเรียกร้องความเป็นธรรมและต่อต้านลัทธิวัตถุนิยม นี่คือที่มาของการเกิดลัทธิคอมมิวนิสต์ การต่อสู้ของสองลัทธิในศตวรรษที่แล้วได้ทำให้ผู้คนต้องล้มตายนับสิบนับร้อยล้านคนจนในที่สุดลัทธิคอมมิวนิสต์ต้องพ่ายแพ้และกลายเป็นประวัติศาสตร์ไป 

ปัจจุบัน โลกเหลือลัทธิใหญ่อยู่เพียงลัทธิเดียวคือลัทธิทุนนิยมที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำและคนทั่วโลกต่างพากันคิดว่าโลกนี้คงจะไม่มีลัทธิอะไรเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตหรือระเบียบของสังคมแล้วนอกไปจากลัทธิทุนนิยม

แต่ชาวมุสลิมทั่วโลกมิได้เห็นเช่นนั้น เพราะชาวมุสลิมทั่วโลกมีมรดกทางวัฒนธรรมของตนเอง พวกเขาเริ่มกลับมามองประวัติศาสตร์ของตัวเองว่าครั้งหนึ่งอิสลามได้เป็นระบอบการดำเนินชีวิตของประชาคมโลกที่สามารถสร้างสมดุลให้แก่ชีวิตได้ และเคยรุ่งเรืองมาแล้วในอดีต แต่เพราะความฟอนเฟะเลเทะของผู้ปกครองรัฐอิสลามที่อิสตันบูล ระบอบอิสลามจึงได้ถูกทำลายลงไปโดยแผนการของชาวตะวันตก ความต้องการที่จะกลับไปสู่วิถีอิสลามจึงเริ่มขึ้นตามชุมชนและประเทศมุสลิมต่างๆ

หลังจากการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของการปฏิวัติครั้งนั้นและท่าทีต่อต้านมหาอำนาจสหรัฐได้เป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนคนหนุ่มสาวมุสลิมทั่วโลกเริ่มหันกลับมาสู่อิสลามด้วยความกระตือรือร้น นักศึกษาหญิงมุสลิมในมหาวิทยาลัยต่างๆได้แสดงอัตลักษณ์ของตนออกมาให้เห็นด้วยการแต่งกายปกปิดมิดชิดตามหลักการอิสลามกันมากขึ้น  การเปลี่ยนแปลงนี้ศาสตราจารย์ผู้นำคณะก็ยอมรับเพราะตนเองเคยเดินทางมาประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

ผมทิ้งท้ายการพูดคุยกันในครั้งนั้นว่าถึงแม้ประเทศไทยจะก้าวหน้าสู้ชาติตะวันตกไม่ได้ แต่ประเทศไทยก็ให้สิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติศาสนกิจแก่ทุกศาสนิก เคารพในสิทธิมนุษยชน อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก ทุกศาสนิกจึงอยู่ร่วมกันอย่างสงบ แต่ผมรู้สึกอดประหลาดใจไม่ได้ว่าทำไมชาติตะวันตกอย่างฝรั่งเศสซึ่งเป็นต้นกำเนิดประชาธิปไตยและเสรีนิยมจึงต่อต้านมุสลิมที่ต้องการจะดำเนินชีวิตตามความศรัทธาและศาสนาของตน ?

ถ้าหลุยส์ ปาสเตอร์ยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ว่าท่านจะสามารถคิดค้นเซรุ่มป้องกันโรคอิสลาโมโฟเบียให้คนฝรั่งเศสและชาวโลกได้ไหม




ที่มา : facebook ของอาจารย์บรรจง บินกาซัน มูลนิธิสันติชน
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason



| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |


[ Translate by Google Translate ]


Islamophobia Maya Bias against Islam

Banjong Binkasan

The rise of the Muslim population in European countries, either by immigration or by birth, is a social issue for European governments and communities, just as the US government and Americans are. Concerned about Mexican immigration because Americans view them as taking over jobs in their country and fear they are the source of crime.
However, what worries Western governments and communities even more is the alarm among Muslims who are turning to Islamic lifestyles. The most noticeable phenomenon is that Muslim women's dress is more veiled while women in western societies are more revealing.
After the events of September 11, 2001, footage of a plane crashing into the World Trade Center has been repeatedly circulated around the world by television giants such as CNN and the BBC. There is no inquiry that Osama Bin Laden was the mastermind behind Islamophobia in the West, especially in Europe.
Phobia means fear, and "hydrophobia" means "fear of water," which is the academic term for rabies who are afraid of water. The disease occurs in dogs and is caused by a germ. But islamophobia is a psychosomatic disease that does not contain pathogens. But the disease has been created in a process since before the September 11 shocks, as can be seen in many Hollywood movies that have been created with the intention of showing people around the world that Muslims are Muslims. Arabs are terrorists paving the way. The collapse of the World Trade Center is merely a contagion of terror and growing hatred for Muslims and Islam around the world.
Such a scheme seems to be widely effective. because after that incident Muslims, especially Middle Easterners, are viewed with suspicion as terrorists. Islam has been labeled as a terrorism. Many mosques were attacked. Several Muslim organizations were raided. Many Muslim charitable funds have been seized. Muslim women who dress according to religion are subjected to intimidation and resistance. but at the same time It has caused many people in the United States and Europe to become more skeptical and turn their attention to Islamic studies. Many bookstores not only sell old Islamic books. But still have to type a lot more. Arabic has become such a popular language that many people have to queue up for classes and many Westerners have accepted Islam.
It is this increase in Muslim population and religious awakening that worries Western countries for fear that “clash of civilizations” will occur in their own country which will cause further damage. Academics, especially sociologists, have tried to study Muslim communities in countries around the world to understand how to live in harmony.
Thailand, which has a relatively small Muslim population, is one of the countries that Western scholars are interested in studying. a couple of weeks ago The author herself had the opportunity to welcome a group of students and professors at a university from Norway who were interested in the phenomenon of Muslim awakening in Europe and elsewhere.
In a conversation exchanging opinions in one episode The professor leading the faculty asked that now all progressive countries have transformed themselves into materialist countries, rejecting religion. But what was the factor that led Muslims to revert to religion?
The professor who asked the question used the word Secularization This means focusing on objects with no interest or involvement with religion. In fact, the term originated after the Protestant reaction against the Catholic Church and the secession of Christianity. own machine
I have commented that in fact Human life consists of body and spirit. Human life is complete and happy only when body and spirit are in perfect balance. Not hard on any side. In the past, before the world had law and science progressed. Religion is responsible for balancing human life. People who live according to religious teachings tend to be less distracted and religious-based societies are less disturbed. But when humans and society abandon religion This world is no different from a cemetery where demons come out to rampage and rule the city for good and talented people.
Whenever the momentum or pendulum of life oscillates only towards the material side, Without morality, man would pursue materialism solely for the needs of the physical body. The justice and peace the souls need too. Moral degradation is already unacceptable to human common sense without being a god. Because the conscience is something that has been instilled in human beings since birth. Human beings naturally feel dissatisfied.
Of course, if human beings want spiritual peace Humans may escape from materialistic obscurity to live as a monk or a hermit, or live a priestly life. But human beings cannot live the life of a priest or hermit. Therefore, some humans have to turn to demand justice and oppose materialism. This is the origin of communism. The last century's battles of two ideologies cost the lives of tens and hundreds of millions of people until communism was eventually defeated and made history.
Today, the world is left with only one big cult, capitalism, led by the United States, and people all over the world think that there is no such ideology as a guide to life or social order other than capitalism.



Source: facebook of Mr.Banjong Binkason  Santichon Islamic Foundation
https://www.facebook.com/Banjong.Binkasonc

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น